เราคงได้เห็นแบรนด์ Happy Munchy ลูกชิ้นปลาแผ่นเกาหลี จากข่าวไวรัลที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่หลายคนอาจยังไม่รู้จักเรื่องราวของ Happy Munchy มากนัก
เเต่รู้หรือไม่ว่าแบรนด์ Happy Munchy ไม่ได้มีสินค้าแค่ออมุกเท่านั้น และในปี 2567 ที่ผ่านมาสามารถกวาดรายได้ถึง 71 ล้านบาทเลยทีเดียว
บทความนี้ SPOTLIGHT พาทุกคนมารู้จักกับ Happy Munchy แบรนด์อาหารเด็กที่โด่งดังจากออมุกเสียบไม้ แต่ไม่ได้มีดีแค่ ‘ออมุก’
จุดเริ่มต้นของแบรนด์สร้างขึ้นจากคุณแม่ 3 คน ที่เผชิญกับปัญหาเดียวกัน นั่นก็คือการที่ลูกๆเป็น ‘เด็กเลือกกิน’ จนคุณแม่เกรงว่าเด็กๆจะไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีประโยชน์
แบรนด์ Happy Munchy เกิดขึ้นจาก 3 คุณแม่
‘ปัญหาลูกกินยาก’ คือประสบการณ์ที่เกิดในจริงในทุกบ้าน คุณแม่คุณพ่อพยายามหลอกล่อยังไงก็ส่ายหน้า หรือบางบ้านลูกก็ชอบกินแต่แป้ง ดังนั้น 3 คุณแม่เลยกลัวว่าลูกๆจะได้สารอาหารไม่ครบ เลยได้มาพยายามหาวิธี “ที่จะทำให้ลูกอร่อยกับอาหารตรงหน้า และยังได้ประโยชน์กับสิ่งที่กินเข้าไป” นั่นจึงเป็นที่มาของ HAPPY MUNCHY เมื่อ 9 ปีที่แล้ว
หัวใจหลักในการทำอาหารเด็กของ HAPPY MUNCHY คือ อาหารต้องมีประโยชน์ ทานง่าย ไม่มีสารกันบูด ไม่ใส่ผงชูรสแต่ยังคงความอร่อย คัดเลือกแต่วัตถุดิบคุณภาพ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ประโยชน์ในทุกมื้ออาหาร
โดยสินค้าของ Happy Munchy มีหลากหลายประเภททั้งแบบพร้อมทานและปรุงเพิ่ม เน้นความสะดวกแบบเปิดตักทานได้เลย หรือแค่อุ่นเวฟก็พร้อมเสิร์ฟลูก ๆ หรือนำไปปรุงเป็นกับข้าว แต่ทุกอย่างยังคงสารอาหารไว้ครบถ้วน เช่น
รายได้ 8,787,679 บาท
กำไร 216,592 บาท
รายได้ 22,830,250 บาท
กำไร 859,715 บาท
รายได้ 49,946,096 บาท
กำไร 302,125 บาท
รายได้ 65,019,889 บาท
ขาดทุน -7,876,192 บาท
รายได้ 71,461,813 ล้านบาท
กำไร 640,407 บาท
อย่างไรก็ตาม เเบรนด์ Happy Munchy เป็นหนึ่งในตัวอย่างของ SME ไทย ที่มีจุดเริ่มต้นจากคุณเเม่อยากทําอาหารให้ลูกๆทาน ผ่านบททดสอบมามากมายในการผลิตสินค้าดีๆออกมาขายในท้องตลาด ซึ่งจริงๆเเล้วก็ยังมี SME อีกหลากหลายเจ้าที่มีความฝันจากผู้ประกอบการตัวเล็ก เเละพัฒนาต่อยอดกลายเป็นผู้ประกอบการตัวใหญ่ได้ในสักวัน
ที่มา : Happy Munchy, CP ALL ,Creden Data