Petsumer Marketing โอกาสทองของ SME ในตลาดสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโต

ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่มองเห็นศักยภาพในการขยายธุรกิจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ด้วยกลยุทธ์ Petsumer Marketing ที่เน้นการสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ในบทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปสำรวจแนวทางการใช้ Petsumer Marketing ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจ SME ทุกประเภท เพื่อให้คุณสามารถคว้าโอกาสและเติบโตไปพร้อมกับตลาดสัตว์เลี้ยงที่กำลังมาแรงนี้

Petsumer Marketing มาแรง! โอกาสทองของ SME ในตลาดสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและน่าจับตามอง โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่ง Euromonitor รายงานว่า มีอัตราการเติบโตสูงถึง 4,000% และมีราคาปล่อยเช่าที่สูงกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป

สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการคว้าโอกาสจากแนวโน้มนี้ กลยุทธ์ Petsumer Marketing ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงและสร้างความผูกพันกับกลุ่มลูกค้าที่รักสัตว์เลี้ยง สำหรับแนวทางกลยุทธ์ Petsumer Marketing ที่สามารถปรับใช้ได้กับธุรกิจ SME ทุกประเภท เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

สร้างกระแสไวรัลด้วยพรีเซนเตอร์สี่ขา

แม้ว่าธุรกิจของคุณจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรง แต่ก็สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลการตลาดชี้ให้เห็นว่า สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมว มีลักษณะที่เป็นสากล เข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัยและทุกเชื้อชาติ ทำให้การสื่อสารของแบรนด์ผ่านสัตว์เลี้ยงเหล่านี้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ แบรนด์ iRobot ที่ใช้ภาพแมวยักษ์ในการโฆษณาเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก หรือแม้แต่ Starbucks ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ "แก้วอุ้งเท้าแมว" จนเกิดการรีเซลและราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

สร้างความประทับใจด้วยพลังแห่งอารมณ์ผ่านสัตว์เลี้ยง

จากข้อมูลเชิงสถิติ พบว่า ภาพสินค้าที่มีสัตว์เลี้ยงร่วมอยู่ด้วยสามารถดึงดูดความสนใจได้มากกว่าภาพสินค้าเพียงอย่างเดียวถึง 43.82% นี่คือ หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Emotional Marketing ที่ใช้สัตว์เลี้ยงในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับสินค้าและบริการ การใช้ภาพสุนัขหรือแมวร่วมกับสินค้า ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจ แต่ยังช่วยสื่อสารอารมณ์และสร้างความรู้สึกเชิงบวกต่อแบรนด์ได้อีกด้วย ท่าทางที่น่ารัก สดใส และร่าเริงของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ สามารถสร้างภาพจำที่ดีต่อสินค้าหรือบริการ

แม้ว่าสินค้าหรือบริการนั้นจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรง เช่น การใช้ภาพสุนัขหรือแมวในโฆษณาเสื้อผ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถกระตุ้นความรู้สึกอบอุ่นและความสุขให้กับผู้บริโภคได้ กลยุทธ์ สร้างความประทับใจด้วยพลังแห่งอารมณ์ผ่านสัตว์เลี้ยง

กลยุทธ์นี้เหมาะสำหรับธุรกิจ SME ทุกประเภทที่ต้องการสร้างความแตกต่างและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่รักสัตว์เลี้ยง ด้วยการใช้พลังของอารมณ์และความผูกพันที่มีต่อสัตว์เลี้ยง ธุรกิจสามารถสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวได้

สร้างการรับรู้และความผูกพันผ่าน Influencer ในกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง

การตลาดผ่าน Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามเป็นคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Influencer) กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรงหรือไม่ การใช้กลยุทธ์นี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้ จากผลสำรวจตลาดพบว่า ผู้บริโภคทั้งที่เลี้ยงสัตว์และไม่ได้เลี้ยง มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าที่มีภาพสัตว์เลี้ยงประกอบมากกว่าสินค้าที่ไม่มี

การเลือก Pet Influencer ที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์และกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแคมเปญ คุณอาจเลือกใช้ Influencer ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียง หรือเลือกใช้สัตว์เลี้ยงที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมากก็ได้

ตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่น เหล่าสัตว์เลี้ยงจากบ้าน Gluta Story ที่มีสุนัขและแมวหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมรับงานรีวิวสินค้าอย่างมืออาชีพ หรือ Influencer สายคลิปสั้นอย่างช่อง ไข่เจียวลูกแมร๊ ที่มีแมวสีขาวเป็นตัวชูโรง นำเสนอสินค้าผ่านการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ

ดังนั้น การใช้ Pet Influencer ช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้รักสัตว์เลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์อันดีกับแบรนด์ผ่านความรักและความสนใจที่ผู้คนมีต่อสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวได้

สร้างความผูกพันและขยายฐานลูกค้าผ่านการสร้างชุมชนคนรักสัตว์

กลยุทธ์การสร้างชุมชน (Community) สำหรับกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ SME ในการเข้าถึงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรงหรือไม่ก็ตาม การสร้างชุมชนนี้มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน (Drive) ให้ธุรกิจสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย (Target) และความต้องการของพวกเขา (Insight) เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาเนื้อหา (Content) รวมถึงสินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จคือ Puppy Yoga BKK ที่ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์รวมของคนรักสุขภาพ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรักสุนัข โดยการนำลูกสุนัขเข้ามามีส่วนร่วมในคลาสโยคะ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและผ่อนคลาย ส่งผลให้เกิดเป็นชุมชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ชื่นชอบทั้งการออกกำลังกายและความน่ารักของสัตว์เลี้ยง

การสร้างชุมชนคนรักสัตว์สามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ การสร้างกลุ่มในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือการจัดตั้งชมรมคนรักสัตว์เลี้ยง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

Petsumer Marketing เป็นกลยุทธ์ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรง หรือธุรกิจที่ต้องการสร้างความแตกต่างและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่รักสัตว์เลี้ยง การใช้สัตว์เลี้ยงเป็นพรีเซนเตอร์ หรือการนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง สามารถสร้างความประทับใจและกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อ (Word-of-Mouth) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในระยะยาว

ที่มา Krungsri Business Empowerment