Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

11 พ.ย. 67
18:04 น.
|
189
แชร์

แม้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีความผันผวน แต่ภาคธุรกิจเครื่องสำอางในประเทศไทยยังคงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการของแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลวัตและการแข่งขันที่เข้มข้นในตลาด และจากข้อมูลของแบรนด์เครื่องสำอางไทย พบว่าแบรนด์ต่างๆ มีอัตราการเติบโตที่แตกต่างกัน โดยแบรนด์ที่แสดงถึงศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

"ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะแบรนด์ไทยหลาย ๆ แบรนด์ที่สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเฉดสี เนื้อสัมผัส หรือประสิทธิภาพ สินค้าเหล่านี้ล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนสามารถสร้างยอดขายและผลกำไรได้อย่างน่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์ไทยในตลาดเครื่องสำอาง ยิ่งไปกว่านั้น หลายแบรนด์ก็สร้างยอดขายถล่มทลาย เติบโตแบบก้าวกระโดด จนน่าจับตามอง ว่าแต่จะมีแบรนด์ไหนบ้างที่น่าสนใจ และผลประกอบการในปี 2566 ที่ผ่านมา แบรนด์เหล่านี้ทำรายได้ไปเท่าไหร่?

ตารางสรุปผลประกอบการ แบรนด์เครื่องสำอาง ไทยราคาประหยัด ในปี 2566

แบรนด์ ราคาเฉลี่ย ต่อผลิตภัณฑ์ (บาท) รายได้ (ล้านบาท) รายได้ (%) กำไร (ล้านบาท) กำไร (%)
ศรีจันทร์ (SRICHAND) 252 1,046 42.26 80 211.24
Cute Press 289 3,512 8.91 122 292.67
CHAT 894 107 22.18 28 15.04
odbo 224 270 74.68 9 249.47
Supermom 449 63 127.85 3 7.4
Jovina 524 104 41.68 5 -84.2
Cho 422 66 -6.85 1 -84.91
Gala Camille 243 47 10,170.37 3 359.72
เจ้านาง 269 138 0.82 0.4 3.77

 

แบรนด์ผู้นำตลาดที่แสดงศักยภาพการเติบโตโดดเด่น 

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • ศรีจันทร์ (SRICHAND) 

แบรนด์เครื่องสำอางไทยที่อยู่คู่คนไทยมานาน ขึ้นชื่อเรื่องแป้งฝุ่นคุมมัน เนื้อเนียนละเอียด ช่วยให้ผิวหน้าผ่องใสไร้ความมัน ปัจจุบันศรีจันทร์มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดด ลิปสติก และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยในปี 2566 ศรีจันทร์ทำรายได้ไปกว่า 1,046 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 42.26% พร้อมกวาดกำไรไปอีก 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.24% เรียกได้ว่าปังไม่หยุด!

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของศรีจันทร์ประกอบด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนชื้น และการกำหนดราคาที่เข้าถึงง่าย ส่งผลให้ศรีจันทร์ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่ง ตัวอย่างเช่น แป้งฝุ่นคุมมัน Translucent Powder และ ผลิตภัณฑ์กันแดด UV Shield ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และผลักดันยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • Cute Press

อีกหนึ่งแบรนด์ที่ครองใจสาวไทย โดดเด่นด้วย แพ็คเกจจิ้งน่ารัก สีสันสดใส และราคาที่เข้าถึงง่าย ผลิตภัณฑ์ของ Cute Press มีให้เลือกมากมาย ทั้ง เมคอัพ สกินแคร์ และน้ำหอม ในปี 2566 Cute Press โกยรายได้ไปถึง 3,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.91% และมีกำไร 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 292.67% โห...ยอดขายปังสุดๆ!

