Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
พฤติกรรมคนเปลี่ยน SEO ก็ต้องเปลี่ยนตาม AI เข้ามา พื้นที่ Organic น้อยลง
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

พฤติกรรมคนเปลี่ยน SEO ก็ต้องเปลี่ยนตาม AI เข้ามา พื้นที่ Organic น้อยลง

26 มิ.ย. 67
20:20 น.
|
627
แชร์

บทความนี้ ทีม SPOTLIGHT ได้สรุปสาระสำคัญจากการเสวนา SEOs with insurance in 2024 โดยคุณไอซ์ ศิริพงษ์ กลิ่นขจร จาก NerdOptimize.com ในงาน Money InsureX FORUM 2024

SEO คือ อะไร

SEO สามตัวอักษร ที่เราคงได้ยินจนคุ้นหู โดยเฉพาะใครที่เป็นสายคอนเทนต์แนวเขียนตามเว็บไซต์ หรือแม้แต่พ่อค้า แม่ค้าที่ทำการตลาดขายของออนไลน์ ก็ต้องพึง SEO เพื่อเปิดการมองเห็นไปทุกราย

SEO ย่อมาจาก Search Engine optimization คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine ซึ่งจะทำให้ Search Engine เข้าใจง่ายว่า เว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร ข้อมูลมีประโยชน์ให้แก่ผู้คนมากน้อยแค่ไหน

เป้าหมาย ของ SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของเรา ปรากฎในลำดับต้นๆของการค้นหา ส่งผลให้ปริมาณ Organic Traffic เพิ่มขึ้น และเมื่อการมองเห็นเพิ่มขึ้น ปริมาณผู้ชมเว็บไซต์สูงขึ้น เราก็จะไม่ต้องเสียเงินเพื่อจ่ายเงินค่าโฆษณาโปรโมทมากมาย ซึ่งในโลกของธุรกิจ นี่คือโอกาสทองที่ธุรกิจออนไลน์ของคุณมีโอกาสเติบโตสูงและประสบความสำเร็จ หากคอนเทนต์ของคุณติด SEO

SEO Measurement การวัดผล SEO ไม่สามารถวัดผลได้ในระยะสั้น แต่ควรวัดผลรายครึ่งปี โดยใช้ CPC (Cost per Click) ร่วมกับการใช้ ROSS (Return on Organic Search Spend)

Google แพลตฟอร์มหลักในการค้นหา

คุณไอซ์ เปิดเผยว่า ในตอนนี้ Google ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลัก ที่ผู้ใช้งานข้อมูลข่าวสารต่างๆ และสามารถดึง Traffic คนดูมาได้มากที่สุด เหมือนกับที่บอกว่า “คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้อะไร ก็ถามอากู๋”  แม้ว่าปัจจุบันจะมีแพลตฟอร์มใหม่เข้ามาแย่งชิงการค้นหา

  • Google สามารถดึง Traffic ได้มากกว่า 41.49%

  • แพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น TikTok, YouTube, Shopee, Pantip, Bing, Lazada สามารถดึง Traffic ได้ 58.51%

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการรู้ความต้องการ หรือ Touchpoint ของลูก้า เพื่อให้ Keywords นั้นๆในแต่ละช่องทาง ได้ทำการตลาด ครอบคลุมในทุกมิติ

1 คอนเทนต์ พยายามทำให้ Keywords ติดหลายๆ ตัว

หากเราอยากทำให้บทความเราติด SEO ให้พยามยาม ใช้ Keywords หลายๆตัว เช่น หากเราอยากเขียนเรื่อง ‘ประกันรถยนต์’ เราจะพบว่า

  • กลุ่มคำประกันรถยนต์ 20,000 + ต่อเดือน

  • กลุ่มคำ รถ,รถยนต์ 2,500,000 + ต่อเดือน

  • กลุ่มคำที่เกี่ยวข้อง อื่นๆ (เช่น ข้อสอบใบขับขี่) 6,900,000 + ต่อเดือน

  • ประกันรถยนต์ 50,000 + ต่อเดือนฃ

  • ประกันรถยนต์ ชั้น 2 40,000 + ต่อเดือน

  • ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่ไหนดี 23,000+ต่อเดือน

ซึ่งหน้าที่ของผู้เขียนคอนเทนต์ที่ดี คือต้องพยายามใส่ Keywords เหล่านี้ไปยังคอนเทนต์ของเราให้ได้มากที่สุด

AI เริ่มเข้ามา ทำให้พื้นที่ Organic คอนเทนต์น้อยลง

ล่าสุด Google ได้มีการอัปเดท IO เวอร์ชั่นใหม่ เมื่อเดือน พ.ค.67 ที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยน จาก SERPs  (Search Engine Results Page ) เป็น SGE (Search Generative Experience) ที่มีการใช้ AI เข้ามาแทรกในผลการค้นหามากขึ้น ทำให้ผลการค้นหาแบบใหม่มีพื้นที่ของคอนเทนต์ Organic น้อยลง (ส่วนใหญ่ Paid Content จะกินพื้นที่มากกว่า)

คนเสิร์ช Keywords ยาวมากขึ้น

ปัจจุบันคนหาข้อมูล และเสิร์ชหา Keywords ที่มีความยาว เฉพาะ และ เจาะจงมากขึ้น จนเกิดเป็น Long Tail Keywords

เช่น “ช่วยหาประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาถูกที่สุดของ Toyota Altis ปี 2019 ให้หน่อย” จาก “ประกันรถยนค์ชั้น 1 Toyota Altis 2019”ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือจะทำอย่างไร? ให้ชื่อของบริษัทเราไปอยู่ในหน้าค้นหานั้นให้ได้ ?  

 

 

 

 

แชร์

พฤติกรรมคนเปลี่ยน SEO ก็ต้องเปลี่ยนตาม AI เข้ามา พื้นที่ Organic น้อยลง