บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินของบริษัท เพราะตั้งแต่ 31ส.ค.66 ที่ออกมาประกาศเลื่อนวันชำระหุ้นกู้รุ่น JKN239A 443 ล้านบาท บมจ.JKN ก็มีข่าวความเคลื่อนไหวเรื่อยมา และได้สร้างผลกระทบต่อราคาหุ้น JKN ร่วงหนักในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งทุกความเคลื่อนไหวของ JKN ทางคุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดเสมอ อย่างกรณีมีแบบรายงานการได้มา/จำหน่ายหลักทรัพย์ของ JKN จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ทางคุณแอนมีการรับโอนหุ้นและการขายหุ้น JKN ยืนยันว่า การขายหุ้นมาจากบัญชี มาร์จิ้น ถูกฟอร์ซเซลล์ หรือบังคับขาย เพราะราคาหุ้นตกลงมาแรง โดยปัจจุบันคุณแอน จักรพงษ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน JKN เหมือนเดิม คือ 392,287,682 หุ้น คิดเป็น 38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
รายละเอียดประเด็นถูกฟอร์ซเซลล์ คลิ๊กที่นี่
“แอน จักรพงษ์” แจงกรณีขายหุ้นเกิดจากการถูกบังคับขาย ยันยังถือหุ้น 38%
ส่วนปัญหาการเลื่อนวันชำระหุ้นกู้ JKN239A จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 27 กันยายนนี้ เพราะหากหุ้นกู้รุ่นนี้มีปัญหา ก็คาดว่าจะลุกลามไปสู่ปัญหาให้กับหุ้นกู้รุ่นอื่นอีกราว 6 รุ่นได้เช่นกัน
ในระหว่างรอความชัดเจนในการแก้ปัญหาชำระหุ้นกู้ อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 กันยายนนี้ คือ กรณีที่ช่อง JKN 18 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นั่นคือธุรกิจทีวีดิจิทัลและการผลิตรายการข่าวซึ่งมีกระแสข่าวว่า อาจมีการขายช่อง JKN 18 มูลค่าราว 500 ล้านบาท และหากสามารถปิดดีลได้ลงตัวแล้วจะมีการแถลงข่าวขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2566
เว็บไซต์ SPACEBAR รายงานว่า การเจรจาระหว่างกลุ่ม TOPNEWS ของสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กับกลุ่ม เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ของ แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เบื้องต้นได้ข้อสรุป ซื้อขายกันที่วงเงินประมาณ 500 ล้านบาท หากการเจรจาในช่วงวันหยุดนี้ลงตัว จะมีการแถลงข่าวการซื้อขายอย่างเป็นทางการ
ลักษณะการซื้อขายครั้งนี้จะทำให้ ลักษณะให้ทาง TOPNEWS เข้ามาเป็นผู้ร่วมผลิตรายการกับทางสถานี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับของ กสทช. ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้รับใบอนุญาต คือ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย และทาง TOPNEWS ไม่สามารถมาในฐานะผู้เช่าเวลาของสถานี เนื่องจากมีการกำหนดสัดส่วนผังรายการของ กสทช. ที่กำหนดให้เจ้าของสถานีต้องมีเวลาผลิตรายการเองมากกว่าให้เช่าเวลา แต่หากว่าเป็นการร่วมผลิต ทาง กสทช.เปิดช่องให้สามารถทำได้โดยไม่มีกำหนด
ส่วนการเปลี่ยนชื่อสถานี กำลังมีการพิจารณาข้อกำหนดของ กสทช. ในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนชื่อสถานีจากผู้ถือใบอนุญาตเดิม ไม่ได้เปิดให้ผู้ถือหุ้นใหม่ทำการเปลี่ยนชื่อสถานี หากเปลี่ยนชื่อสถานีได้ คาดว่าจะใช้ชื่อ TOPNEWS 18
เบื้องต้นจะมีการปรับผังรายการของสถานี โดยทาง TOPNEWS จะเข้ามาทำข่าวในทุกช่วงของสถานี พร้อมกับทีมงาน ผู้ประกาศ ส่วนทาง JKN จะทำรายการส่วนที่เป็นภาคบันเทิง สารคดี ภาพยนตร์ และรายการขายตรง เนื่องจากมีรายการกลุ่มนี้อยู่ในมือแล้ว
สำหรับผังเวลารายการขายตรงทั้ง 2 ราย ต่างมีรายการขายตรงของตัวเอง โดยทาง JKN มีรายการขายตรง Hi Shopping ที่ซื้อมาจากกลุ่มฮุนได จากเกาหลี และออกอากาศในช่องมาต่อเนื่อง ส่วนของ TOPNEWS มีผู้เช่าเวลาทำรายการตรง ซึ่งรายการขายตรงเป็นรายการหลักของทั้งคู่
ทางออกทาง JKN ตัดสินใจปิดรายการ Hi Shopping ในสถานี เปิดทางให้ TOPNEWS และทาง JKN จะนำสินค้าขายตรงไปฝากขายในช่อง ทีวีไดเร็ค ของทรงพล ชัญมาตรกิจ เจ้าพ่อรายการขายตรงของไทย
อายุใบอนุญาตทีวีดิจิตอลของ JKN จะสิ้นสุดลงในปี 2572 หรือประมาณ 5 ปีนับจากนี้ โดย JKNได้ซื้อใบอนุญาตต่อจาก บริษัท ดีเอ็น บรอดแคสติ้ง ของกลุ่มเหตระกูล และทำช่อง NEWS18 เป็นช่องข่าว ความคมชัดปกติ โดยเสนอราคาที่ 1,300 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขายให้กับJKN ในราคา 1,000 ล้านบาท ในปี 2564
สำหรับเงื่อนไขการซื้อขาย และแหล่งเงินทุน คาดว่ามีจะรายละเอียดชัดเจน จากการแถลงข่าววันจันทร์ที่ 11 กันยายนนี้