Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทำไมชาวอิตาลีอายุยืน ไขความลับของอาหาร และการใช้ชีวิต
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทำไมชาวอิตาลีอายุยืน ไขความลับของอาหาร และการใช้ชีวิต

23 ก.พ. 68
14:10 น.
|
281
แชร์

ถ้าพูดถึงประเทศที่มีประชากรอายุยืนที่สุดในโลก เราอาจจะนึกถึงญี่ปุ่นมาเป็นอันดับแรก แต่จริงๆแล้ว บนโลกใบนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่ประชากรมีอายุยืน และมีความน่าสนใจว่าปัจจัยใดบ้างที่มีส่วนต่ออายุที่ยืนยาว

วันนี้ Spotlight จะพาไปดูที่อิตาลี ประเทศที่มักจะติดอยู่ในสิบอันดับแรกของประเทศที่มีประชากรอายุยืนที่สุดในโลก ไปไขความลับพร้อมกันว่าเพราะเหตุใด คนอิตาลีถึงอายุยืน

 

อาหารมีความสำคัญ กินให้เป็นยา

ที่อิตาลีมีหมู่บ้านแห่งหนึ่งชื่อว่า อาชเชียโรลี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ บรรยากาศเงียบสงบ และติดชายทะเล หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มีประชากรเพียงหลักพัน แต่ที่นี่มีประชากรอายุ 100 ปี มากกว่า 10%  

เมื่อไปถามว่า เคล็ดลับของพวกเขาคืออะไร ทำไมอายุยืน คำตอบอย่างแรกก็คือ อาหาร ทราบกันดีว่า อาหารเป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของสุขภาพดี เมื่อกินให้ดี อาหารก็จะกลายเป็นยา และโรสแมรี่ก็อาจจะเป็นความลับอายุยืนของชาวบ้านที่อาชเชียโรลี

นักวิจัยระบุว่า ในเขตอาชเชียโรลี และหมู่บ้านรอบๆ มีการปลูกโรสแมรี สสายพันธุ์พิเศษที่มีกลิ่นหอมแรงกว่าปกติ โดยมีกลิ่นที่ถูกกล่าวขานว่า มีความแรงถึงสิบเท่าของโรสแมรี่ทั่วไป และถูกใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารท้องถิ่นอย่างสม่ำเสมอ โรสแมรี มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลด การอักเสบ และเสริมสร้างการทำงานของสมอง 

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่นี่ยังรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี 1950 โดยนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการชาวอเมริกัน แอนเซล คีย์ส (Ancel Keys) 

ขณะทำการศึกษาที่อิตาลีและกรีซ เขาสังเกตว่าชาวบ้านในภูมิภาคเหล่านี้มีอัตราการเป็นโรคหัวใจต่ำมาก แม้จะบริโภคน้ำมันมะกอกเป็นหลัก เขาจึงสรุปว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียน มีประโยชน์ต่อหัวใจ เพราะเน้นการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด น้ำมันมะกอก ปลาทะเล ถั่ว การรับประทานเนื้อแดงในปริมาณที่จำกัด และมีเครื่องเทศกับสมุนไพรจากธรรมชาติ

 

พฤติกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ

นอกเหนือจากอาหารการกินแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ พฤติกรรมนั่นเอง  นักวิจัยพบว่า ชาวบ้านอาชเชียโรลียังมีกิจกรรมทางกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการ ตกปลา ทำสวน และเดินเล่น กิจกรรมเหล่านี้นี่เองที่เป็นหนึ่งเคล็ดลับความอายุยืนของชาวอิตาลี

คนอิตาลีเป็นอีกหนึ่งชาติที่ขึ้นชื่อว่า รักการเดิน เนื่องจากลักษณะของเมือง การใช้ชีวิต หรือสภาพอากาศ การเดินจึงเป็นกิจกรรมที่ชาวอิตาลีชื่นชอบมาก ซึ่งชาวอิตาลีใช้เวลาไม่น้อยในการออกไปข้างนอกในแต่ละวัน ในเรื่องลักษณะของเมือง บ้านเมืองในอิตาลีมักเป็นบ้านเก่าที่สร้างมานาน ถนนก็เช่นกัน บางสายก็เล็ก และแคบ รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ บางพื้นที่ในเมืองเล็กๆก็ยังเต็มไปด้วยบันไดและซอยแคบที่กว้างพอสำหรับให้คนหนึ่งคนผ่านไปได้เท่านั้น

 คนอิตาลียังชอบปั่นจักรยาน เพราะที่นี่ มีเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานมากมาย อย่างเช่น โบโลญญา (Bologna) เมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับจักรยานเป็นอย่างดี มีเลนจักรยานที่ครอบคลุมทั่วเมือง