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของแบรนด์ที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ที่สดใส น่ารัก และเข้าถึงง่าย ด้วยการใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing และการสร้างสรรค์แคมเปญ Collaboration ร่วมกับแบรนด์อื่นๆ เช่น การร่วมมือกับ Disney ออก Collection เครื่องสำอางลาย Disney Princess นอกจากนี้ Cute Press ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนอง Trend ความงาม เช่น Cushion เนื้อบางเบา และ ลิปสติกเนื้อแมตต์


แบรนด์ดาวรุ่งที่กำลังมาแรง

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • odbo

แบรนด์เครื่องสำอางที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย และสีสันที่โดดเด่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ลุคธรรมชาติ หรือลุคแซ่บๆ odbo ก็เอาอยู่ ในปี 2566 odbo ทำรายได้ไป 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.68% และมีกำไร 9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 249.47% ว้าว! เติบโตแบบก้าวกระโดดจริงๆ

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของแบรนด์ มาจากกลยุทธ์ที่โดดเด่นของ odbo คือการสร้างความแตกต่าง เน้นการแต่งหน้าที่หลากหลาย สีสันสดใส ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ และการกำหนดราคาที่สามารถจับต้องได้ ส่งผลให้ odbo เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่ม LGBTQ+

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • Supermom

แบรนด์น้องใหม่มาแรงแซงทางโค้ง! รวมตลาดเครื่องสำอางไทยในปี 2566 Supermom โกยรายได้ไปถึง 63 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 127.85% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและการเติบโตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของแบรนด์ แบรนด์นี้โดดเด่นด้วยสินค้าคุณภาพสูงในราคาหลักร้อย พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของการแต่งหน้า ด้วยไอเท็มงานผิวที่หลากหลาย อายแชโดว์สีสันโดดเด่น บลัชออนที่ช่วยแต่งแต้มพวงแก้มให้ดูมีเลือดฝาด ลิปสติกหลากหลายเฉดสี และอุปกรณ์สำหรับแต่งหน้าที่ครบครัน เช่น พัฟเนื้อนุ่ม เซตแปรงแต่งหน้าคุณภาพดี และอื่นๆ อีกมากมาย ให้คุณได้สร้างสรรค์ลุคสวย เป๊ะ ปัง ได้อย่างใจปรารถนา

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • Gala Camille

Gala Camille แบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในประเทศไทย โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์สดใส และกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในราคาที่จับต้องได้ ในปี 2566 Gala Camille ทำรายได้ไปกว่า 47 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 10,170.37% พร้อมโกยกำไรไปกว่า 3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 359.72% สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ Gala Camille ประกอบด้วย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ และสีสันที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เช่น ลิปสติกเนื้อแมตต์ และ แป้งพัฟคุมมัน ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ การใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing และการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยสร้างการรับรู้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ Gala Camille กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • เจ้านาง (Chao Nang)

เจ้านาง แบรนด์เครื่องสำอางไทยที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรไทย มุ่งเน้นการดูแลผิวพรรณอย่างอ่อนโยน และปลอดภัย โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้หญิง เช่น แป้งพัฟ รองพื้น และ ลิปสติก ในปี 2566 เจ้านางทำรายได้ไปกว่า 138 ล้านบาท เติบโตขึ้น 0.82% พร้อมทำกำไรได้ 4 แสนบาท เพิ่มขึ้น 3.77% แสดงให้เห็นถึงความมั่นคง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์

ปัจจัยความสำเร็จของเจ้านางประกอบด้วย การยึดมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และผ่านการวิจัย และพัฒนาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และมีประสิทธิภาพ เหมาะกับผิวของคนไทย รวมถึงการสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามแบบไทย และการกำหนดราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เจ้านางเป็นที่ยอมรับ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง

แบรนด์ที่ต้องปรับตัว

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • CHAT

แบรนด์เครื่องสำอางของเมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง น้องฉัตร ที่เน้นคุณภาพระดับมืออาชีพ ในราคาที่จับต้องได้ ผลิตภัณฑ์ของ CHAT มีทั้ง รองพื้น แป้งพัฟ อายแชโดว์ และลิปสติก ที่ช่วยเนรมิตลุคสวยเป๊ะ ในปี 2566 CHAT ทำรายได้ไป 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.18% และมีกำไร 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.04% ถือว่าเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่น่าจับตามอง

