Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
‘จีนทะลัก’ ไม่ได้หยุดแค่สินค้า ลามถึงคอนเสิร์ต ทำไมคอนฯไทยมีแต่พส.จีน?
โดย : ปาณิสรา สุทธิกาญจนวงศ์

‘จีนทะลัก’ ไม่ได้หยุดแค่สินค้า ลามถึงคอนเสิร์ต ทำไมคอนฯไทยมีแต่พส.จีน?

3 มี.ค. 68
17:31 น.
|
482
แชร์

ปัญหาจีนทะลัก ไม่ได้หยุดแค่สินค้า แต่ลามมาถึง ‘คอนเสิร์ต’ ไขข้อสงสัยทำไมคอนเสิร์ตในไทย แต่ ‘คนไทย’กลายเป็นคนกลุ่มน้อย เพราะมองรอบตัวแล้วมีแต่พส.จีน   

พส.จีน คือ ตัวอักษรย่อของคําว่าพี่สาว ที่กลุ่มคนหลากหลายทางเพศมักเรียกกัน และถูกนำมาใช้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาเพื่อร่วมงานคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่าง ๆ ของศิลปินโดยเฉพาะ

หากใครที่ได้ไปดูคอนเสิร์ตในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตเกาหลี ของวง K-POP ชื่อดัง หรือจะเป็นคอนเสิร์ตต่างชาติชั้นนำ น่าจะต้องเกิดความสงสัยเดียวกันกับผู้เขียน นั้นก็คือ "ทำไมผู้ชมส่วนใหญ่กลับเต็มไปด้วย 'แฟนๆชาวจีน' (พส.จีน) ไม่ใช่คนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศ แล้วทำไมเรา (คนไทย) กลายเป็นกลายเป็นคนกลุ่มน้อยในคอนเสิร์ตประเทศตัวเอง"

บทความนี้ ทีม SPOTLIGHT ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 4 แฟนคลับชาวไทยที่ชื่นชอบการไปดูคอนเสิร์ตเป็นชีวิตจิตใจ (ติ่งเกาหลี) ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต่างตัดพ้อเป็นเสียงเดียวกันว่า “พวกเขาเหมือนมาเพื่อยืมสถานที่ (ประเทศไทย) ของเราจัดเท่านั้น” หรือตอนนี้ “ประเทศไทยคือมณฑลไท่กั๋ว” และชวนทุกคนไปหาคำตอบ ‘จีนทะลัก’ ไม่ได้หยุดแค่สินค้า แต่ลามมาถึงคอนเสิร์ต ทำไมคอนฯไทยมีแต่ พส.จีน ?

แต่ก่อนที่เราจะไปฟังปัญหาที่น่าปวดใจของเหล่าแฟนคลับไทย เราต้องเข้าใจถึงสาเหตุก่อนว่าทำไมประเทศไทยถึงเกิดปัญหาพส.จีนทะลักในคอนเสิร์ตประเทศไทย

รัฐบาลจีน สั่งแบน สื่อบันเทิงเกาหลีใต้

สาเหตุหลักๆมาจากการที่รัฐบาลจีน ได้มีการสั่งแบนสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 หลังเกาหลีใต้ได้มีการอนุมัติให้สหรัฐฯ ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้เพื่อแค่ป้องกันภัยจากฝั่งเกาหลีเหนือ

โดย THADD (Terminal High Altitude Area Defense System) คือ ระบบยิงสกัดขีปนาวุธ ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายขีปนาวุธได้ตั้งแต่ระยะใกล้-ไกล ไปจนถึงสามารถสกัดขีปนาวุธข้ามทวีปได้เลยทีเดียว และที่สำคัญระบบเรดาร์ของ THAAD สามารถสอดแนมพื้นที่ต่างๆ ของประเทศคู่กรณีได้

