ธุรกิจการตลาด

10 ประเทศที่บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดในโลก

4 ก.ย. 67
10 ประเทศที่บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดในโลก

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารที่สะดวก รวดเร็ว และอร่อย ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารทั่วโลก ด้วยรสชาติที่หลากหลายและวิธีการปรุงที่ง่าย ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก

แต่ประเทศใดที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุด? และอะไรคือรสชาติยอดนิยมในแต่ละประเทศ? มาหาคำตอบกัน


10 ประเทศที่รวยที่สุดในโลก บางประเทศเล็ก..แต่ทำไมรวยไม่เบา


10 ประเทศที่บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดในโลก

10 ประเทศที่บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดในโลก

ในโลกที่เร่งรีบ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคือเพื่อนแท้ของใครหลายคน สะดวก รวดเร็ว อร่อย และราคาสบายกระเป๋า ทำให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้วทั่วโลก จากรายงานของทาง World Instant Noodles Association ในปี 2023 ที่ระบุว่า 10 ประเทศใดที่บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากที่สุดในโลกมีดังนี้

10 ประเทศที่บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากที่สุดในโลก (หน่วย: ล้านหน่วยบริโภค)

อันดับ ประเทศ/ภูมิภาค 2019 2020 2021 2022 2023
1 จีน/ฮ่องกง 41,450 46,360 43,990 45,070 42,210
2 อินโดนีเซีย 12,520 12,640 13,270 14,260 14,540
3 อินเดีย 6,730 6,730 7,560 7,580 8,680
4 เวียดนาม 5,440 7,030 8,560 8,480 8,130
5 ญี่ปุ่น 5,630 5,970 5,850 5,980 5,840
6 สหรัฐอเมริกา 4,630 5,050 4,980 5,150 5,100
7 ฟิลิปปินส์ 3,850 4,470 4,440 4,290 4,390
8 เกาหลีใต้ 3,900 4,130 3,790 3,950 4,040
9 ไทย 3,570 3,710 3,630 3,870 3,950
10 ไนจีเรีย 1,920 2,460 2,620 2,790 2,980

หมายเหตุ: ข้อมูลจากตารางปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567

1. จีนและฮ่องกง: 42,210 ล้านซอง

  • จีน: รสชาติต้นตำรับจีนที่ทำจากน้ำซุปเนื้อและผงพะโล้ 5 ชนิด (เครื่องเทศที่ทำจากยี่หร่า, อบเชย, กานพลู, เปลือกส้ม, และโป๊ยกั๊ก) เป็นที่นิยมมาก นอกจากบะหมี่แบบเส้นกลมแล้ว ยังมีเส้นหมี่และวุ้นเส้นให้เลือกอีกด้วย ชาวจีนมักนิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “บะหมี่ถัง” ในขณะที่ชาวฮ่องกงชื่นชอบน้ำซุปที่มีกลิ่นอายอาหารทะเล เช่น กุ้งและปลา แต่ก็มีน้ำซุปหลากหลายรสชาติให้เลือกสรร อาทิ น้ำซุปเนื้อ, ไก่, และกระดูกหมู ชาวฮ่องกงมักจะรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพร้อมเครื่องเคียงที่ร้านอาหารจานด่วน (cha chaan tengs) ทั้งในมื้อเช้าและเป็นอาหารว่าง

2. อินโดนีเซีย: 14,540 ล้านหน่วยบริโภค

  • "Mie Goreng" หรือบะหมี่ผัด คือราชาแห่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในอินโดนีเซีย รสชาติยอดนิยม ได้แก่ ผัก ไก่ และกุ้ง มักจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรสพริก และเนื่องจากประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารฮาลาล

