ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การเติบโตอย่างต่อเนื่องถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของบริษัท ล่าสุด เซ็ปเป้ (SAPPE) ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นอีกครั้งด้วยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ที่น่าจับตามอง กำไรสูงถึง 410.7 ล้านบาท มาติดตามกันว่าเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้มีปัจจัยใดบ้าง และ SAPPE มีแผนเดินหน้าอย่างไรต่อไปในอนาคต
บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ด้วยความสำเร็จที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 410.7 ล้านบาท และรายได้จากการขาย 1,996.2 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 763.1 ล้านบาท และรายได้จากการขาย 3,832.3 ล้านบาท เติบโต 30% และ 20.6% ตามลำดับ
โดยบริษัทมุ่งมั่นที่จะสานต่อความสำเร็จนี้ พร้อมเตรียมต่อยอดกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง รวมถึง การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Mogu Mogu และการขยายความร่วมมือกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกอย่าง 'SEVENTEEN' เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดโลกต่อไป
คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 (เม.ย. - มิ.ย.) บริษัทโชว์ฟอร์มร้อนแรง ทำรายได้ทะลุ 1,996.2 ล้านบาท โต 20.5% พร้อมกำไรสุทธิ 410.7 ล้านบาท พุ่ง 31.5% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง หนุนผลงานครึ่งปีแรก 2567 กวาดรายได้รวม 3,832.3 ล้านบาท โต 20.6% และกำไรสุทธิ 763.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.0% โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 20.6% สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 18.8% สะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เซ็ปเป้ตอกย้ำความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้ 1,658 ล้านบาทในไตรมาส 2 เติบโต 20.7% โดยตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลัก ขยายตัว 42.3% และ 31.9% ตามลำดับ ผลักดันยอดขายจากต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรกสูงถึง 83% จากฐานลูกค้าเดิมที่แข็งแกร่งและการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่
นอกจากนี้ เซ็ปเป้ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแบรนด์ Mogu Mogu ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเข้าร่วมงานแฟนมีตติ้งของวง SEVENTEEN ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งดึงดูดแฟนคลับกลุ่ม Gen Z จากทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา และยุโรป เข้าร่วมงานทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์
สำหรับกิจกรรมภายในงานได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยศิลปิน SEVENTEEN ทั้ง 13 คน ได้ร่วมทำกิจกรรมและพูดคุยกับแฟนคลับ พร้อมนำผลิตภัณฑ์ Mogu Mogu มามอบเป็นของรางวัล สร้างกระแสตอบรับอย่างดีบนโซเชียลมีเดีย นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของแบรนด์ไทยที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้
คุณปิยจิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดในประเทศยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้จากการขาย 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของทุกแบรนด์ โดยเฉพาะเครื่องดื่มน้ำผสมวิตามินแบรนด์ B’lue และมะพร้าวน้ำหอมแบรนด์ All Coco ที่มีอัตราการเติบโตโดดเด่นในช่องทางห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ขณะที่แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) มีการเติบโตที่ดีในช่องทางร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) และช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก ได้แก่ เครื่องดื่ม B’lue 2 รสชาติใหม่ "รสอกหัก" และ "รสคลั่งรัก" และผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี
"บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่เป้าหมายในการสร้างแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยนอกจากการขยายช่องทางการขาย เพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศแล้ว ปีนี้เรายังได้เปิดตัวแคมเปญในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Special Gift และ Special Pack จาก Mogu Mogu ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี นอกจากนี้ เรายังได้แตกไลน์สินค้ารูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ Mogu Mogu เพื่อจำหน่ายในต่างประเทศมากขึ้น โดยได้ทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้ว อาทิ Mogu Mogu Candy 4 รสชาติ และ Mogu Mogu Pretzel 3 รสชาติ ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดต่างประเทศเป็นอย่างมาก เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 ไลน์การผลิตในไตรมาส 2 ปี 2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 20-25%" นางสาวปิยจิต กล่าว
ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ของ SAPPE สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนและความแข็งแกร่งของบริษัททั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะความสำเร็จของแบรนด์ Mogu Mogu ที่สามารถเจาะตลาดต่างประเทศได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ การขยายตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลให้ SAPPE บรรลุความสำเร็จในครั้งนี้
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นและกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง SAPPE กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงบนเส้นทางสู่การเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ความสำเร็จในไตรมาสนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เราเชื่อมั่นว่า SAPPE จะยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นต่อไปในอนาคต และเป็นแรงบันดาลใจให้กับองค์กรธุรกิจไทยอื่นๆ ในการก้าวข้ามขีดจำกัดและบรรลุความสำเร็จในเวทีโลก