ปรากฏการณ์สุกี้ตี๋น้อยยังคงร้อนแรงไม่หยุด! แม้จะเปิดมาเพียงไม่กี่ปี แต่แบรนด์บุฟเฟต์ขวัญใจมหาชนก็สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างน่าทึ่ง ล่าสุด ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 สุกี้ตี๋น้อยโกยกำไรไปแล้วกว่า 610 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขยายสาขาและตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด JMART ในฐานะผู้ถือหุ้นก็ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ
สุกี้ตี๋น้อย กำไรพุ่งครึ่งปี67 ทะลุ 610 ล้าน อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ
สุกี้ตี๋น้อยยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในช่วงครึ่งปีแรกสามารถสร้างผลกำไรได้ถึง 610 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความนิยมอย่างต่อเนื่องของร้านสุกี้บุฟเฟ่ต์เจ้าดัง ที่มีสาขาขยายตัวอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และราคาที่เข้าถึงได้
JMART ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 30% ได้รับอานิสงส์จากความสำเร็จของสุกี้ตี๋น้อยไปเต็มๆ โดยมีส่วนแบ่งกำไร 183 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกัน นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของ JMART ในการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่ไม่เพียงแต่สร้างผลตอบแทนทางการเงินที่น่าประทับใจ แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจโดยรวมอีกด้วย
67 สาขาทั่วไทย ตอบรับความต้องการของลูกค้า
ปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อยมี 67 สาขาทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 6 สาขา จากไตรมาสที่แล้ว โดย มีแผนขยายสาขา ออกต่างจังหวัด อย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 ได้ขยายสาขา ไปยังจังหวัด เช่น ชลบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา, อุดรธานี และ สุพรรณบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สะท้อนถึงความต้องการ ของลูกค้าที่ต้องการทานสุกี้ ชาบู ในราคาคุ้มค่า รสชาติอร่อย และบริการที่ประทับใจ ตามด้วยแนวคิดการให้บริการที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค
สำหรับผลประกอบการย้อนหลังของสุกี้ตี๋น้อยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
- ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
ส่วนปี 2567 กำไร 610 ล้านบาท ด้านรายได้ต้องรอทางสุกี้ตี๋น้อยเปิดเผยอีกครั้ง
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของสุกี้ตี๋น้อย?
จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสุกี้ตี๋น้อย เห็นได้ชัดว่าแบรนด์นี้มีกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและโดนใจผู้บริโภค มาดูกันว่าอะไรคือเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้สุกี้ตี๋น้อยประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
- ราคาที่คุ้มค่า เข้าถึงได้ง่าย : สุกี้ตี๋น้อยนำเสนอบุฟเฟต์ในราคาที่จับต้องได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน การกำหนดราคาที่เข้าถึงได้ง่ายช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าและตัดสินใจใช้บริการได้ไม่ยาก
- คุณภาพและรสชาติที่เหนือกว่า : แม้ราคาจะย่อมเยา แต่สุกี้ตี๋น้อยไม่ได้ลดคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติอาหาร การรักษามาตรฐานด้านคุณภาพและรสชาติให้อยู่ในระดับสูงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำอีก
- การขยายสาขาอย่างรวดเร็ว : การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้สุกี้ตี๋น้อยเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และฐานลูกค้า
- บริการที่ประทับใจ : การบริการที่ดีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและอยากกลับมาใช้บริการอีก สุกี้ตี๋น้อยให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพและเป็นกันเอง
- ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า : สุกี้ตี๋น้อยเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่มองหาบุฟเฟต์ที่คุ้มค่า อร่อย และมีคุณภาพ การสร้างสรรค์เมนูและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ทำให้แบรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
- การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ : การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีช่วยให้สุกี้ตี๋น้อยสามารถรักษาระดับราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ในขณะเดียวกันก็ยังคงทำกำไรได้อย่างน่าประทับใจ
- กลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภค : สุกี้ตี๋น้อยใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการใช้สื่อออนไลน์ โปรโมชั่น และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
- การปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง : สุกี้ตี๋น้อยไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านเมนู บริการ และการขยายสาขา การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต
ความสำเร็จของสุกี้ตี๋น้อยไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนัก ทุ่มเท และใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การพัฒนาสูตรอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ไปจนถึงการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุกี้ตี๋น้อยสามารถครองใจผู้บริโภค และเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ที่มา รายงานผลประกอบการ Jmart