บริษัท TikTok อินโดนีเซีย ประกาศยุติบริการอี-คอมเมิร์ซ บน TikTok ในอินโดนีเซียในวันนี้ 4 ต.ค. 66 เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลอินโดนีเซีย
TikTok ระบุในแถลงการณ์ว่า "เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของรัฐบาลท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ TikTok จึงตัดสินใจยุติการให้บริการทำธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซบนแพลตฟอร์ม TikTok Shop Indonesia ภายในวันที่ 4 ต.ค.66 และจะยังคงให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป"
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากระทรวงการค้าอินโดนีเซียประกาศว่า ทางกระทรวงให้เวลา TikTok 1 สัปดาห์ในการปรับแพลตฟอร์มให้เป็นแอปพลิเคชันระบบปฏิบัติการเดียว(Standalone App) โดยไม่มีฟีเจอร์อี-คอมเมิร์ซใด ๆ มิฉะนั้นทางกระทรวงจะสั่งปิดแพลตฟอร์มติ๊กต๊อกในอินโดนีเซีย กฏใหม่ของทางการอินโดนีเซีย ไม่ได้มีผลกระทบแค่เพียง TikTok เท่านั้น คำสั่งนี้ยังบังคับใช้กับเฟซบุ๊กด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เรียกร้องให้มีการใช้กฎระเบียบเพื่อกำกับดูแลโซเชียลมีเดีย เหตุผลเพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จนส่งผลกระทบกับยอดขายของธุรกิจภายในอินโดฯปรับตัวลดลง และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศทะลักเข้าสู่ตลาดอินโดฯเป็นจำนวนมาก
CNBC รายงานว่า กฎระเบียบใหม่ของอินโดนีเซียอาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของ TikTok ในการขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายโชว ชู CEO TikTok บอกว่า TikTok จะลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในอาเซียน เนื่องจากบริษัทพยายามหาลู่ทางในการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกหลังเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากรัฐบาลสหรัฐ
สำหรับอินโดนีเซียนั้น ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ TikTok และเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกโดยมีผู้ใช้งาน TikTok มากถึง 125 ล้านรายซึ่งเป็นรองแค่สหรัฐเท่านั้น