เฟอร์รารา (Ferrara) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งจักรยาน” (La Città delle Biciclette) เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ใช้จักรยานเป็นพาหนะหลัก และเมืองนี้มีเส้นทางจักรยานยาวกว่า 150 กิโลเมตร 

แม้กระทั่งในกรุงโรม เมืองหลวงแห่งอิตาลี แม้ที่นี่อาจไม่ใช่เมืองในฝันของนักปั่นจักรยาน ด้วยถนนที่ปูด้วยหินโบราณ เนินสูงชัน และการจราจรที่คับคั่ง แต่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงที่มาตรการล็อกดาวน์ทำให้ถนนโล่งขึ้น นักปั่นมีพื้นที่มากขึ้น 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิตาลีก็ได้สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานมากขึ้นผ่านการสร้าง เครือข่ายเลนจักรยานใหม่ และ เงินอุดหนุนสำหรับซื้อจักรยาน ซึ่งช่วยให้จำนวนผู้ใช้จักรยานในเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

"Slow Life" เริ่มต้นที่อิตาลี

นอกจากเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกาย การออกกำลังกายแล้ว นักวิจัยยังระบุว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวอิตาลีอายุยืนก็คือ การใช้ชีวิตนชาวอิตาลีให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากกว่าความเร่งรีบ และถ้าหากทุกท่านคุ้นเคยกับคำว่า ใช้ชีวิตแบบ "Slow Life" นักเขียน นักเคลื่อนไหวชาวอิตาลีนั่นเองที่เป็นคนคิดค้นคำนี้ขึ้นมา

เมืองออร์วิเอโตสะท้อนให้เห็นถึงคำว่า ‘สโลว์ไลฟ์’ เป็นอย่างดี ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่บนยอดเขา รายล้อมไปด้วยไรองุ่นและตึกรามบ้านช่อง สวยราวกับปราสาทเล็ก ๆ เหล่านี้ มีชาวเมืองอาศัยอยู่เพียง 50,000 คน

พวกเขาได้สั่งห้ามการใช้รถยนต์บริเวณใจกลางเมืองด้วย ผู้เยี่ยมเยือนที่อยากจะเดินทางเข้ามาใจกลางเมืองแห่งนี้ จะต้องจอดรถไว้ที่รอบนอกของเมือง และเปลี่ยนมาใช้ขนส่งสาธารณะร่วมกับคนอื่น ๆ ซึ่งมีแค่เคเบิลคาร์ หรือจะเดินเท้าสลับกับใช้บันไดเลื่อนเล็ก ๆ ตามที่สูงชันเท่านั้น แถมเมืองนี้ ยังแบนอาหารแนวฟาสต์ฟู้ดอย่างเคร่งครัดอีกด้วย 

ออร์วิเอโต ถูกขับเคลื่อนภายใต้ Cittaslow องค์กรสนับสนุนแนวคิดสโลว์ซิตี /ปิแอร์ จิออร์จิโอ โอลิเวตี้ ผู้อำนวยการ Cittaslow มองว่า การห้ามใช้รถยนต์และแบนอาหารฟาสฟู้ดจะช่วยชะลอความเร่งรีบของเมืองในยุคปัจจุบันได้ดี

สโลว์ซิตี (Slow City) เป็นกระแสที่ริเริ่มขึ้นในปี 1999 โดยคาร์โล เพทรีนี นักข่าวและนักเคลื่อนไหวชาวอิตาเลียน ผู้มีประสบการณ์เคลื่อนไหวในกระแสสโลว์ฟู๊ด (Slow Food) โดยเพทรีนีได้รับความสนใจมหลังจากที่เขาประท้วงการเปิดสาขาของแมคโดนัลด์ที่บันไดสเปน สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่สวยงานในกรุงโรม เพราะเชื่อว่าเป็นการทำลายวัฒนธรรมทางอาหารของอิตาลี ต่อมาการเคลื่อนไหวของกลุ่มสโลว์ฟู๊ดได้ขยายผลในวงกว้างขึ้น เป็นการอยู่ให้ช้าลง (Slow Living) และท่องเที่ยวให้ช้าลง (Slow Travel) และเมืองที่ใช้ชีวิตช้าลงอย่าง Slow City ปัจจุบันมีเมืองเข้าร่วมจดทะเบียนเป็นสโลว์ซิตีถึง 252 เมืองใน 30 ประเทศทั่วโลกแล้ว

แชร์
ทำไมชาวอิตาลีอายุยืน ไขความลับของอาหาร และการใช้ชีวิต