ซึ่งสิ่งนี่เองนี่แหละ ที่ทำให้ทางการจีนไม่พอใจเพราะว่าเรดาร์ของ THAAD ที่ติดตั้งที่เกาหลีใต้ อาจสามารถทะลุทะลวงถึงจีน และคาดว่าน่าจะหวาดระแวงว่าตัวเองจะโดนสอดแนมจากสหรัฐฯ โดยทางรัฐบาลจีนได้มีการประกาศโต้กลับเกาหลีใต้ สั่ง ‘แบนสื่อเกาหลีใต้’ ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นตัวศิลปิน ซีรีย์ เพลง รวมถึงอีเวนต์ต่างๆของเกาหลีใต้ที่จะมาจัดที่จีน หรือสินค้าของจีนที่เลือกใช้ดาราเกาหลีใต้มาเป็นพรีเซนเตอร์ก็จะถูกสั่งระงับออกอากาศทั้งหมด และนี่รวมถึงคอนสิร์ตของเหล่า ศิลปิน K-POP ด้วย

และแม้ว่าจะการที่รัฐบาลจีนสั่งแบนสื่อบันเทิงเกาหลีใต้ จะไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ความชัดเจนที่เราได้เห็นคือ สื่อเกาหลีใต้เริ่มถูกลบเลือนออกไปจากสื่อจีน อีเวนต์คอนเสิร์ตของศิลปิน K-POP ก็ต่างถูกเลื่อน (อย่างไม่มีกำหนด)

แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร ก็ไม่สามารถลบความรักของแฟนคลับที่มีต่อศิลปินได้ ซึ่งหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุด คือการบินไปประเทศใกล้เคียงเพื่อดูคอนเสิร์ตศิลปินที่เราชื่นชอบ

และ ‘ประเทศไทย’ กลายเป็นหมุดหมายใหม่สำหรับพส.จีน เพื่อมาดูคอนเสิร์ต K-POP

‘ประเทศไทย’ เดินทางง่ายเพราะฟรีวีซ่า แต่ใครคัดกรองคุณภาพนักท่องเที่ยว ?

หลังจากที่นโนบายของรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ได้มีประกาศนโนบายฟรีวีซ่าสำหรับชาวจีน เมื่อช่วงมี.ค.67 เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยท่องเที่ยวไทย ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากโควิด-19 ก็ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจของประเทศเราสามารถเติบโตได้อย่างเป็นกอบเป็นกำจากการที่ ‘ท่องเที่ยว เป็นพระเอก’

และแน่นอนว่าสำหรับคนไทย หากประเทศเรามีนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะเกิดการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ปัญหาหลักๆของนโยบายฟรีวีซ่าที่หลายๆคนเกรงกลัว คือ ‘คุณภาพของนักท่องเที่ยว’ ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย

โดยคุณมัช อามี่ (แฟนคลับ ฺBTS) และ คุณเมย์ อากาเซ่ (แฟนคลับ GOT 7) ได้แชร์ประสบการณ์ให้ให้ SPOTLIGHT ฟังว่า การที่ศิลปินวงที่ตัวเองชอบ มีแฟนคลับที่เยอะ มีคนรักเยอะๆ จริงๆมันเป็นเรื่องดี แต่ในแง่ของพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ค่อยน่ารักจากชาวจีนบางกลุ่มเวลาไปดูคอนสิร์ต อาจส่งผลต่อความรู้สึกของเหล่าแฟนคลับไทย และอาจลามไปถึงตัวศิลปินเลยก็เป็นไปได้

คุณมัช ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ตนได้พบเจอ ขณะไปดูคอนเสิร์ต K-POP แบบบัตรหลุม (บัตรยืน) ซึ่งบัตรหลุมจะเป็นบัตรที่แฟนๆได้ใกล้ชิดกับศิลปินมากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเจอปัญหาเยอะที่สุด โดยเฉพาะการวิ่งแซงคิว การแอบพกกล้องเข้าไปในงาน โดยไม่สนใจว่าเลนส์กล้องจะกระแทกหัวคนข้างหน้า และที่สำคัญคือการแอบเอาของขวัญเข้าไปใน โดยการปาของขึ้นไปบนเวที (ซึ่งถือว่าเป็นมารยาทโดยทั่วไปที่เหล่าแฟนคลับรู้กัน)

และหากว่าศิลปินได้รับแล้วตกใจ เขาไม่ได้มองว่าแฟนคลับไทย, แฟนคลับจีน หรือแฟนคลับชาติใด แต่เขามาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ก็อาจจะเหมารวมและเกิดความไม่ประทับใจต่อประเทศของเราเลยก็ได้

คอนเสิร์ต’ จัดที่ไทย แต่ทำไมคนไทยไม่รู้ เพราะโปรโมทภาษาจีน

คุณเมย์ อากาเซ่ (แฟนคลับ GOT 7) ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังว่า ตนเองเป็นแฟนคลับ GOT 7 แต่มีเมน (ชอบที่สุด) คือ แบมแบม- กันต์พิมุกต์ ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งที่ศิลปินวง GOT 7 มาไทยทุกครั้ง หรือแม้แต่คอนสิร์ตส่วนตัวและอีเว้นต์ของ แบมแบม ตนจะไปเข้าร่วมทุกงาน และแน่นอนว่าส่วนใหญ่ตนเองจะรู้ทุกงานของแบมแบม เพราะจะมีบ้าน (กลุ่มแฟนคลับในโลกออนไลน์) คอยอัพเดทกันอยู่เสมอ

แต่ว่ามีคอนเสิร์ตหนึ่ง ที่เป็นคอนเสิร์ตรวมของศิลปิน K-POP ซึ่งแน่นอนว่าแบมแบม เป็นหนึ่งในรายชื่อศิลปินที่จะขึ้นแสดงด้วย แต่ตนเองและเพื่อนๆอากาเซ่ ไม่รู้มาก่อนและที่สำคัญคือจัดที่ประเทศไทยแต่ทำไมอากาเซ่ไทยไม่รู้ ?

และสาเหตุที่รู้ข้อมูลของคอนเสิร์ตนี้ คือมีกลุ่มแฟนคลับไปเล่นแอป Weibo ของจีน แล้วเห็นว่ามีการโปรโมทกัน เลยได้นำมาแชร์ต่อในกลุ่ม และเมื่อไปดูรายชื่อของสปอนเซอร์และผู้จัดแล้ว พบว่ามีแต่ภาษาจีน ไม่มีภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษปรากฎอยู่ในโปสเตอร์เลย นั้นก็เลยทำให้เกิดคำถามว่า “คอนเสิร์ตจัดที่ไทย แต่ทำไมคนไทยไม่รู้?” และข้อสังสัยที่ว่า “พวกเขาเหมือนมาเพื่อยืมสถานที่ (ประเทศไทย) ของเราจัดเท่านั้น”

คอนเสิร์ตจัดที่ไทย LIVE In Bangkok แต่ทำไมศิลปินพูดภาษาจีน ?

คุณมัช อามี่ (แฟนคลับ ฺBTS) ได้เล่าให้ทีม SPOTLIGHT ฟังถึงประสบการณ์การไปคอนสิร์ตวง SEVENTEEN เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า  จริงๆแล้วคอนเสิร์ต SEVENTEEN ในไทยทุกครั้งจะเจอแฟนคลับชาวจีนเยอะมาก เพราะมีสมาชิกสองคนของวงเป็นคนจีน ดังนั้นจึงมีแฟนคลับชาวจีนเยอะตาม แต่ล่าสุดศิลปินมาไทย คอนเสิร์ต LIVE IN Bangkok แต่กลับเซอร์วิสแฟนๆชาวจีน พูดภาษาจีน กล่าวขอบคุณแฟนๆที่ยอมเดินทางเหนื่อยมาเพื่อตน  ส่งผลให้แฟนๆไทยจำนวนไม่น้อย รู้สึกน้อยใจกับการกระทำเหล่านั้น เพราะคอนเสิร์ตจัดที่ประเทศไทย แต่ทำไมขอบคุณแฟนๆจีน ?

กดบัตร 1 ที หมดพลังทั้งวัน เพราะต้องสู้ทั้งกับคนไทย, พส.จีน, ร้านกดบัตร, บอท ถ้ากดไม่ได้ก็ต้องโดนอัพราคาบัตร

คุณมัช อามี่ (แฟนคลับ ฺBTS) ได้เล่าว่า ตนเองชื่นชอบศิลปินหลากหลายคนมาก และเป็นแฟนคลับศิลปินเยอะมาก โดยเฉลี่ยแล้วตนไปคอนเสิร์ตประมาณ 20 ครั้ง / 1 ปี ซึ่งแน่นอนว่ามีความชำนาญด้านการกดบัตรคอนเสิร์ตพอควร เลยได้มีการเปิดร้านกดบัตรคอนเสิร์ต

