ธุรกิจการตลาด

ยังจะแบนไหม? TikTok สร้างรายได้ให้ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์

5 เม.ย. 67
ยังจะแบนไหม? TikTok สร้างรายได้ให้ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์

ในขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกา อยู่ในขบวนการพิจารณาการแบน TikTok ทางด้าน ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ได้เผยแพร่รายงาน ‘TikTok Economic Impact Report 2024’ ทิ่วิจัยโดย Oxford Economics ออกมา เพื่อแสดงถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการใช้แพลตฟรอ์ม TikTok ในสหรัฐฯ

โดยผลวิจัยการใช้งานของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (SMBs) บน TikTok จำนวน 1,050 ราย และลูกค้ากว่า 7,500 ราย พร้อมด้วยการใช้จ่ายค่าโฆษณา ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และการวัดผลอื่นๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุป

ในรายงาน พบว่า TikTok มีอิทธิพลต่อกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็กและกลางในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และยังสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดังนี้:

- กลุ่ม SMBs สร้างรายได้มากถึง 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์จาก TikTok

- มูลค่า GDP จากกลุ่ม SMBs รวม 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์จากการใช้ TikTok

- ธุรกิจมากกว่า 7 ล้านรายพึ่งพา TikTok

- ยอดขายสินค้าของกลุ่ม SMBs เพิ่มขึ้น 88% หลังโปรโมทบน TikTok

- การใช้ TikTok ในการโฆษณาและทำการตลาดของกลุ่ม SMBs มีส่วนร่วมต่อภาษีมูลค่ารวม 5.3 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ในรายงานยังได้นำเสนอกรณีศึกษาต่างๆ ที่เจ้าของธุรกิจอ้างว่า TikTok ช่วยกระตุ้นยอดขาย การเข้าชมเว็บไซต์ และรายได้เพิ่มเติมในรูปแบบอื่นๆ ด้วย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า TikTok มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว จากจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด 170 ล้านคน และจำนวนร้านค้าธุรกิจมากมาย TikTok จึงพยายามที่จะชี้แจงว่าทำไมแอปจึงควรได้รับอนุญาตให้ใช้งานในสหรัฐฯ ต่อไปได้

นี่มาใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามแบน TikTok ยกตัวอย่างสมัยที่โดนัลด์ ทรัมป์ ครองตำแหน่งประธานาธิบดี ฝ่ายบริหารของทรัมป์เคยพยายามแบน TikTok เพราะมองว่าเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการแบน TikTok สำหรับประชาชนทั่วไป และตอนนี้ทรัมป์ก็ไม่เห็นด้วยกับการแบนแล้ว เพราะมองว่า Meta จะได้รับประโยชน์เต็มๆ

ด้าน Meta กำลังเตรียมพร้อมอย่างชัดเจน สำหรับอนาคตที่เป็นไปได้ที่ TikTok อาจถูกแบน หากไม่แยกตัวออกจาก ByteDance โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Facebook เปิดตัวฟีเจอร์การรับชมวิดีโอแบบ โดยวิดีโอ Reels, Facebook Live, และวิดีโอแบบยาวจะมีค่าเริ่มต้นเป็นรูปแบบวิดีโอแนวตั้งแบบเต็มหน้าจอ ซึ่งหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คล้าย TikTok มาก

ส่วน YouTube และแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอื่นๆ อาจได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นหาก TikTok ถูกแบน และอาจปูทางให้สตาร์ทอัพแข่งขันกันในพื้นที่นี้เช่นกัน

การเปิดเผยรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจของ TikTok ในช่วงที่แพลตฟอร์มกำลังโดนกลุ่มฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐอเมริกาพิจารณาการแบน ดูจะเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เพราะเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้ เคยเกิดขึ้นในสมัยที่ทรัมป์จะแบน TikTok เหล่าครีเอเตอร์จำนวนมากออกมาคัดค้าน โดยกล่าวว่าการแบนจะส่งผลกระทบต่อโอกาสทางอาชีพของพวกเขา

แต่ถามว่ารอบนี้จะสำเร็จหรือไม่ … ต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา TikTok Newsroom, Tech Crunch

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT