ในระหว่างที่ยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีกำลังซุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ Generative AI ของตัวเองเพื่อไม่ให้เสียแต้มต่อให้แก่คู่แข่ง 'Instagram' ลูกรักคนรองของ Meta ก็ได้เตรียมออกแอปโซเชีลมีเดียตัวใหม่ ออกมาชน 'Twitter' แบบเต็มๆ อาศัยช่วงโกลาหล หลังการเข้ากุมบังเหียนของ Elon Musk ทำทั้งผู้ใช้ และฝั่งพนักงานหัวหมุนกันไปหมด
Bloomberg เผยว่า Instagram ได้ซุ่มพัฒนาแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียรูปแบบใหม่ โดยรได้ร่วมหารือเรื่องการพัฒนาแอปกับเหล่าเซเลบ และอินฟลูเอนเซอร์ที่บริษัทคัดเลือก แต่ก็ยังไม่มีใครได้ใช้แอปใหม่นี้แบบเต็มรูปแบบ และเราอาจได้สัมผัสแอปพลิเคชั่นใหม่นี้อย่างเร็วที่สุด ในเดือนมิถุนายนนี้
อย่างไรก็ดี โลกโซเชียลก็เริ่มได้เห็นหน้าตาของว่าที่คู่แข่งของ Twitter นี้กันบ้างแล้ว จากภาพที่เผยแพร่บน Twitter ของ Lia Haberman อาจารย์ด้านการตลาดผ่านการใช้โซเชียลและอินฟลูเอนเซอร์จาก UCLA โดยยังกล่าวเสริมว่า Meta ขึ้นชื่อเรื่องการหยิบยืมฟีเจอร์จากแอปอื่นในตลาดที่เป็นที่สนใจในหมู่ผู้ใช้ แล้วเอามาใส่ในแอปของตน (เช่น ฟีเจอร์ Story และฟิลเตอร์ ที่หยิบมาจาก SnapChat) เป็นต้น
Based on a (somewhat blurry) example I got, Meta's new app looks a lot like Twitter.
— Lia Haberman (@liahaberman) May 19, 2023
So, could this take over all the Twitter screenshots we've been seeing on the Feed lately? Maybe.
It’s impossible to predict how audiences will respond but this could be an alternative. pic.twitter.com/xgQa1kUjCl
โดยทางฝั่ง Twitter เองนั้นก็มีแผนที่จะพัฒนาแอปสู่การเป็น 'Everything App' (แอปพลิเคชั่นอรรถประโยชน์ ที่ทำได้มากกว่าการโพสต์สื่อสารกับวงสังคม) Lia มองว่า ประสบการณ์การหยิบยืมของ Meta จะทำให้ได้เปรียบและเข้าวินได้เร็วกว่า Twitter
ซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ที่เพิ่งรับไม้ต่อจาก Elon Musk หมาดๆ อย่าง Linda Yaccarino ได้ทวีตข้อความสั้นๆ ถึงข่าวการมาของแอปใหม่นี้ว่า "มาเริ่มกันเลย"
Game on! https://t.co/62JYrLuuCJ
— Linda Yaccarino (@lindayacc) May 21, 2023
หลายเดือนที่ผ่านมานี้ ฝั่งของ Facebook เอง ก็ได้ปลุกกระแส 'การโพสต์ข้อความสั้น' โดยจะดัน 'ความสั้น' ให้เข้าถึงผู้ใช้งานมากกว่า จากเดิมที่ลำดับการดันของแพลตฟอร์มจะเป็น วิดีโอ ภาพ และข้อความเปล่าๆ จนทำให้สื่อและอินฟลูเอนเซอร์หลายเจ้า หันมาเพิ่มความถี่ให้โพสต์ในรูปแบบข้อความสั้นมากขึ้น
เป็นไปได้ไหมว่า นี่คือการปรับพฤติกรรมใหม่ให้ผู้ใช้ 'คุ้นชิน' กับรูปแบบข้อความสั้นให้มากขึ้น ก่อนที่จะผลักดันเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่ในเครือ ที่กำลังจะออกมาให้เราได้ยลโฉม?
ที่มา : Bloomberg