Meta เตรียมขึ้นศาลอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ Instagram ถูกแยกกิจการ
นับตั้งแต่ปี 2020 Meta บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลกอย่าง Facebook, Instagram และ WhatsApp ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องจากคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ หรือ Federal Trade Commission (FTC) ในข้อกล่าวหาว่าการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp เข้าข่ายผูกขาดตลาดโซเชียลมีเดีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แม้ว่าคำฟ้องร้องดังกล่าวจะถูกศาลยกฟ้องไปในปี 2021 เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ FTC ได้ยื่นฟ้องร้องอีกครั้งในคำกล่าวหาเดิมด้วยคำร้องที่หนักแน่นมากขึ้น ว่า Meta ได้ทุ่มเงินเกินจริงเพื่อซื้อกิจการ Instagram ในปี 2012 และ WhatsApp ในปี 2014 โดยมีเป้าหมายในการกำจัดคู่แข่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งนี้ ศาลได้รับคำร้องดังกล่าวไว้ แต่ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่า Facebook พยายามเพิ่มอำนาจผูกขาด โดยจำกัดการเข้าถึงของนักพัฒนาแอปบุคคลที่สาม เว้นแต่ว่าพวกเขายินยอมที่จะไม่แข่งขันกับบริการหลักของบริษัท
ทางด้าน Meta ได้ปฏิเสธทุกคำกล่าวหา และได้ยื่นคำชี้แจงก่อนการพิจารณาคดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทนายของ Meta พยายามชี้ให้เห็นว่าบริษัทยังมีคู่แข่งอีกหลายรายในอุตสาหกรรม อาทิ TikTok, YouTube, X (ชื่อเดิมคือ Twitter) และ iMessage ของ Apple ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp ไม่ใช่ความพยายามใด ๆ ในการทำลายคู่แข่งในตลาดโซเชียลมีเดีย
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องร้องจาก FTC เนื่องจากมองว่ามีน้ำหนักที่เพียงพอ ทำให้ Meta จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีเพื่อแก้ต่างการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp ในวันที่ 14 เมษายน 2025 (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งการพิจารณาคดีในครั้งนี้คาดว่าจะมีการใช้หลายสัปดาห์ โดยสื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่า Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta, Sheryl Sandberg อดีตซีโอโอของ Meta, Kevin Systrom ผู้ก่อตั้งร่วมของ Instagram รวมถึงผู้บริหารระดับสูงและอดีตผู้บริหารหลายรายของ Meta จะถูกเรียกมาให้การในฐานะพยาน ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทคู่แข่งอย่าง TikTok, Snap และ YouTube บริษัทลูกของ Alphabet ก็จะเข้าร่วมการให้การในครั้งนี้ด้วย
ความช่วยเหลือจากประธานาธิบดี
เดิมพันในการสู้คดีครั้งนี้ของ Meta นับว่าสูงมาก และเป็นเรื่องที่ Mark Zuckerberg ไม่อาจพ่ายแพ้ได้ เพราะความปราชัยในครั้งนี้จะนำไปสู่การถูกแยกกิจการจาก Instagram และ WhatsApp เพื่อลดการผูกขาดตลาดโซเชียลมีเดีย โดยจุดหนึ่งที่น่าสนใจในการพิจารณาคดีครั้งนี้อยู่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ
หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Donald Trump ได้แต่งตั้งให้ Andrew Ferguson นั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ แทน Lina Khan ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดกับภาคธุรกิจในข้อหาต่อต้านการผูกขาด โดยเธอยื่นฟ้อง Amazon ในข้อหาดังกล่าวในปี 2023 รวมถึงยื่นคำร้องเพื่อปิดกั้นการซื้อกิจการ อาทิ Meta ที่ต้องการซื้อ Within บริษัทด้านความจริงเสมือน, Nvidia ที่ต้องการซื้อ Arm บริษัทออกแบบชิป และ Microsoft ที่ต้องการซื้อ Activision Blizzard บริษัทเกมระดับโลก
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ มาเป็น Andrew Ferguson อาจอนุมานได้ว่าความเข้มงวดกับภาคธุรกิจในข้อหาต่อต้านการผูกขาดอาจเบาบางลง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Mark Zuckerberg พยายามอย่างมากในการเอาใจ Donald Trump โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า Mark Zuckerberg ได้เข้าพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 ครั้ง ซึ่งความสัมพันธ์อันดีนี้สะท้อนผ่านภาพการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump และการเป็นเจ้าภาพงานเต้นรำของประธานาธิบดีในวอชิงตัน
จากการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Andrew Ferguson ไม่ได้ระบุว่า FTC มีแผนที่จะยกเลิกคดีดังกล่าว ขณะที่การให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม เขากล่าวว่างานของเขาคือการทำให้แน่ใจว่าทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งใครที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าวย่อมหมายความว่าพวกเราจะต้องไปเจอกันที่ศาล
ทางด้าน George Hay ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายต่อต้านการผูกขาดจากโรงเรียนกฎหมาย Cornell ให้ความเห็นว่าท่าทีของ Andrew Ferguson คือการทำให้เกิดความมั่นใจว่า FTC มีความเป็นอิสระ และการพิจารณาคดีต่าง ๆ อยู่นอกเหนือขั้วอำนาจทางการเมือง อย่างไรก็ตาม คดีต่าง ๆ ที่ FTC ยื่นฟ้องร้องนั้นเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลของ Joe Biden ในช่วงเวลานี้จึงยากที่จะคาดการณ์ความเป็นไปในอนาคต
อ้างอิง: CNBC