แม้จะเป็นแบรนด์ระดับ High-end ที่มีคุณภาพ แต่ CHAT อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากทั้งแบรนด์ต่างประเทศ และแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด ทำให้กำไรลดลง การปรับกลยุทธ์ เช่น การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Mass หรือ การสร้าง Sub-brand ที่ราคาเข้าถึงง่าย อาจเป็นทางเลือกที่ CHAT ควรพิจารณา

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

  • Jovina และ Cho: Jovina

มียอดขายรวมทั้งสิ้น 104 ล้านบาท ซึ่งลดลง 41.68% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า ช่วน Cho มียอดขายรวมทั้งสิ้น 66 ล้านบาท ซึ่งลดลง 6.85% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า การลดลงของรายได้ของทั้งสองแบรนด์อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ สภาวะเศรษฐกิจโดยรวม การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องสำอาง หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เชิงลึกจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ส่วนแบ่งทางการตลาด กลยุทธ์ทางการตลาด และปัจจัยภายในองค์กร เพื่อให้สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุม

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ

วิเคราะห์ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต

การวิเคราะห์ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกและการติดตามเทรนด์ในปัจจุบันอย่างใกล้ชิด โดยจากข้อมูลที่มีอยู่ สามารถวิเคราะห์เบื้องต้นได้ดังนี้

  1. กระแสความนิยม Sustainable และ Clean Beauty: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ทดลองกับสัตว์ แบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ ย่อมมีโอกาสเติบโตสูง
  2. บทบาทของเทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยี AI และ Big Data มาใช้ เพื่อ Personalize ผลิตภัณฑ์ และบริการ เช่น การวิเคราะห์สภาพผิว เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หรือ การพัฒนา Application ที่ช่วยในการเลือกสี และ แต่งหน้า จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ
  3. ช่องทางการขายแบบ Omnichannel: การบูรณาการช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์การซื้อที่ราบรื่น ไร้รอยต่อ
  4. กลยุทธ์ Influencer Marketing: ยังคงเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ Micro-Influencer และ Nano-Influencer ที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจง

อนาคตที่สดใสของธุรกิจเครื่องสำอางไทย

จากการวิเคราะห์ข้อมูลข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในประเทศไทย แม้ต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่ผู้ประกอบการไทยหลายรายยังคงสามารถปรับตัวและสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนคว้าโอกาสทางธุรกิจจากกระแสความนิยมใหม่ๆ ได้อย่างทันท่วงที

สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยในอนาคต

  • กระแสความนิยม Sustainable and Clean Beauty: ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ทดลองกับสัตว์ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้
  • บทบาทของเทคโนโลยี AI และ Big Data: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และ การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ และการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม
  • ช่องทางการขายแบบ Omnichannel: การบูรณาการช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อที่ราบรื่น ไร้รอยต่อ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม
  • กลยุทธ์ Influencer Marketing: การใช้ Influencer โดยเฉพาะ Micro-Influencer และ Nano-Influencer ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการรับรู้ ความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม

นอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับ

  • การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง: การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ และการสื่อสารคุณค่าที่แตกต่าง เพื่อสร้างความจดจำ และความภักดีในตราสินค้า
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง: การวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และเทรนด์ความงามที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
  • การบริหารจัดการต้นทุนและประสิทธิภาพ: การควบคุมต้นทุน และการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน

ธุรกิจเครื่องสำอางไทยมีอนาคตที่สดใส ด้วยศักยภาพของผู้ประกอบการ นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ เชื่อมั่นว่าแบรนด์ไทยจะสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดระดับภูมิภาค และระดับโลกได้ในอนาคต

แชร์

เปิดธุรกิจเครื่องสำอางไทยราคาประหยัด แบบสวยครบจบในราคาเบาๆ