LG ลุยตลาด ‘ร้านสะดวกซัก’ ประเดิมร้านแรกซอยรามคำแหง 8 ลงทุนเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท

‘แอลจี’ (LG) บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำจากเกาหลีใต้ลุยตลาดแฟรนไชส์ ‘ร้านสะดวกซื้อ’ ประเดิมที่แรกที่ซอยรามคำแหง 8 มี 4 ขนาด S, M, L และ XL ลงทุนเริ่มต้น 1.5 ล้านบาทต่อร้าน มั่นใจแต้มต่อด้านแบรนด์และคุณภาพเครื่องซักผ้า มองตลาดยังไม่โอเวอร์ซัพพลาย

คอนเทนต์แนะนำ

ดักบึ้ม! อส.ชุดรปภ.ครู สุไหงปาดี เจ็บ 3

เศร้า! ญาติรับศพ 2 ผัวเมีย เหยื่อ อส.คลั่งโหด รัวสนั่นกลางร้านข้าวต้ม

ด่วน!เคาะแล้ว ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ไม่ทั่วประเทศ

ในปัจจุบัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักหรือคอนโดนิยมนำผ้าไปซักใน ‘ร้านสะดวกซัก’ หรือร้านที่ลูกค้าสามารถนำผ้าไปซักและอบได้เองตลอด 24 มากยิ่งขึ้น จนในปัจจุบันไทยมีร้านสะดวกซักในลักษณะนี้แล้วมากกว่า 4,500 สาขา กลายเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตและสร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจรายย่อยในประเทศไทย

ล่าสุด ในวันที่ 14 ก.พ. LG ผู้นำตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทยและเอเชีย ก็กระโดดลงมาทำธุรกิจนี้เองบ้างแล้ว ด้วยการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักเป็นร้านแรกในซอยรามคำแหง 8 ซึ่งเป็นแหล่งชุมชน และยังไม่มีร้านสะดวกซักเป็นของตัวเอง สะท้อนว่า ประเทศไทยยังมีทำเลชุมชนอีกมากมายที่ LG สามารถไปตีตลาดได้

โดยร้านสะดวกซักสาขาที่รามคำแหง 8 แห่งนี้ เป็นสาขาแรกในไทยและในโลก ซึ่งเป็นสาขาต้นแบบขนาด L ประกอบด้วย มีเครื่องซักอบรวม 7 ชุด 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องซักผ้า 13 กิโลกรัม 4 เครื่อง, เครื่องซักผ้า 17 กิโลกรัม 3 เครื่อง, เครื่องอบผ้า 13 กิโลกรัม 4 เครื่อง และ เครื่องอบผ้า 17 กิโลกรัม 3 เครื่อง ส่วนอัตราค่าบริการ เริ่มต้นราคา 40 บาท แบ่งเป็น

• เครื่องซักผ้า 13 กิโลกรัม น้ำเย็น 50 บาท น้ำอุ่นและน้ำร้อน 50 บาท
• เครื่องซักผ้า 15 กิโลกรัม น้ำเย็น 60 บาท น้ำอุ่นและน้ำร้อน 70 บาท
• เครื่องอบผ้า 13 กิโลกรัม เริ่มต้น 40 บาท ต่อเวลา 10 บาท
• เครื่องอบผ้า 17 กิโลกรัม เริ่มต้น 50 บาท ต่อเวลา 10 บาท

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถชำระเงินได้กลายช่องทางด้วยกัน ทั้งการแลกเหรียญหยอด การสแกนจ่าย และระบบสมาชิก คือการเติมเงิน-สะสมแต้ม ทำให้ลูกค้าใช้บริการได้สะดวก ไม่ต้องแลกเหรียญหยอดเหมือนร้านทั่วไป 

ร้านสะดวกซัก LG มีข้อได้เปรียบอย่างไร? ทำไมเหนือกว่าคู่แข่ง?

คุณอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทาง LG มองว่า ธุรกิจร้านสะดวกซักในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แม้ในปัจจุบันจะมีเชนร้านสะดวกซักจำนวนมากแล้วในประเทศไทย ตลาดร้านสะดวกซักในไทยยังไม่โอเวอร์ซัพพลาย และยังมีช่องว่างให้ LG เข้าไปตีตลาดได้อยู่

โดย LG มีข้อได้เปรียบที่ทำให้พาร์ทเนอร์แฟรนไชส์ของ LG Laundry Crew เหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆ 3 ประการ คือ 

1. LG เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีไอเดนติตี้ชัดเจน และเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้าอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทำการตลาด อีกทั้งยังมีการออกแบบร้านมาให้สะดุดตา น่าเข้าไปใช้บริการ 
2. ร้านสะดวกซัก LG ใช้เครื่องซักผ้าสำหรับการพาณิชย์ (Commercial) ซึ่งทนทานกว่า มีรอบซักสูงกว่า เหมาะกับการใช้ในเชิงการค้ามากกว่า แตกต่างจากร้านสะดวกซักแบรนด์อื่นๆ ที่นำเครื่องซักผ้าสำหรับใช้ในบ้าน(Home-Use) ไปดัดแปลง
3. บริการหลังการขายที่ดี เพราะ LG เป็นผู้ผลิตเครื่องซักผ้าเอง และมีโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในประเทศไทย ทำให้หากเครื่องเสียหรือขัดข้องจะสามารถส่งช่างเข้าไปซ่อมได้ทันที อีกทั้งยังมีบริการตรวจเช็กเครื่องทุกเดือน และล้างเครื่องซักเครื่องอบทุกๆ ครึ่งปีเป็นเวลา 2 ปีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย

ในเบื้องต้น LG ยังไม่มีเปิดเผยแผนหรือตั้งเป้ายอดรายได้ของธุรกิจแฟรนไชส์ แต่คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจนี้จะสามารถสร้างรายได้ราว 2-3% ของรายได้ทั้งหมด และจะช่วยขยาย awareness และความคุ้นเคยในตัวผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั่วไป ซึ่งจะสามารถเพิ่มยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG ให้มากขึ้นได้ในอนาคต

ปัจจุบัน LG ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ในตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทย โดยในปี 2023 ครองสัดส่วน 34.3%  เพิ่มจาก 33.7% ในปีก่อนหน้า

 อยากลงทุนร้านสะดวกซัก LG ต้องมีพื้นที่ มีเงินทุนเท่าไหร่?

คุณอำนาจ กล่าวว่า ในปัจจุบัน LG จะเน้นหาพาร์ทเนอร์เพื่อมาทำธุรกิจแฟรนไชส์ก่อน โดยไม่เข้าไปเปิดร้านบริหารเอง โดยผู้สนใจควรมีพื้นที่ในการทำธุรกิจไม่ต่ำกว่า 40 ตารางเมตร และต้องเตรียมเงินทุนสำหรับการปรับปรุงร้านและเครื่องซักผ้าและเครื่องอบ รวมไปถึงระบบอื่นๆ เป็นหลัก เพราะในปัจจุบันยังไม่มีสัญญาแฟรนไชส์ จึงไม่มีค่าแฟรนไชส์และค่าแรกเข้า

ปัจจุบัน ผู้สนใจเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักของ LG ทำสามารถเลือกทำร้านได้ 4 ขนาด คือ

1. ไซส์ S เครื่องซักอบรวม 4 ชุด เริ่มต้น 1.5 ล้านบาท
2. ไซส์ M เครื่องซักอบรวม 6 ชุด เริ่มต้น 2 ล้านบาท
3. ไซส์ L เครื่องซักอบ 8 ชุด เริ่มต้น 2.5 ล้านบาท
4. ไซส์ XL เครื่องซักอบ 10 ชุด เริ่มต้น 3 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้จะมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ คุณอำนาจกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน เพราะในบางพื้นที่อาจจะต้องมีการรีโนเวท และปรับพื้นที่ให้มีความเหมาะสม ซึ่ง LG จะเข้าไปสำรวจพื้นที่พร้อมให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ จะยังเข้าไปควบคุมการตกแต่งร้านให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกัน

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก LG Laundry Crew สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757