ธุรกิจการตลาด

GEN X ติดแกลม แคร์ความสุข ไม่สนราคา ยอมควัก 30% ของรายได้/เดือน

9 ก.ย. 67
GEN X ติดแกลม แคร์ความสุข ไม่สนราคา  ยอมควัก 30% ของรายได้/เดือน

istock-2154809899_1

แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอาจจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าผู้คนก็ยังจะพยายามหารางวัลให้กับชีวิต และตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้สินค้าหรูหรา ราคาแพง บริการระดับพรีเมียม กลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์การบริโภคแบบใหม่ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ และสิ่งนี่เอง ทำให้เกิด เทรนด์ติดหรู ติดแกลม (Glamorous) หรือ เทรนด์ลูกคุณ (คุณหนู)

ทำให้นักการตลาด ควรศึกษาทัศนคติ พฤติกรรม แรงจูงใจ และปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า และบริการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ และเพื่อออกแบบกลยุทธ์ที่จะสามารถพิชิตใจ และตอบสนองความต้องการของชาว“ติดหรู ดู luxurious” ได้ในอนาคต

บทความนี้ SPOTLIGHT ได้สรุปสาระสำคัญจากงานสัมมนา “Unstoppable Luxumer เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” ของ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU

s__31318460

สายลักซ์ชู คืออะไร

หากเราได้เล่น Social media โดยเฉพาะ TikTok เราคงเคยได้คิดคำว่า “สายลักซ์ชู ดูแพง” โดยคำศัพย์วัยรุ่นนี้ย่อมากจากคำว่า Luxury ที่แปลว่า ความหรูหรา ความฟุ่มเฟื่อย โดยมักใช้สินค้าราคาแบรนด์เนมราคาสูง

แต่แท้จริงความ ‘ความลักซ์’ ไม่ได้อยู่แค่ในสินค้าแบรนด์เนมเท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ในสินค้าหมวดหมู่อื่น ๆ ตั้งแต่กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งกลุ่มของสะสมต่าง ๆ เช่น Pop Mart ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ โดยผู้คนยอมจ่ายในราคาสูงเกินความเป็นจริง เพื่อให้ได้มาครอบครอง นอกจากนี้ กลยุทธ์การตลาด และการโฆษณาผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียก็มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้า และบริการระดับพรีเมียมเหล่านี้ เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ ความสุข ความสำเร็จ และการเป็นที่ยอมรับ ซึ่งส่งผลให้ตลาดสินค้าหรูในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว

s__31318439

LUXUMER ผู้บริโภคที่พร้อมจ่าย

จากความต้องการสินค้า หรือการบริการพรีเมียม ทำให้เกิด เทรนด์ผู้บริโภคที่เรียกว่า LUXUMER โดยมาจากคำว่า “Luxury” และ “Consumer” ซึ่งหมายถึง กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบ และให้ความสำคัญกับสินค้า หรือบริการระดับพรีเมียมที่เน้นความหรูหราเป็นพิเศษ

  • อาจเป็นได้ทั้งการบริโภคสินค้าหรู เช่น เสื้อผ้าหรือกระเป๋าแบรนด์เนม

  • การเดินทางท่องเที่ยวด้วยสายการบินระดับ Business Class หรือที่พักระดับ 5 ดาว

  • รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในหมวดผลิตภัณฑ์เดียวกัน

โดยเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการ และนักการตลาดควรจับตาเป็นพิเศษ เพราะหากสามารถสร้างสินค้า หรือบริการที่ LUXUMER พึงพอใจ และประทับใจได้ก็จะกลายเป็นโอกาสทองของธุรกิจทันที เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มักให้คุณค่า และความสำคัญกับการบริโภคสิ่งของเพื่อภาพลักษณ์ และความสุขมากกว่าคนทั่วไป และโดยส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงราคา
เป็นปัจจัยหลัก

เปิดผลสำรวจ คนไทยติดหรูแค่ไหน ?

1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรม ติดลักซ์

  • 31% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมาก

  • 6% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมากที่สุด

  • ผู้ชายมีความติดลักซ์มากกว่าผู้หญิง

  • Gen X มีความสนใจในสินค้าหรูหรามากที่สุด ตามมาด้วย Gen Y และ Baby Boomer

  • Gen X นิยมซื้อเครื่องแต่งกาย และแฟชั่นมากที่สุด

s__31318432_1

สินค้าที่ผู้ชายติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด ได้แก่ อุปกรณ์เทคโนโลยี

แบรนด์ที่ผู้ชายติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  • Apple (กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี)

  • Louis Vuitton (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)

  • Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)

สินค้าที่ผู้หญิงติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด  ได้แก่ อาหาร และเครื่องดื่ม

แบรนด์ที่ผู้หญิงติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  • Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)

  • Dior (กลุ่มเครื่องสำอาง/น้ำหอม/สกินแคร์)

  • Dior (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)

โดยในจำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่า 54% มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน 50% มีเงินเก็บน้อยกว่าหกเดือน ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าชาวลักซ์จำนวนมาก ยอมควักเงินซื้อสินค้าหรูมากถึง 10 - 30% ของรายได้ต่อเดือน

s__31318367

เปิดเหตุผล ทำไมคนไทยติดหรู?

