Subaru ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่น อวดรายได้ Q1 ปีงบประมาณ 2024 โต 29.7% จากยอดขายที่เติบโต 20.3% เตรียมลงทุน 1.5 ล้านล้านเยน ดันรถยนต์ EV 8 รุ่นบุกตลาดภายในปี 2028
Subaru รายได้ Q1 โตเกือบ 30% จากยอดขายรถพุ่ง 20.3%
Subaru Corporation เผยงบประมาณไตรมาสแรกของปี 2024 (เดือนเม.ย. - มิ.ย. 2023) มีตัวเลขที่น่าสนใจดังนี้
-กำลังการผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น 18.3% สู่ระดับ 243,000 คัน (แบ่งการผลิตในญี่ปุ่น 159,000 คันในญี่ปุ่นเติบโต 17.9% และการผลิตในสหรัฐอเมริกา 84,000 คัน เติบโต 19.1%)
-ยอดขายทั่วโลกเติบโต 20.3% สู่ระดับ 236,000 คัน นำโดยตลาดหลักอย่างสหรัฐ
-รายได้โต 29.7% สู่ 1.082 ล้านล้านเยน (ราว 2.6 แสนล้านบาท)
-กำไรโต 169.2% สู่ 7.32 หมื่นล้านเยน (1.79 หมื่นล้านบาท)
ซึ่งจากตัวเลขยอดขายที่ผ่านมานี้ สัดส่วนรถ EV จากยอดขายทั้งหมดคิดเป็นเพียง 1% เท่านั้น เพราะ Subaru เพิ่งออกรถ EV รุ่นแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา คือ ‘Subaru Solterra’ รถยนต์ EV รุ่นแรกที่ Subaru ผลิตร่วมกันกับ Toyota (ซึ่งถือหุ้น 20% ใน Subaru) บนแพลตฟอร์ม e-TNGA แบบเดียวกันกับ bZ4X รถ EV รุ่นแรกของ Toyota
Subaru บุกตลาด EV แบบจัดหนัก เตรียมออกอีวี 8 รุ่นในปี 2028
Subaru ประกาศทุ่มเงิน 1.5 ล้านล้านเยน (3.7 แสนล้านบาท) เตรียมออกรถ EV 8 รุ่นภายในปี 2028 ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 600,000 คัน คิดเป็น 50% ของยอดขายรถยนต์ Subaru ทั้งหมดในปี 2023 โดยจะแบ่งเป็น 2 เฟสด้วยกัน คือ เตรียมปล่อยรถ EV 4 รุ่นแรก (รวม Solterra รถ EV รุ่นแรกของ Subaru ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว) ภายในปี 2026 และ อีก 4 รุ่นถัดมาจะเปิดตัวภายในปี 2028
แผนการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าของ Subaru ต่างจากแผนเดิมเป็นอย่างมาก จากเดิมที่สัดส่วนยอดขายของรถ xEV (BEVs + HEVs) มีสัดส่วน 40% รถยนต์สันดาปภายใน 60% ในแผนใหม่นี้ Subaru มีแผนจะปรับสัดส่วนยอดขายจากคาดการณ์ราว 1.2 ล้านคัน ให้เป็นรถ BEVs 50% และ HEVs 50% ภายในปี 2030
นอกจากแผนดังกล่าว Sabaru ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ Panasonic เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมทรงกระบอกเจเนอเรชั่นใหม่ (ประเภทเดียวกับที่ใช้ในรถของ Tesla, BWM, Lucid, Rivian ฯลฯ) ที่ได้ร่วมกันพัฒนามาตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2020 และมีแผนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ EV ที่จังหวัดกุนมะ ประเทศญี่ปุ่น อีกด้วย
ปัจจุบันค่ายรถญี่ปุ่นกำลังเผชิญศึกหนักจากมาตรการของทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า ลด ละ เลิกการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งแม้จะเปิดค่ายใหญ่อย่าง Toyota ก็ยังเริ่มต้นได้ช้า และเริ่มถูกค่ายรถ EV จากสหรัฐอย่าง Tesla และค่ายรถยักษ์ใหญ่จากจีน BYD ไล่ต้อนมาเรื่อยๆ
ความพยายามล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า คือ การมาตรการอุดหนุนภาคการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ (8 หมื่นล้านบาท) ซึ่งคาดการณ์ว่า Toyota จะได้รับเงินสนับสนุนจากมาตรการดังกล่าวราว 847 ล้านดอลลาร์ (2.9 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ Subaru ด้วยเช่นกัน แต่ช่วงเวลาไม่กี่ปีต่อจากนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่า Subaru จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนในโลกอุตสาหกรรมใหม่ของรถ EV