3. อินเดีย: 8,680 ล้านหน่วยบริโภค

  • รสชาติแกง (masala) และไก่ tikka ครองใจชาวอินเดีย ด้วยเหตุผลทางศาสนา ทำให้ชาวอินเดียราว 60% เป็นมังสวิรัติ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสผักและมะเขือเทศจึงเป็นที่นิยมสูงสุด ชาวอินเดียมักจะรับประทานบะหมี่พร้อมน้ำซุปเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมี "Chota Packs" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดเล็กในซองที่วางขายเป็นขนมสำหรับเด็กๆ

4. เวียดนาม: 8,130 ล้านหน่วยบริโภค

  • รสชาติ "Tom Chua Cay" (รสชาติเปรี้ยวอมหวานจากกุ้ง) ถือเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุด ชาวเวียดนามนิยมเส้นบะหมี่ที่มีความเหนียวนุ่ม และมักจะเพิ่มหอมแดง มะนาว และพริก ลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ปรุงสุกแล้ว นอกจากเส้นบะหมี่แบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้เส้นหมี่ pho ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามอีกด้วย

5. ญี่ปุ่น: 5,840 ล้านหน่วยบริโภค

  • โดยทั่วไปแล้ว ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีรสชาติน้ำซุปกระดูกหมู, น้ำซุปไก่, และน้ำซุปปลา ซึ่งมักจะปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง มีบะหมี่หลากหลายชนิดจากญี่ปุ่นให้เลือกรับประทาน อาทิ อุด้ง, โซบะ, และบะหมี่ผัด นอกจากนี้ ยังมีบะหมี่หลากหลายรูปแบบ รวมถึงบะหมี่ที่พัฒนาร่วมกับร้านราเม็งท้องถิ่นและร้านอาหารชื่อดัง ตลอดจนผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแคลอรี่ต่ำสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ

6. สหรัฐอเมริกา: 5,100 ล้านหน่วยบริโภค

  • ชาวอเมริกันนิยมรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติไก่เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีรสชาติอื่นๆ ให้เลือกสรรมากมาย อาทิ เนื้อวัว กุ้ง และผัก เนื่องจากชาวอเมริกันไม่นิยมการซดเส้น บะหมี่จึงมักจะถูกตัดให้สั้นและรับประทานโดยใช้ช้อนและส้อม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่สามารถปรุงในไมโครเวฟได้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง

7. ฟิลิปปินส์: 4,390 ล้านหน่วยบริโภค

  • ในฟิลิปปินส์ บะหมี่ผัดที่เรียกว่า "Pancit Canton" เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย รสชาติของ Calamondin (ผลไม้ตระกูลส้ม) และพริกเผ็ดเป็นที่นิยม ในขณะที่รสชาติอาหารทะเลก็เป็นที่นิยมสำหรับบะหมี่น้ำ เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์ชอบรับประทานอาหารว่าง จึงนิยมรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยขนาดเล็ก

8. เกาหลีใต้: 4,040 ล้านหน่วยบริโภค

  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสเผ็ดที่มีน้ำซุปพริกสีแดงร้อนแรงเป็นที่นิยมมากที่สุด นอกจากนี้ น้ำซุปเนื้อและอาหารทะเลก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ชาวเกาหลีนิยมเส้นบะหมี่หนาที่มีความเหนียวนุ่ม ผสมกับแป้งมันฝรั่ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา น้ำซุปไก่แบบไม่เผ็ดและน้ำซุปสีขาวที่เรียกว่า Champon ก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

9. ไทย: 3,950 ล้านหน่วยบริโภค

  • รสต้มยำ, สุกี้ไทย, และหมูสับ เป็นที่นิยมในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้ว ชาวไทยนิยมรสชาติเผ็ดร้อนที่มีส่วนผสมของพริก นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เช่น เส้นหมี่ และเส้น เล็ก

10. ไนจีเรีย: 2,980 ล้านหน่วยบริโภค

  • รสชาติไก่เป็นรสชาติที่พบได้บ่อยที่สุด ชาวไนจีเรียโดยทั่วไปจะปรุงบะหมี่ด้วยน้ำซุปในปริมาณเล็กน้อย และรับประทานโดยไม่ใส่น้ำซุป เด็กๆ และนักเรียนนิยมรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารเช้า อาหารว่าง และอาหารกลางวันที่โรงเรียน พวกเขาชอบรับประทานบะหมี่ในปริมาณมากในหนึ่งมื้อ

ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทย มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้าน

จากรายจากวิจัย กรุงศรี ประเมินว่า ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยยังคงร้อนแรงด้วยมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท แต่การแข่งขันก็ดุเดือดไม่แพ้กัน โดย 3 ผู้เล่นหลักอย่าง "มาม่า" (47.6%), "ไวไว" (23.7%) และ "ยำยำ" (15.4%) ครองส่วนแบ่งรวมกันถึง 86.7% ของตลาดทั้งหมด ด้วยข้อได้เปรียบทั้งด้านการผลิต การเงิน และช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง

ในขณะที่แบรนด์ต่างชาติอย่าง "นิสชิน" และ "นงชิม" ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดน้อย แม้ความต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงกำลังซื้อซบเซา เพราะเป็นอาหารราคาประหยัดที่ทุกเพศทุกวัยคุ้นเคย ผู้ผลิตจึงต้องงัดกลยุทธ์ใหม่ๆ ทั้งการสร้างสรรค์รสชาติที่แปลกใหม่และหลากหลาย เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและดึงดูดผู้บริโภคในระยะยาว

ถึงแม้ตลาดจะมีมูลค่าสูง แต่การแข่งขันที่รุนแรงและส่วนแบ่งตลาดที่กระจุกตัวในกลุ่มผู้เล่นหลัก อาจทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวได้ในอนาคต ผู้ผลิตจึงต้องปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งให้ได้

ความท้าทายและโอกาสในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทย

ความท้าทายตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทย

  • การแข่งขันที่รุนแรงและส่วนแบ่งตลาดที่กระจุกตัว: ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเพียงไม่กี่รายที่ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ แบรนด์เล็ก ๆ และแบรนด์ใหม่ ๆ ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าสู่ตลาดและแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ที่มีทรัพยากรและการเข้าถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหนือกว่า
  • ความเสี่ยงต่อภาวะตลาดอิ่มตัว: แม้ว่าความต้องการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจซบเซา แต่การเติบโตในระยะยาวอาจถูกจำกัดเนื่องจากตลาดมีแนวโน้มที่จะอิ่มตัว ผู้บริโภคอาจเริ่มมองหาทางเลือกอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าหรือมีความหลากหลายมากกว่า
  • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคในปัจจุบันมีความใส่ใจในสุขภาพมากขึ้นและมองหาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งมักถูกมองว่าเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอาจสูญเสียความนิยมหากไม่สามารถปรับตัวให้ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคได้
  • ความผันผวนของราคาสินค้า: ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น แป้งสาลีและน้ำมันปาล์ม อาจมีความผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและอาจบีบให้ผู้ผลิตต้องขึ้นราคาสินค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย

โอกาสตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทย

  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ: ผู้ผลิตสามารถสร้างความแตกต่างและดึงดูดผู้บริโภคด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของธัญพืช หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีรสชาติและรูปแบบที่แปลกใหม่
  • การขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ: ผู้ผลิตสามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ เช่น กลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพหรือกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการอาหารเฉพาะ เช่น อาหารฮาลาลหรืออาหารเจ
  • การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี: เทคโนโลยีสามารถช่วยผู้ผลิตในการปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดต้นทุน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
  • การส่งออก: ตลาดต่างประเทศยังมีโอกาสสำหรับผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไทยในการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโต แต่ผู้ผลิตต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ การปรับตัวและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาส่วนแบ่งตลาดและดึงดูดผู้บริโภคในระยะยาว การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย การขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ผลิตประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้

ที่มา instantnoodles และ krungsri

advertisement

SPOTLIGHT