ช่วงหลายปีมานี้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงมาแรงมากทั้งในไทย และต่างประเทศส่วนหนึ่งมาจากการที่คนมีครอบครัวน้อยลง และทำงานหนัก ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นทำได้คือ การหาสัตว์คู่ใจมาเป็นเพื่อนคลายเหงา โดยสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ น้องหมา น้องแมว ซึ่งเอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงาน PET Expo Thailand 2022 เผยว่าปี 2565 ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมีมูลค่าถึง 4.18 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับ Kantar บริษัทวิจัย และที่ปรึกษาทางการตลาด เผยว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงไทยในปี 2565 โดยเฉพาะแมว สุนัข เพิ่มขึ้น
จากการเติบโตของธุรกิจสัตว์เลี้ยงทั้งไทย และต่างประเทศจะส่งผลดีกับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งไทยก็ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงส่งออกมากพอสมควร และยังมีการส่งเสริมการส่งออกจากภาครัฐ โดยล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาชี้เป้าส่งออกให้ผู้ประกอบการอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงว่าใหเขยายตลาดในฟิลิปปินส์หลังจากการสำรวจพบว่าชาวฟิลิปปินส์นิยมเลี้ยงสัตว์ ทำให้มีความต้องการสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้น
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โอกาสการขยายตลาดสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในตลาดฟิลิปปินส์มีมากเพราะตลาดนี้กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่ชาวฟิลิปปินส์หันมาเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้นทำให้มีความต้องการอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดย ข้อมูลล่าสุด จขาดทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า ชาวฟิลิปปินส์นิยมเลี้ยงสัตว์โดยเลี้ยงสุนัขมากที่สุด รองลงมา คือ แมว นก ปลาทอง ปลาเขตร้อน กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ สัตว์เลื้อยคลาย แมลงต่าง ๆ และสัตว์อื่น ๆ และฟิลิปปินส์ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสุนัขของเอเชียตะวันออก มีสุนัขมากเป็นลำดับ 5 ของโลก ประมาณ 20.3 ล้านตัว มีอัตราส่วนการเลี้ยง 1.6 ตัวต่อ 1 ครัวเรือน หรือ 64% ของครัวเรือนมีการเลี้ยงสุนัขทำให้มีความต้องการอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น
จากปัจจัยบวกดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ค่อนข้างสูง แนวโน้มการมองสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว นอกจากนี้ไทยยังมีข้อได้เปรียบในด้านสิทธิประโยชน์ทางการค้าทำให้ฟิลิปปินส์เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการขยายการส่งออกอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงของไทย แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยควรรักษาจุดแข็งในเรื่องมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของสินค้า ควรมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ได้อย่างหลากหลาย
ส่วนการเข้าสู่ตลาดควรกำหนดกลยุทธ์ด้านราคาอย่างเหมาะสม และสามารถจับต้องได้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ของประเทศ แต่ก็ควรพิจารณาเจาะตลาดในระดับกลาง-บนมากขึ้น เนื่องจากสินค้าระดับพรีเมียมเริ่มได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีการแข่งขันด้านราคาน้อยกว่า สำหรับช่องทางที่เป็นที่นิยมในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าสำหรับตลาดอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง ได้แก่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ รวมถึงช่องทางออนไลน์ ส่วนการหาผู้นำเข้าหรือผู้จัดจำหน่ายที่มีศักยภาพในฟิลิปปินส์สามารถดำเนินการได้หลายแนวทางโดยเฉพาะการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตลาดอาหารและผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเช่นงานPet.Summit Philippines งาน Philippine Pet Expo เป็นต้น
ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงในปี2566 โดยเฉพาะตลาดฟิลิปปินส์ เพื่อนบ้านอาเซียนของไทยที่กำลังขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นกาสทองมากๆสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปเจาะตลาดนี้