แรกเริ่มเดิมที ‘Facebook’ เคยเป็นพื้นที่ให้เพื่อน ครอบครัว และคนใกล้ชิด ได้แลกเปลี่ยนรูปภาพ เรื่องราวในแต่ละวัน ในวงสังคมของตน (เป็นแพลตฟอร์ม ‘โซเชียลมีเดีย’ นั่นเอง) ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นแหล่งที่ให้สารพัดแบรนด์แห่มาโฆษณา แถมกระแสที่มาแรงสุดๆ ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นน้องใหม่อย่าง ‘TikTok’ ทำให้ Facebook คลอดฟีเจอร์ใหม่อย่าง ‘Reels’ และผลักดันเต็มที่ จนทำให้หลายคนมองว่า Facebook กำลังสูญเสียตัวตนเดิมไปทีละน้อย
ล่าสุด Facebook เผยความพยายามที่จะแก้เกม ด้วยการแยกหน้าฟีดออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือหน้า ‘Home’ คือ หน้าแรกที่รวมคอนเทนต์ที่ Facebook ป้อนให้คุณ และหน้า ‘Feeds’ ซึ่งเป็นคอนเทนต์ของเพื่อน ครอบครัว กลุ่ม และเพจที่คุณเลือกติดตามเอง มีรายละเอียดดังนี้
หน้า Home ‘หน้าฟีดสำหรับครีเอเตอร์’ : จากความสำเร็จของอัลกอริธึ่มของ TikTok ที่นำเสนอคอนเทนต์หลากหลาย แหวกแนว แต่ก็ตรงใจให้กับผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งาน ‘ติดหนึบ’ กับแพลตฟอร์ม รอชมว่าวันนี้จะมีคอนเทนต์อะไรมาเสิร์ฟให้บ้าง Facebook ได้นำแนวคิดนั้นมาใช้ ปรับโฉมหน้าแรกใหม่ นำเสนอสารพัดคอนเทนต์ที่คุณน่าจะสนใจ ซึ่งคัดสรรให้แล้วโดยระบบ AI ของ Facebook
รวมถึงดันวิดีโอคลิปสั้น ‘Reels’ และ ‘Story’ ในหน้านี้ ให้คุณสามารถทั้งเป็นผู้ชม และเป็นผู้สร้างคลิปสั้นได้จากหน้า Home นี้
หน้า Feeds ‘หน้าฟีดสำหรับคนใกล้ชิด’ : ในหน้าใหม่นี้ Facebook หวนคืนสู่จุดเด่น ‘การเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเพื่อนและครอบครัว’ อีกครั้ง โดยการรวมความเคลื่อนไหวของเพื่อน ครอบครัว กลุ่มที่เข้าร่วม และเพจที่ติดตามไว้ในหน้า Feeds นี้ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างลิสต์ของเพื่อนและเพจที่เราติดตามเป็นประจำ (ติดดาว) เพื่อให้เราเห็นความเคลื่อนไหวของพวกเขาก่อนเพื่อนและเพจอื่นๆ ได้ด้วย
ซึ่งหน้า Feeds นี้จะกลับไปเป็น ‘วงสังคมของเรา’ เหมือนก่อนมากขึ้น เพราะ Facebook บอกว่า จะไม่มี รูปหรือคลิปที่ ‘แนะนำสำหรับคุณ’ มาขึ้นให้กวนใจ แต่จะยังคงมีโฆษณาอยู่ ในหน้า Feeds นี้
โดยหน้า Feeds ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้ จะเริ่มปรากฎขึ้นเป็นแท็บให้ผู้ใช้งานบางรายได้ทดลองใช้แล้วตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และคาดว่าในสัปดาห์ จะสามารถกระจายให้ผู้ใช้งานทั่วโลก สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่นี้ได้
ก่อนหน้านี้ Facebook ถูกครหาโดยกลุ่มผู้ใช้งานรวมถึงธุรกิจ ว่าจงใจ ‘ปิดกั้นการมองเห็น’ ความเคลื่อนไหวจากวงสังคมใกล้ตัวทั้งเพื่อน ครอบครัว รวมไปถึงปิดกั้นคอนเทนต์จากเพจต่างๆ ดันให้ธุรกิจต้องอัดเงินโฆษณาในการโปรโมต ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะออกมาแก้ปัญหาการปิดกั้นคอนเทนต์จากคนใกล้ชิด แต่คงไม่ได้แก้ปัญหาที่สอง ซึ่งเป็นแหล่งรายได้มหาศาลของ Facebook
แม้จะแผนการณ์มุ่งเข้าสู่ ‘โลกเสมือน Metaverse’ ของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Facebook จะเรียกสร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งต่อแวดวงธุรกิจ และวงการไอทีในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ แต่กระแสดังกล่าวก็ถูกกลบอย่างรวดเร็วด้วยภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก ซึ่งกระทบอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างหนัก ลามไปสู่การลดแรงงาน และชะลอการจ้างงานครั้งใหญ่ของวงการบิ๊กเทค ซึ่ง Meta บริษัทแม่ของ Facebook เองก็เพิ่งประกาศลดการจ้างงานลง เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
สาเหตุหลักมาจากผลประกอบการที่ปรับตัวลดลงของบริษัท จำนวนผู้ใช้งานใหม่ที่ลดลง ‘ครั้งแรก’ ในประวัติศาสตร์ 18 ปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทของ Facebook รวมไปถึงการแข่งขันในวงการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ร้อนแรง จากม้ามืด ‘TikTok’ ที่มีจำนวนยอดผู้ใช้งานทะลุพันล้านคนทั่วโลก ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
แถมแผนเมกะโปรเจกต์ในการสร้างโลกเสมือนของมาร์ค ที่เจ้าตัวมองว่าจะเป็น ‘Game Changer’ ของวงการโซเชียลมีเดียอีกครั้ง ต้องใช้เงินนับหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งในระยะเวลาอันสั้นนี้ ประสบกับแรงต้านจากรอบด้านเยอะเหลือเกิน