นางสาวชุติภา มั่นวาจา หัวหน้าทีมวิจัย และทีมนักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้เปิดเผย 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้คนติดลักซ์ นั้นก็คือ

1. อยากให้คนอื่นยอมรับและอยากแสดงสถานะทางสังคม

2. อยากโดดเด่น แตกต่าง และไม่ซ้ำใคร

โดยผู้ชายอยากได้รับการยอมรับ และชอบความโดดเด่นมากกว่าผู้หญิง และ Gen Y อยากโดดเด่น แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร มากกว่า Gen Z

5 กลุ่มของสายลักซ์ชู ติดหรู

CMMU ได้มีการวิเคราะห์เชิงลึกถึงพฤติกรรมของชาวลักซ์ พบว่าแบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก ได้แก่

  • หรูปริ่มน้ำ พบมากที่สุดถึง 40% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นชีวิตจิตใจ ชอบซื้อสินค้าที่อยู่ในกระแส มีรายได้ และเงินออมไม่สูงมากนัก แต่ชอบใช้จ่ายแบบไม่ค่อยยั้งคิด

  • "หรูเขียม" พบ 28% เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูแบบจำกัด มีรายได้ และเงินออมไม่สูง แต่จะวางแผนประหยัดอดออมเพื่อให้ได้สินค้าหรูมาครอบครอง โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มักจะให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม โดยเป็นการบริโภคเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง และกลุ่มสุดท้าย

  • "หรูเจียมตัว" พบ 24% เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นครั้งคราว มีรายได้ และ เงินออมปานกลาง ก่อนตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจะต้องวางแผนทางการเงิน และพิจารณาอย่างรอบคอบ

  • หรูได้มีสติด้วย พบ 6% เป็นกลุ่มที่มองหาความคุ้มค่าในการบริโภคสินค้าหรู มีรายได้สูง และเงินออมมากกว่า 5 ปี แม้จะมีกำลังซื้อสูงแต่ก็ไม่ตัดสินใจซื้อแบบทันทีแต่จะพิจารณาความคุ้มค่า เช่น การมองหาโปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสูงสุด

  • "หรูลูกคุณ" พบ 2% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูได้แบบ ไม่จำกัด มีเงินออมสูง เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย สามารถใช้จ่ายสินค้าหรูหราได้อย่างไม่ต้องกังวล

s__31318490_1

ทำการตลาดยังไง ให้มัดใจสายลัคซ์ชู ?

CMMU ได้เผยกลยุทธ์ LUXE Strategy ที่นักการตลาดและผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อมัดใจผู้บริโภคสายลัคซ์ชู ประกอบด้วย

  • Lifestyle (L): การสร้างภาพลักษณ์ที่หรูหรา และสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่มีระดับ

  • Uniqueness (U): การสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และแตกต่าง ไม่ซ้ำใคร และไม่สามารถหาได้จากแบรนด์อื่น

  • Experience (X): การสร้างประสบการณ์สุดพิเศษ เหนือระดับ น่าประทับใจให้กับผู้บริโภค

  • Endorsement (E): การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือผู้ทรงอิทธิพล (Influencer) มาช่วยดึงดูดความสนใจ สร้างความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

s__31318397_1

ส่องชาวเน็ต ติดเเกลม ชอบดูอะไรบนโซเชียลมีเดีย 

ทางด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูล Social Listening จากการจัดทำร่วมกันโดย CMMU และ Wisesight (ประเทศไทย) พบว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2567 ยังเผยให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจ Luxury Brand บนโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก โดยมี

  • Engagement บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสูงถึง 56 ล้าน

  • กรุงเทพ ฯ ครองแชมป์พื้นที่ที่มีความลักซ์รวมตัวกันมากที่สุดบนโซเชียลมีเดียถึง 56.9%

  • ประเภทสินค้าในกลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มี Engagement สูงสุด 3.2 ล้านซึ่งอาจหมายความว่า ชาวลักซ์ในกลุ่มอาหาร และเครื่องดื่มมักให้ส่วนร่วมกับคอนเทนต์ประเภท Short Video มากกว่าประเภทบทความ หรือรูปภาพ แต่ในขณะเดียวกัน

  • กลุ่มเครื่องสำอาง และสกินแคร์กลับได้รับ Engagement รวมสูงสุด 3.5 ล้านจากช่องทาง Instagram นั่นหมายความว่า ชาวลักซ์ที่ชื่นชอบในหมวดนี้ให้ความสำคัญกับ Content ในรูปแบบรูปภาพมากที่สุด

    s__31318505

อ้างอิง CMMU

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT