จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมมะพร้าวน้ำหอมไทย "เค-เฟรช" ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของนวัตกรรม ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปสำรวจเส้นทางความสำเร็จของ "เค-เฟรช" ตั้งแต่การเป็นเทรดเดอร์ สู่การเป็นผู้ผลิตและส่งออกชั้นนำระดับโลก การสร้างสรรค์นวัตกรรม "Coco Thumb" ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม การสร้างแบรนด์ "All Coco" เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย ไปจนถึงวิสัยทัศน์ในการสร้าง "Coco Village" แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย
พร้อมกันนี้ เราจะได้เรียนรู้ถึงแนวคิดและกลยุทธ์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ "เค-เฟรช" จากคุณณัฐศักดิ์ มนัสรังษี ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 ที่กำลังนำพาองค์กรก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยความมุ่งมั่นและใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มาร่วมติดตามเรื่องราวของ "เค-เฟรช" ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้กับผู้ประกอบการไทยในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนในระดับสากล
บริษัท เค-เฟรช จำกัด ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่นำ "มะพร้าวน้ำหอมไทย" สู่เวทีโลก ด้วยนวัตกรรม "Coco Thumb" ที่ไม่เพียงแต่สร้างความสะดวกสบายในการบริโภค แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้มะพร้าวไทยกลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในระดับสากล คุณณัฐศักดิ์ มนัสรังษี ทายาทรุ่นที่ 2 ของเค-เฟรช ได้รับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว พร้อมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ใหม่ผ่านแนวคิด Sharing Economy และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในมิติธุรกิจและสังคม
เค-เฟรช ไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งออก แต่ยังดำเนินการผลิตเองทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและรักษารสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมะพร้าวน้ำหอมไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภคทั่วโลก ปัจจุบัน เค-เฟรช มีเครือข่ายเกษตรกรร่วมผลิตกว่า 60 ครอบครัว และพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวรวมกว่า 3,000 ไร่
เส้นทางของเค-เฟรช เริ่มต้นจากการเป็นเทรดเดอร์ จนกระทั่งความต้องการมะพร้าวน้ำหอมไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการผลิตเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและรักษามาตรฐานคุณภาพ จนกระทั่งความต้องการมะพร้าวน้ำหอมไทยพุ่งสูงขึ้น จึงเริ่มศึกษาและลงมือปลูกเอง "เค-เฟรช" ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจส่งออกมะพร้าวน้ำหอม แต่เราเป็นเสมือน "One Stop Service" ที่ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสู่มือลูกค้าทั่วโลก" คุณณัฐศักดิ์ กล่าวถึงธุรกิจที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อ
คุณณัฐศักดิ์ ไม่ได้เพียงสานต่อธุรกิจ แต่ยังมองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจสู่ยุคใหม่ด้วยแนวคิด "Sharing Economy" ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อสร้างความยั่งยืน "เราเชื่อมั่นในรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของมะพร้าวน้ำหอมไทย และนั่นคือเหตุผลที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรพันธุ์ การดูแลรักษา จนถึงการแปรรูป เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าคุณภาพเยี่ยม" ปัจจุบัน "เค-เฟรช" มีสวนมะพร้าวที่บริหารร่วมกับเกษตรกรกว่า 60 ครอบครัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ คิดเป็นสัดส่วน 60 : 40
คุณณัฐศักดิ์ มนัสรังษี เปิดเผยถึงความสำเร็จของบริษัทในการส่งออกมะพร้าวน้ำหอมมากกว่า 30 ล้านลูกต่อปี ครอบคลุมกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ จีนและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอเชียเนีย และยุโรป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ "เค-เฟรช" และเป็นที่รู้จักในระดับสากล คือ "Coco Thumb" มะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่ม ที่มาพร้อมนวัตกรรมการเปิดที่ง่ายดาย เพียงดึงสลัก กดปุ่ม และใส่หลอด ก็สามารถดื่มด่ำกับน้ำมะพร้าวสดจากลูกได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ใดๆ
"Coco Thumb เป็นนวัตกรรมที่เราภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นผลงานที่คิดค้นและพัฒนาโดยคนไทย 100% และเราได้จดสิทธิบัตรคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเรียบร้อยแล้ว" คุณณัฐศักดิ์ กล่าว พร้อมเผยถึงแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอนาคต ที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อมะพร้าวได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น และนอกจากนวัตกรรมแล้ว "เค-เฟรช" ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยอย่างสูงสุด โรงงานผลิตได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลมากมาย อาทิ GHP, HACCP, USDA, EU Organic และ COR ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
ด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่นและมาตรฐานการผลิตระดับโลก "Coco Thumb" จึงไม่เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงสู่ตลาดโลกได้อย่างสง่างาม
คุณณัฐศักดิ์ เล็งเห็นถึงความท้าทายที่เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวต้องเผชิญ ทั้งความผันผวนของผลผลิตและราคา จึงริเริ่ม "All Coco" คาเฟ่มะพร้าวแห่งแรกของโลก เพื่อสร้างความยั่งยืนและเสถียรภาพให้กับอุตสาหกรรมมะพร้าวไทย "All Coco" จึงไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการรองรับผลผลิตมะพร้าวจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะขาดตลาดหรือล้นตลาด "เค-เฟรช" มุ่งมั่นที่จะรับซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม เพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้ "เค-เฟรช" ยังส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรด้วยการจ่ายค่าแรงควั่นมะพร้าวเป็นลูก ซึ่งเป็นรูปแบบที่สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนกว่าการจ้างเป็นรายวัน "All Coco" นำเสนอผลิตภัณฑ์มะพร้าวที่หลากหลาย ตั้งแต่น้ำมะพร้าวบรรจุขวด มะพร้าวควั่นทั้งลูก พุดดิ้งมะพร้าวอินทรีย์ น้ำมะพร้าวเกล็ดน้ำแข็ง ไปจนถึงไอศกรีมมะพร้าว โดยมีเป้าหมายในการขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกาในอนาคต
ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร "เค-เฟรช" ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนโดยรอบโรงงาน ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กด้อยโอกาส และดำเนินการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบตามมาตรฐานสากล เช่น การนำเปลือกมะพร้าวไปแปรรูปเป็นปุ๋ย สีย้อมผ้า และพลังงานชีวมวล All Coco ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ เค-เฟรช แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ที่สามารถสร้างสรรค์ "คาเฟ่มะพร้าวแห่งแรกของโลก" และเป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบให้กับแบรนด์น้ำมะพร้าวชั้นนำทั่วโลก
คุณณัฐศักดิ์ ไม่เพียงแต่จะหยุดอยู่ที่ความสำเร็จของ "คาเฟ่มะพร้าว" แต่ยังมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มุ่งสู่การพัฒนาโครงการ "Damnoensaduak Coco Village" บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อุตสาหกรรม และวัฒนธรรม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สำหรับภายใน "Coco Village" นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์อันหลากหลาย ทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของมะพร้าว การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การเยี่ยมชมโรงงานที่ทันสมัย รวมถึงการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของสวนมะพร้าวและสวนพืชผักพื้นบ้าน นอกจากนี้ ยังมีตลาดบก ตลาดน้ำ พิพิธภัณฑ์มะพร้าว เตาหลอมน้ำตาลมะพร้าว และพิพิธภัณฑ์อื่นๆ ที่จะช่วยเติมเต็มความรู้และความประทับใจให้กับผู้มาเยือน
คุณณัฐศักดิ์ กล่าวว่า "เราต้องการให้ 'Coco Village' เป็นมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นศูนย์กลางแห่งแรงบันดาลใจ ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน ทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับมะพร้าวน้ำหอมไทย และการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล" นอกจากนี้ "Coco Village" ยังได้รับการออกแบบให้เป็นสวนสาธารณะที่เปิดกว้างสำหรับชุมชน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี
การที่ 'เค-เฟรช' สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งผสมผสานนวัตกรรม ความร่วมมือ และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
1. นวัตกรรมเป็นกลไกขับเคลื่อน
2. ความร่วมมือทำให้เราแข็งแกร่ง
3. ความยั่งยืนคือรากฐาน
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ และการสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยผ่านช่องทางออนไลน์ "Thai2America" ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม คุณณัฐศักดิ์ ยังคงมุ่งมั่นสานต่อความสำเร็จของ 'เค-เฟรช' พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะนำพา "Coco Thumb" สู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก และทำให้ 'เค-เฟรช' เป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
การสืบทอดธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทายาทรุ่นที่ 2 อย่างคุณณัฐศักดิ์ มนัสรังษี ตระหนักดีถึงความท้าทายนี้ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองและองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและนำพา 'เค-เฟรช' ก้าวไปข้างหน้า
"การเข้ามาบริหารธุรกิจที่รุ่นก่อนได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งไว้ นับเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่" คุณณัฐศักดิ์ กล่าว "สิ่งสำคัญคือการมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง เพื่อกำหนดทิศทางและแก้ไขปัญหาให้ทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง "โลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เคยเป็นจุดแข็งในอดีตอาจไม่เพียงพอในปัจจุบัน เราต้องไม่หยุดเรียนรู้และพัฒนา เพื่อให้ธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของเราก้าวทันกระแสโลก และรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว"
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและความยั่งยืน คุณณัฐศักดิ์ กำลังนำพา "เค-เฟรช" สู่ยุคใหม่ ที่พร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสต่างๆ ในตลาดโลก และสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมมะพร้าวไทยในระยะยาว และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการ SME ไทยในการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนต่อไป
ที่มา kfreshcoconut, FB K Fresh Nam Hom Coconut, Bangkok Bank SME