‘กรุงศรี ออโต้’ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศเปิดตัวบริการแพลนทริปเที่ยว พร้อมส่วนลดพิเศษ บนฟีเจอร์ ‘GO Travel’ ในแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto หวังช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเมืองรอง
ปัจจุบัน แอปพลิเคชั่น GO by Krungsri Auto เป็นแพลตฟอร์มหลักของกรุงศรี ออโต้ ในการให้บริการสินเชื่อรถ บริการประกันภัย บริการซ่อมบำรุงรถ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้รถ เช่น Auto Club หรือศูนย์รวมคอนเทนต์น่ารู้สำหรับผู้ใช้รถ แผนที่สถานีชาร์จสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และตลาดรถมือสอง
ทั้งนี้ นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าหมายในการเป็นที่ 1 ในใจผู้ใช้รถ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สินเชื่อยานยนต์ แต่ยังต้องการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value) ที่เพิ่มความมั่งคั่งให้แก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรธุรกิจ และผู้ใช้รถในอีโคซิสเต็ม อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะขยายบริการและพัฒนาอีโคซิสเต็มที่เป็นศูนย์รวมทุกเรื่องของผู้ใช้รถไว้ในที่เดียว (Auto User Ecosystem Aggregator)
ดังนั้น เพื่อทำให้แอปพลิเคชั่นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น กรุงศรี ออโต้ จึงได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เพื่อพัฒนาฟีเจอร์ GO Travel ร่วมกันขึ้นมาในแอปพลิเคชั่น เพื่อแนะนำทริปท่องเที่ยว สนับสนุนให้ผู้ใช้รถเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย และเข้าไปใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจภายในพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองรอง เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย
โดยในการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวดังกล่าว นายคงสิน เผยว่า กรุงศรี ออโต้ ได้ใช้ข้อมูลอินไซด์จากฐานผู้ใช้รถบนแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto กว่า 3.5 ล้านราย มาพัฒนาบริการใหม่ ทำให้ กรุงศรี ออโต้ สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และสามารถผลิตบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ตรงจุดที่สุด
สำหรับฟีเจอร์ GO Travel บนแอปพลิเคชั่น GO by Krungsri ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นทุกรายที่มีรถสามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวได้ทั้งหมดแม้ไม่ได้เป็นลูกค้าสินเชื่อของกรุงศรีออโต้ โดยผู้ใช้สามารถเลือกเดินทางตามเส้นทางสำเร็จรูปที่ กรุงศรี ออโต้ และผู้เชี่ยวชาญจัดไว้ในแอปพลิเคชั่น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาแพลนทริปเอง และยังมีโอกาสได้เดินทางเข้าไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป
โดยเมื่อเลือกเส้นทางที่ต้องการได้แล้ว ผู้ใช้จะสามารถวางแผนจองที่พักผ่านแอปพลิเคชั่นได้ ใช้สิทธิพิเศษ และส่วนลด เมื่อแวะใช้จ่ายในร้านค้าและร้านอาหารที่อยู่ในเส้นทาง รวมถึงใช้บริการนำทาง ที่เชื่อมต่อไปยัง Google Maps โดยรถที่หน้าจอรองรับบริการ Apple Carplay และ Google Carplay สามารถดูเส้นทางเพื่อนำทางในการขับรถได้ทันทีโดยไม่ต้องมองผ่านจอโทรศัพท์มือถือ
ปัจจุบัน ฟีเจอร์ GO Travel มียอดผู้ใช้งานอยู่ที่ราว 80,000 ราย มีพันธมิตรท่องเที่ยวและร้านค้าต่าง ๆ รวมกว่า 100 ราย ทั้ง ร้านกินดื่มเที่ยว โรงแรมและกิจกรรม บริการตรวจสอบสภาพรถ และสถานีชาร์จ EV และสามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและกระจายรายได้ให้ชุมชนไปแล้วรวมกว่า 3 ล้านบาท ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
โดยภายในปี 2567 กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้าให้ GO Travel มียอดผู้เข้าใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 รายต่อเดือน ผ่านการเพิ่มเส้นทางในเมืองน่าเที่ยวอีก 30 เส้นทาง เปิดตัวบริการ Personalized Trip Advisor ที่ตรงกับความชอบของผู้ใช้งานแบบเต็มรูปแบบ และขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจในชุมชน ธุรกิจการใช้รถ ธุรกิจไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับรถ ธุรกิจเช่า-ซื้อรถ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจประกันภัย เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งและสร้างคุณค่าร่วมให้กับทุกภาคส่วนต่อไป
ในปัจจุบัน นางสาวสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน การท่องเที่ยวไทยกำลังประสบปัญหาด้านรายได้ เพราะนักท่องเที่ยวภายในประเทศมีกำลังซื้อกำลังใช้จ่ายที่ลดลง ทำให้ออกไปเที่ยวน้อยลง และใช้จ่ายซื้อของระหว่างเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง มาเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 4,000 บาทต่อคนต่อทริป
ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศถึงเป้า คือ 205 ล้านคน-ครั้ง ททท. จึงผนึกกำลังกับ กรุงศรี ออโต้ เพื่อสร้างประสบการณ์ ความสุขในการขับรถท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความชอบของผู้ใช้อย่างหลากหลาย เช่น เส้นทางศรัทธา เส้นทางท่องเที่ยวหน้าฝน ให้กับผู้ใช้รถในอีโคซิสเต็มของ กรุงศรี ออโต้
โดยการจับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในครั้งนี้ นางสาวสมฤดี มองว่า จะเป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านการเพิ่มความมั่งคั่งให้กับพันธมิตรธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและผู้ใช้รถทั่วไป ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวในประเทศ ไปสู่เป้าหมายรายได้รวม 1.08 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก ททท. ระบุว่า ในระหว่างเดือน มกราคม-กรกฎาคม ปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศยังอยู่ที่เพียง 160,495,823 คน-ครั้ง สร้างรายได้รวม 581,986 ล้านบาท ทำให้ในอีก 5 เดือนก่อนจะถึงสิ้นปี ททท. ต้องสนับสนุนให้มีการเที่ยวภายในประเทศเพิ่มอีกประมาณ 45 ล้านคน-ครั้ง และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มอีก 4 แสนล้านกว่าบาท
สำหรับสถานการณ์สินเชื่อรถยนต์ในประเทศไทยปี 2567 นายคงสิน และกรุงศรี ออโต้ คาดการณ์ตลาดสินเชื่อยานยนต์อยู่ที่ประมาณ 400,000 ล้านบาท ลดลงราว 20% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากผู้ซื้อไทยยังได้ผลกระทบจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง กำลังซื้อต่ำ และการที่ธนาคารต่างๆ เข้มงวดกับการให้สินเชื่อมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กรุงศรี ออโต้ ยังมีแผนปรับลดเป้าหมายสินเชื่อใหม่ของบริษัทในปี 2567 ลงจากเดิม 219,636 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง ลงจากเดิม 466,577 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายรถยนต์โดยรวมของประเทศ และยอดสินเชื่อคงค้างรวมหดตัว โดยกำลังประเมินสถานการณ์ของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อสรุปการปรับเป้าหมายใหม่ ซึ่งหากมีความคืบหน้า จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับ อัตราหนี้เสีย หรือ NPL ของ กรุงศรี ออโต้ ยังอยู่ในระดับคงที่ประมาณ 2.5%