ซึ่งก่อนที่ทางจีนจะแบน K-POP ร้านของตนได้การันตีกับลูกค้าว่าสามารถกดบัตรได้ราว 80 % เพราะจะแบ่งทีมออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เฝ้าหน้าจอ (ขึ้นอยู่กับความแรงของอินเตอร์เน็ต และความเร็วของคน) และกลุ่มไปซื้อหน้าเคาน์เตอร์ (กันกลุ่มหน้าจอกดไม่ได้ แต่จะมีความเสถียรมากกว่า เนื่องจากกั้นบอท)

แต่หลังจากโควิด-19 ผู้จัดส่วนใหญ่ได้มีการเปลี่ยนมาตรการให้กดบัตรเฉพาะออนไลน์เท่านั้น ส่งผลต่อ % การกดบัตรได้ โดยตอนนี้การันตีกับลูกค้าเพียงแค่ 20-30% เท่านั้น เพราะไม่สามารถกดบัตรสู้บอทได้ ซึ่งส่วนตัวเคยเห็นคนขายบอทใน X ราคากว่า 15,000 บาท

ด้านคุณโบกี้ การัต (แฟนคลับของวง SEVENTEEN) ยังได้เล่าให้ SPOTLIGHT ฟังอีกว่า ปัญหาที่ต้องเจอทุกครั้ง คือ ปัญหาการกดบัตรคอนเสิร์ต เพราะกดบัตรยากมาก แฟนคลับหลายคนกดบัตรไม่ทัน แต่หลังจากนั้นกลับพบว่ามีคนนำบัตรออกมาขายแบบเพิ่มราคา หรือที่เรียกกันว่า อัพราคา เป็นจำนวนมาก และคนกลุ่มนั้นเป็นชาวจีน  

การอัพราคานั้นมีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสน อย่างบัตร VIP นั้นราคาที่ประกาศขายอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 9,300 แต่มีคนมาโพสต์ขายถึงสองแสน ส่วนบรรยากาศที่หน้าคอนเสิร์ตจะพบเห็นชาวจีนถือบัตรมาขายเป็นจำนวนมาก แต่บัตรพวกนี้อัพราคาแพงมาก แม้กระทั่งชาวจีนด้วยกันก็ยังไม่กล้าซื้อ  ส่วนบรรยากาศในคอนเสิร์ต ก็มีแต่ชาวจีน ภายในแถวที่นั่งอาจจะมีชาวไทยแทรกอยู่สักคนหรือสองคนเท่านั้น

นอกจากนี้ คุณแพร N.Fia (แฟนคลับวง N.Flying) ยังได้กล่าวเสริมว่า ตนเองเคยไปกดบัตร วง N.Flying แล้วเจอปัญหาบัตร 3 แถวหน้าหมด ภายใน 0.1 วินาที ซึ่งพอถึงวันคอนเสิร์ตพบว่า คนจีนได้มากันเป็นรถบัส มาพร้อมกันหมด และนั่งบัตร 3 แถวหน้าหมด

อย่างไรก็ตาม ทีม SPOTLIGHT ได้ถามแฟนคลับ 4 ท่านถึงมาตรการและความคาดหวังต่อผู้จัดคอนเสิร์ต ซึ่งทั้ง 4 ท่าน เข้าใจดีว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เหล่าผู้จัดก็ต้องอยากจัดงานมาแล้วได้กำไร ซึ่งบางครั้งคนไทยอาจไม่มีกำลังซื้อเท่ากับคนจีน แต่อยากวอนให้ผู้จัดเห็นใจแฟนคลับชาวไทย โดยสามารถจัดการเรื่องการซื้อบัตรให้มีมาตรฐานมากกว่านี้ เช่น กั้นบอทหรือกั้นคนต่างชาติ ด้วยการกรอกเลขบัตรประชาชน เพื่อให้คนไทยมีสิทธิก่อน หากขายไม่หมดจึงค่อยเปิดรอบต่อไปให้ชาวต่างชาติ หรือแบ่งเป็นโซนๆเพื่อให้คนไทยมีสิทธิเลือกก่อน เหมือนกับการจัดการบัตรคอนเสิร์ต Taylor Swift ที่ญี่ปุ่น

อ้างอิง : Deadline

แชร์
‘จีนทะลัก’ ไม่ได้หยุดแค่สินค้า ลามถึงคอนเสิร์ต ทำไมคอนฯไทยมีแต่พส.จีน?