Cotti Coffee แบรนด์กาแฟโตเร็วที่สุดในโลก 2 ปีมีถึง 7,000 สาขา

ในสมรภูมิร้านกาแฟที่แข่งขันกันดุเดือด COTTI COFFEE ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่น่าจับตามอง แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ แต่ก็สามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และใช้เวลาเพียงไม่นานในการขยายสาขาไปทั่วโลก โดยปัจจุบัน COTTI COFFEE ครองตำแหน่งร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจาก 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการกาแฟอย่าง Starbucks, Luckin Coffee และ Dunkin' บทความนี้ SPOTLIGHT จะพาคุณไปสำรวจเส้นทางความสำเร็จของ Cotti Coffee ตั้งแต่จุดเริ่มต้น กลยุทธ์ การขยายธุรกิจ ไปจนถึงโอกาสและความท้าทายในอนาคต พร้อมเจาะลึกการบุกตลาดในประเทศไทย ที่กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับคอกาแฟชาวไทย

Cotti Coffee แบรนด์กาแฟโตเร็วที่สุดในโลก 2 ปีมีถึง 7,000 สาขา

การกล่าวถึงธุรกิจร้านกาแฟในประเทศจีน มักจะทำให้นึกถึงกรณีอื้อฉาวทางการเงินของ Luckin Coffee ซึ่งเคยสร้างความสั่นสะเทือนให้แก่วงการธุรกิจทั่วโลกในช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Cotti Coffee ผู้เล่นรายใหม่ในตลาด กำลังสร้างปรากฏการณ์อันน่าจับตามองให้กับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของจีน

Cotti Coffee ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้บริหารของ Luckin Coffee สองท่าน และแม้ว่าจะเปิดตัวได้เพียงปีเศษ แต่ Cotti Coffee ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นได้จากการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ณ ประเทศกาตาร์

กลยุทธ์ทางการตลาดที่โดดเด่นของ Cotti Coffee คือ การสร้างภาพลักษณ์ร่วมกับแบรนด์ชั้นนำและบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย อาทิ Frida Kahlo Corporation, Oatly บริษัทเครื่องดื่มข้าวโอ๊ตจากประเทศสวีเดน, Honor of Kings เกมยอดนิยมจาก Tencent และ "ฟ่านเฉิงเฉิง" ศิลปินชื่อดัง ซึ่งเป็นน้องชายของนักแสดงหญิง "ฟ่านปิงปิง"

บทความนี้ จะนำเสนอเส้นทางความสำเร็จของ Cotti Coffee ตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันกับแบรนด์ชั้นนำ ไปจนถึงทิศทางและโอกาสในการเติบโตในอนาคต

อุตสาหกรรมกาแฟยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตารางมูลค่ารวมของยอดขายกาแฟในร้านในประเทศจีน คาดการณ์ถึงปี 2571

แนวโน้มการบริโภคกาแฟทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคชาวจีนก็เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้ Mintel บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดกาแฟในประเทศจีนจะสูงถึง 220,000 ล้านหยวน (หรือมากกว่า 30,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี พ.ศ. 2571 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าประมาณการยอดขายในปีปัจจุบันถึงสามเท่าตัว

“ในระยะแรก การบริโภคกาแฟในประเทศจีนส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนวัยทำงานในเมืองหลัก” เมิ่งซี เจียง นักวิเคราะห์จาก Daxue Consulting บริษัทวิจัยตลาดผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจีน กล่าว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน การบริโภคกาแฟได้ขยายตัวไปยังเมืองรองมากขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคสูงวัยที่เริ่มหันมานิยมดื่มกาแฟ

Cotti Coffee ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตผู้บริหารระดับสูงของ Luckin Coffee สองท่าน ได้แก่ นายหลู เจิ้งเหยา อดีตประธานกรรมการ และนายเฉียน จื้อหยา อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งทั้งสองท่านถูกปลดออกจากตำแหน่งจากกรณีอื้อฉาวทางการเงินในปี พ.ศ. 2563

แม้ว่า Cotti Coffee จะไม่ได้ปิดบังความสัมพันธ์กับ Luckin Coffee โดยสิ้นเชิง โดยได้ระบุไว้บนเว็บไซต์อย่างชัดเจนว่าบริษัทก่อตั้งขึ้นโดยนายเฉียน จื้อหยา และ "ทีมงานหลักดั้งเดิมของ Luckin Coffee" แต่กลับไม่มีการเอ่ยถึงนายหลู เจิ้งเหยา แต่อย่างใด ทั้งที่ในปี พ.ศ. 2564 นายหลู เจิ้งเหยา ถูกศาลตัดสินปรับเป็นจำนวนเงินหลายครั้งจากความผิดทางการเงิน ซึ่งเป็นกรณีที่แยกต่างหากจากความผิดพลาดในฐานะประธานกรรมการของ Luckin Coffee

