นับเป็นข่าวดีครั้งใหญ่ สำหรับประเทศซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง “วัฒนธรรมการทำงานหนัก” อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่มีบริษัทจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มใช้นโยบายการทำงาน “4 สัปดาห์/อาทิตย์” เพื่อสร้าง Work-Life Balance ให้กับพนักงาน สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในยุคโควิด และเพื่อดึงดูดคนเก่งให้อยู่กับบริษัทนานยิ่งขึ้น
โดยบริษัทล่าสุดที่เริ่มใช้นโยบาย 4 สัปดาห์/อาทิตย์ ก็คือบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า ”ฮิตาชิ” โดยบริษัทจะให้อิสระพนักงานในการ “โปะ” ชั่วโมงการทำงาน 1-2 ชม. เพิ่มจากชั่วโมงการทำงานในวันจันทร์ - พฤหัสบดี เพื่อใช้สิทธิ์ขอวันหยุดในวันศุกร์ของสัปดาห์นั้นๆ และยังมีออปชั่น ขยันทำงานต้นเดือน แล้วขอโควต้าวันหยุดในช่วงปลายเดือนอีกด้วย
ฮิเดโนบุ นากาฮาตะ รองประธานอาวุโสและผู้บริหารของฮิตาชิ มีมุมมองต่อเรื่องการเพิ่มอิสระในการปรับเวลาการทำงานของพนักงานว่า “ถ้าเราเพิ่มความยืดหยุ่นเรื่องสถานที่และเวลาในการทำงานแล้ว เราก็จะสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานได้”
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกแห่งคือ “พานาโซนิก” ก็ได้เริ่มให้พนักงานทำงาน 4 วัน/สัปดาห์แล้ว โดยซีอีโอของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งนี้มองว่า พนักงานจะได้นำวันหยุดนี้ ไปทำงานเสริม หรือทำงานอาสา เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนของพวกเขา นอกจากนี้ หากคู่รักของพวกเขาถูกย้ายที่อยู่ไปที่อื่น พนักงานก็สามารถขอ Work from home ได้ด้วย
สถิติจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่นเผยว่า มีบริษัทเพียงประมาณ 8% ของบริษัททั้งหมดในญี่ปุ่นเท่านั้น ที่อนุญาตให้พนักงานทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ แม้จะมีหลายบริษัทกำลังค่อยๆ เริ่มนำนโยบายนี้ไปใช้ แต่ก็ยังถือว่ามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่างสหรัฐ ที่เราจะได้ยินว่าหลากหลายบริษัท เช่น ให้อิสระพนักงานในการเลือกเวลาทำงาน และสถานที่ทำงานของตัวเองได้
เชื่อว่าหากประเทศที่ทั่วโลกพร้อมใจกันมอบฉายา “ประเทศบ้างาน” อย่างญี่ปุ่น เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการทำงาน และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับพนักงานออฟฟิศเป็นผลสำเร็จแล้ว ประเทศอื่นก็คงจะพร้อมใจกันทำตามเป็นแน่