คุณยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชนถึงประเด็นการปิดตัวลงของ Robinhood
ทั้งนี้ จากการปิดตัวของ Robinhood ที่ขาดทุน 4 ปีต่อเนื่อง มีความเป็นไปได้จากการทำ CSR ขององค์กร และในฐานะผู้เล่นเทคฯ สัญชาติไทยรายเดียวที่ยังเหลืออยู่ LINE MAN Wongnai มองว่า "นี่เป็นภาระกิจของบริษัทที่ต้องรับไม้ต่อจาก Robinhood ต่อ หลังจากที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Roinhood แล้ว โดยจะมีการเปิดรับไรเดอร์และร้านค้าจำนวนมาก ที่สามารถเข้าร่วมกับทาง LINE MAN Wongnai ได้ ส่วนตำแหน่งงานอื่นๆ มีการเปิดรับกว่า 50 ตำแหน่งอยู่แล่ว แต่คงไม่ได้เปิดรับสมัครมากเท่าเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตาม ในแง่ LINE MAN Wongnai ถือว่าไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการเข้า IPO ของ LINE MAN Wongnai ที่ตั้งเป้าจะเกิดขึ้นในปีหน้า และส่งผลในทิศทางบวกด้วยซ้ำ เนื่องจากการแข่งขันที่น้อยลง เพราะทาง LINE MAN Wongnai เอง ก็แข่งขันกับผู้เล่นระดับโลกอยู่แล้ว และร้านค้าที่อยู่บน Robinhood ประมาณ 98% ก็อยู่บนแพลตฟอร์มของ LINE MAN เช่นกัน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นไรเดอร์ทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ
โดยภาพรวมการแข่งขัน Food Delivery คุณยอดมองว่า ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก การแข่งขันยังดุเดือดเหมือนเดิม เพราะยังมีผู่เล่นอยู่ 4-5 ราย และยังคงเติบโตค่อนข้างดีในช่วง 6 เดือนแรก ส่วนปีนี้คาดว่าอยู่ที่ไม่เกิน 10% แตกต่างจากรายงานวิจัยที่ออกมาในต้นปี ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยอดขายในออนไลน์ ที่ยังเติบโตได้ดีพอสมควร ในขณะที่ LINE MAN Wongnai เติบโตสูงกว่าตลาด
ทั้งนี้ มูลค่าตลาดอาหารในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนล้านบาท โดยมีสัดส่วนจาก Food Delivery ประมาณ 10% ที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือน ‘อีคอมเมิร์ซ’ ของร้านอาหาร เป็นตัวเชื่อมสำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการ
เพราะฉะนั้น การเติบโตของ Food Delivery จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากผู้ใช้งานที่มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ทั้งบนแพลตฟอร์มและในออนไลน์ ซึ่งถ้าดูตลาดที่พัฒนามากกว่าไทย อย่างประเทศจีนที่มีผู้เล่นรายใหญ่เพียง 2 ราย ก็สามารถทำกำไรได้ เพราะปัจจัยการเติบโต ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด จำนวนผู้เล่น และเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนในมุมมองของการช่วยเหลือจากรัฐบาล คุณยอดมองว่า โครงการ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ที่จะเปิดให้ใช้งานในไตรมาสที่ 4 จะสามารถเชื่อมต่อผู้ใช้งานแพลตฟอร์มกับ Food Delivery และ LINE MAN Wongnai ได้อย่าง่ายดาย ผ่านการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการเงินของภาครัฐ ซึ่งยังเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว จากการใช้จ่ายของคนไทยที่เพิ่มขึ้น รวมถึง การสร้างงาน กระตุ้นยอดขายให้ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะร้านค้าที่ไม่มีหน้าร้านหรือหน้าร้านที่เล็กมากๆ ที่อยู่ในรัศมีอำเภอของผู้ใช้งานอย่างสะดวกสบาย ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 1 แสนรายบนแพลตฟอร์มของ LINE MAN Wongnai
ส่วนสถานการณ์ภาพรวมของ LINE MAN Wongnai ตอนนี้อยู่ในทิศทางบวก เห็นได้จาก 3 ธุรกิจหลัก โดยกลุ่มแรกเป็น On-Demand Service มีบริการ Food Delivery ที่เติบโตต่อเนื่อง และล่าสุดเปิดบริการ RIDE เรียกรับส่งรถ ส่วนกลุ่มที่สอง เป็น Merchant Solution ที่เน้นให้บริการระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS และหลังจากคสบรวม FoodStory ก็เติบโตต่อเนื่อง และสุดท้าย กลุ่มธุรกิจ LINE PAY ที่เติบโตขึ้น 2 เท่า