Cotti Coffee กับการระดมทุนและกลยุทธ์การสรรหาบุคลากร

แม้ศาลกรุงปักกิ่งจะมีคำสั่งจำกัดการใช้จ่ายของนายหลู เจิ้งเหยา แต่ปรากฏว่าสถานะทางการเงินก็ยังคงมั่นคง โดย Cotti Coffee ได้รับเงินทุนเริ่มต้นจำนวน 200 ล้านหยวน (หรือมากกว่า 29.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากการสัมภาษณ์ของนายหลี่ อิงปั๋ว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Cotti Coffee กับหนังสือพิมพ์ธุรกิจ 21st Century Business Herald ระบุว่าพนักงานหลักของบริษัทมากกว่าครึ่งหนึ่งล้วนเป็นอดีตพนักงานของ Luckin Coffee

Cotti Coffee มีการขยายตัวทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดสาขาแรกในอาคารสำนักงาน ณ เมืองฝูโจว ปัจจุบัน Cotti Coffee มีสาขากว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศจีน “การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดกาแฟส่งผลให้การลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง” เมิ่งซี เจียง นักวิเคราะห์จาก Daxue Consulting กล่าว พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการจำนวนมากให้ความสนใจลงทุนใน Cotti Coffee เนื่องจากชื่อเสียงและประสบการณ์ของนายหลู เจิ้งเหยา

“การมีอดีตผู้บริหารของ Luckin Coffee ร่วมบริหารงาน ถือเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญสำหรับนักลงทุน เนื่องจากบุคลากรเหล่านี้ล้วนมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการทีมและการดำเนินงานด้านดิจิทัลจาก Luckin Coffee” เจียงกล่าวเสริม

ด้วยสโลแกน "ดื่ม Cotti รู้สึกอ่อนเยาว์" ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่แข็งแกร่ง Cotti Coffee มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่น โดยนำเสนอเมนูลาเต้ในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มีราคาต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น ในช่วงแคมเปญบนโซเชียลมีเดีย ราคาเริ่มต้นเพียง 8.8 หยวน (ประมาณ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐ) ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา Cotti Coffee มียอดขายรวมกว่า 35 ล้านหยวน (เกือบ 4.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในระยะเวลาสองสัปดาห์จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายบนแพลตฟอร์ม Douyin

นอกจากนี้ Cotti Coffee ยังเป็นเจ้าของโรงคั่วกาแฟขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตางตู โดยมีกำลังการผลิต 45,000 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณการบริโภคกาแฟทั้งหมดของประเทศจีนในปี พ.ศ. 2549 และคิดเป็น 15% ของปริมาณการบริโภคกาแฟของจีนในปี พ.ศ. 2565-2566 อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา

Cotti Coffee กับโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์

แม้ Cotti Coffee จะดำเนินกิจการร้านค้าปลีกภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเองอยู่บ้าง แต่การขยายตัวอย่างรวดเร็วครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจีนนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลสืบเนื่องมาจากกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์ โดย Cotti Coffee เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ได้ โดยกำหนดค่าธรรมเนียมแรกเข้า 138,000 หยวน (หรือประมาณ 18,900 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการเปิดร้านในพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ หรือสถานีขนส่งมวลชน นอกจากนี้ Cotti Coffee ยังให้การสนับสนุนด้านบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินงานในระยะเริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม เอ็ด ซานเดอร์ นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจาก Tech Buzz China มองว่าโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์นี้ อาจเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของ Cotti Coffee โดยการลงทุนในรูปแบบร้านค้าทั่วไปของ Cotti Coffee ผู้ลงทุนต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 300,000 หยวน (หรือประมาณ 41,000 ดอลลาร์สหรัฐ) หากธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จและไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ ผู้ลงทุนแฟรนไชส์จะเป็นผู้รับภาระความเสี่ยงทั้งหมด ในขณะที่ Cotti Coffee แทบจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

“เช่นเดียวกับ Luckin Coffee ในอดีต Cotti Coffee สร้างความน่าสนใจด้วยการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่า Luckin Coffee เสียด้วยซ้ำ แต่ในมุมมองส่วนตัว ผมมองว่านี่อาจเป็นการสร้างฐานธุรกิจที่เปราะบาง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะล่มสลายได้ หากสาขาแฟรนไชส์จำนวนมากประสบภาวะขาดทุนและต้องยุติการดำเนินกิจการ” ซานเดอร์กล่าว

