เจาะลึกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม โอกาสของผู้ประกอบการไทยอย่างไร?
คอนเทนต์แนะนำ
ในยุคที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่คือโอกาสทองของผู้ประกอบการไทย ในการนำเสนออาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียมจากวัตถุดิบชั้นเลิศ สู่ตลาดโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การแข่งขันที่รุนแรง ความต้องการที่หลากหลาย และมาตรฐานที่เข้มงวด คือความท้าทายที่ต้องเผชิญบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทย พร้อมแนวทางและกลยุทธ์ที่จะนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จในตลาดโลก
เจาะลึกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม ผู้ประกอบการไทยคว้าโอกาสอย่างไร
จากการคาดการณ์ของ KResearch การส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยในปี 2024 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 19.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสัตว์เลี้ยงในประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย รวมถึงแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวที่ทำให้ผู้บริโภคเต็มใจจ่ายเพื่อสินค้าคุณภาพสูง
จากภาพแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูง มักจะมีจำนวนสัตว์เลี้ยงที่สูงตามไปด้วย ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูงสุดที่ 81,632 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็มีจำนวนสัตว์เลี้ยงสูงถึง 65.1 ล้านตัว ในขณะที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากร 33,806 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็มีจำนวนสัตว์เลี้ยง 11.9 ล้านตัว
ปรากฏการณ์นี้สอดคล้องกับแนวโน้ม Pet Humanization ที่ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว ส่งผลให้ความต้องการสินค้าและบริการเพื่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตลาดส่งออกที่สดใส และ โอกาสในตลาดพรีเมียม
ตลาดส่งออกอาหารสัตว์ที่สำคัญของไทยยังคงเป็น สหรัฐอเมริกา 28% , ญี่ปุ่น 16% , อิตาลี,มาเลเชีย และ ออสเตรเลีย 6% ยังคงเป็นตลาดหลักที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้อีก 34% คือตลาดรองอย่าง อังกฤษ และนิวซีแลนด์ ตลาดเหล่านี้มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี และมีความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและสินค้าที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่มก็มีศักยภาพเติบโตสูงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากรายได้ต่อหัวประชากรที่สูงของประเทศเหล่านี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงกำลังซื้อที่แข็งแกร่ง
"ลองนึกภาพเจ้าตูบแสนรักหรือแมวเหมียวตัวโปรดของคุณได้รับอาหารคุณภาพเยี่ยมจากประเทศไทย ที่ผลิตจากวัตถุดิบชั้นเลิศและผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ปลอดภัย และใส่ใจในทุกรายละเอียด นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคในตลาดพรีเมียมกำลังมองหา และไทยเรามีศักยภาพที่จะตอบสนองความต้องการนี้ได้อย่างดีเยี่ยม"
ความท้าทายและแนวทางรับมือ
แน่นอนว่าเส้นทางสู่ความสำเร็จย่อมมีอุปสรรคเสมอ ในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโลก ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์ต่างชาติที่มีชื่อเสียงและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ความแตกต่างด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละประเทศและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นก็เป็นความท้าทายที่ต้องเตรียมรับมือ อาทิ
-
การแข่งขันที่รุนแรง: คู่แข่งจากทั่วโลกต่างมองเห็นโอกาสในตลาดนี้เช่นกัน ผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งพัฒนาอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณสมบัติเฉพาะและโดดเด่น เพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
-
พฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลาย: แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละตลาด และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
-
มาตรฐานที่เข้มงวด: ประเทศผู้นำเข้ามีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนที่เข้มงวดมากขึ้น ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสื่อสารเรื่องนี้อย่างชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคในบางประเทศอาจให้ความสำคัญกับอาหารสัตว์เลี้ยงออร์แกนิก ในขณะที่บางประเทศอาจเน้นที่อาหารที่มีส่วนผสมช่วยลดปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยง การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
กลยุทธ์สู่ความสำเร็จ
เพื่อคว้าโอกาสในตลาดโลก ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสม โดยเน้นที่คุณภาพและนวัตกรรม สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างแบรนด์ที่โดดเด่น จะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดผู้บริโภค นอกจากนี้ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น คำแนะนำ ผู้ประกอบการไทยควรดำเนินกลยุทธ์ต่อไปนี้
-
พัฒนาสินค้าพรีเมียม: เน้นคุณภาพ วัตถุดิบชั้นเลือด และนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
-
สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง: การมีแบรนด์ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ จะช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
-
ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน: นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นจุดขายที่สำคัญในตลาดโลกอีกด้วย
ปี 2024 เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทย ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่สดใสและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ หากเรามุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ สร้างสรรค์นวัตกรรม และปรับตัวให้ทันกับความต้องการของตลาด ด้วยความมุ่งมั่นและกลยุทธ์ที่เหมาะสม อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทยจะสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศบนเวทีโลกได้อย่างแน่นอน
ที่มา : KResearch