จากข้อมูลที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Cotti Coffee สาขาแฟรนไชส์ที่มีกำไรขั้นต้นน้อยกว่า 20,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ) ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมบริการให้กับบริษัท หาก Cotti Coffee ยังคงดำเนินนโยบายการกำหนดราคาที่ต่ำและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายบนสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง การบรรลุเป้าหมายผลกำไรดังกล่าวอาจเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก ยิ่งไปกว่านั้น การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันเองระหว่างสาขาแฟรนไชส์ของ Cotti Coffee

เมิ่งซี เจียง นักวิเคราะห์จาก Daxue Consulting แสดงทัศนะว่า การประเมินความยั่งยืนของโมเดลธุรกิจ Cotti Coffee ในปัจจุบัน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน “ปัญหาหลักที่ผู้รับแฟรนไชส์ต้องเผชิญมีสองประการ แม้ว่าจะมีจำนวนลูกค้าเข้าร้านค่อนข้างมาก แต่ผลประกอบการกลับแทบไม่ถึงจุดคุ้มทุน ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มักจะตัดสินใจซื้อสินค้าเมื่อมีส่วนลดหรือโปรโมชั่นเท่านั้น”

Cotti Coffee ร่วมมือกับ Adyen ขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล

Cotti Coffee ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Adyen ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจร้านกาแฟในระดับสากล โดย Adyen จะให้การสนับสนุนโซลูชันการชำระเงินที่ครบวงจร ซึ่งโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพการใช้งาน ความสะดวกสบาย และความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต

ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้ Cotti Coffee สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ลูกค้าในตลาดต่างประเทศหลักๆ ได้แก่ แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ล่าสุด Cotti Coffee มุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์กาแฟคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ทันสมัย มีชีวิตชีวา และมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้า ด้วยจำนวนสาขากว่า 7,000 แห่งทั่วโลก Cotti Coffee ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

"Cotti Coffee เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง การประยุกต์ใช้โซลูชันแบบครบวงจรของ Adyen ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งในมิติเชิงกว้างและเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถระบุและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ" นายหลี่ อิงปั๋ว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Cotti Coffee กล่าว

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มของ Adyen ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในสาขาของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาที่มีขนาดเล็ก ด้วยระบบประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็ว และรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายทั่วโลก พนักงานของเราจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์เครื่องดื่มและการบริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

"เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองของธุรกิจกาแฟ ซึ่งโดดเด่นด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และการขยายตัวของธุรกิจอย่างกว้างขวาง แบรนด์ Cotti Coffee ได้ผสมผสานความหลากหลายเข้ากับความสะดวกสบาย จนเกิดเป็นสูตรสำเร็จที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ และเรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน Cotti Coffee ให้บรรลุเป้าหมายการขยายธุรกิจระดับโลก ด้วยแพลตฟอร์มการชำระเงินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน" นายวอร์เรน ฮายาชิ ประธาน Adyen ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

COTTI COFFEE ประกาศแคมเปญระดับโลก ฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

COTTI COFFEE ภูมิใจนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขายครั้งสำคัญ เพื่อเฉลิมฉลองการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ก้าวสู่เครือข่ายร้านกาแฟกว่า 7,000 สาขาทั่วโลก แคมเปญนี้จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 โดยมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าด้วยราคาเครื่องดื่มคงที่ทุกเมนู สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการส่งมอบประสบการณ์กาแฟคุณภาพสูงควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในระดับสากล

รายละเอียดแคมเปญ

• ราคาเครื่องดื่มคงที่ ทุกเมนู ทุกสาขา: ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มทุกประเภทในราคาเดียวกันที่ร้าน COTTI COFFEE ทุกสาขา รวมถึงการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

• การเติบโตที่โดดเด่น: นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2566 COTTI COFFEE ได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม 28 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ตอกย้ำความสำเร็จและศักยภาพในการแข่งขันของแบรนด์ในตลาดกาแฟโลก

• ความมุ่งมั่นสู่คุณภาพ: COTTI COFFEE ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดกาแฟเป็นอย่างยิ่ง โดยได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 13 รางวัลในปี 2566 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว

• นวัตกรรมเพื่อประสบการณ์ลูกค้า: เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า COTTI COFFEE ได้นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ อาทิ แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย และหุ่นยนต์ในร้านค้าบางสาขา

แคมเปญนี้เน้นย้ำถึงการเติบโตและนวัตกรรมของ COTTI COFFEE ในอุตสาหกรรมกาแฟ ด้วยการมุ่งเน้นที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์และการนำเทคโนโลยีมาใช้ COTTI COFFEE มุ่งมั่นที่จะดึงดูดลูกค้า สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งในระดับโลก และกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดกาแฟ

Cotti Coffee กับความทะเยอทะยานสู่ระดับโลก

Cotti Coffee มิได้มุ่งเน้นการขยายเครือข่ายธุรกิจเฉพาะภายในประเทศจีนเท่านั้น หากแต่ยังได้ริเริ่มแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศควบคู่กันไป โดยอาศัยสื่อสังคมออนไลน์เป็นกลไกสำคัญในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุนที่สนใจธุรกิจแฟรนไชส์

จากข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ฉบับล่าสุด Cotti Coffee ได้ขยายเครือข่ายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และแคนาดา คิดเป็นจำนวนสาขารวมทั่วโลกกว่า 7,000 แห่ง ทั่วโลก! และมีแผนดำเนินการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มเติม โดยกำหนดให้ประเทศเวียดนาม ไทย และมาเลเซีย เป็นตลาดเป้าหมายหลัก

แม้ Cotti Coffee จะประกาศผ่านเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยระบุว่าปัจจุบัน Cotti Coffee เป็น "แบรนด์กาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก" รองจาก 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการกาแฟอย่าง Starbucks, Luckin Coffee และ Dunkin' แต่นักวิเคราะห์ผู้ทรงคุณวุฒิอย่างเช่น เอ็ด ซานเดอร์ ยังคงตั้งข้อสังเกตและแสดงความกังขาต่อความยั่งยืนของ Cotti Coffee โดยคาดการณ์ว่ากระแสความนิยมดังกล่าวอาจเป็นเพียงชั่วคราว

COTTI COFFEE บุกไทย! กาแฟคุณภาพจากแดนมังกร พร้อมเสิร์ฟ 8 สาขา

สำหรับคอกาแฟชาวไทยที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ เตรียมพบกับ COTTI COFFEE แบรนด์กาแฟน้องใหม่ที่มาแรงจากแดนมังกร ซึ่งตอนนี้ได้มาเปิดให้บริการในประเทศไทยแล้วถึง 8 สาขา! กระจายตัวอยู่ตามแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำและศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมือง ได้แก่ สามย่านมิตรทาวน์, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลเวิลด์, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, ทรูดิจิทัล พาร์ค ส่วนใครที่เป็นขาช้อปย่านฝั่งธนฯ อดใจรออีกนิด เพราะ COTTI COFFEE กำลังเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแค เร็วๆ นี้

สัมผัสรสชาติกาแฟคุณภาพเยี่ยมในราคาที่เป็นมิตร เริ่มต้นเพียงแก้วละ 55 บาท COTTI COFFEE พร้อมเสิร์ฟความหอมกรุ่นและความสดชื่นให้กับคุณแล้ววันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมนูคลาสสิกอย่างอเมริกาโน่ ลาเต้ คาปูชิโน่ หรือเมนูพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ก็ล้วนแต่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ผ่านกรรมวิธีการชงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่สมบูรณ์แบบ โดนใจคอกาแฟชาวไทยอย่างแน่นอน

Cotti Coffee ปรากฏการณ์ใหม่ที่ท้าทายตลาดกาแฟ

Cotti Coffee นับเป็นแบรนด์กาแฟที่ควรจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ด้วยอัตราการเติบโตที่รวดเร็ว กลยุทธ์ทางการตลาดที่เฉียบคม และวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การขยายธุรกิจในระดับสากล อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวของ Cotti Coffee ยังคงต้องอาศัยการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การรักษามาตรฐานคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ การกำกับดูแลระบบแฟรนไชส์ การแข่งขันกับแบรนด์กาแฟรายใหญ่ และการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้าให้แก่ผู้บริโภค

แม้จะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว แต่ Cotti Coffee ก็ได้พิสูจน์ถึงศักยภาพในการแข่งขันในตลาดกาแฟโลก ด้วยปัจจัยหลัก อาทิ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ระดับราคาที่เข้าถึงได้ และประสบการณ์ของแบรนด์ที่ทันสมัย และการเข้ามาของ Cotti Coffee ในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับรสชาติกาแฟระดับสากลในราคาที่เหมาะสม และเพิ่มทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดกาแฟที่มีการแข่งขันสูง

ในอนาคต Cotti Coffee มีแผนที่จะขยายเครือข่ายสาขาในประเทศไทย พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในระยะยาว การประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนของ Cotti Coffee ในตลาดกาแฟโลก ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามและวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี Cotti Coffee ได้สร้างปรากฏการณ์และแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมกาแฟ และเป็นแบรนด์ที่นักวิเคราะห์ต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษในขณะนี้

อ้างอิง Cotti Coffee , thewirechina , adyen และ luxcafeclub