ลิซ่า, เจนนี่, จีซู และโรเซ่ 4 สาว Blackpink จบทัวร์คอนเสิร์ตด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ในขณะที่แฟนๆ ฉลองความสำเร็จของทัวร์ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของวง เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสัญญาของ ลิซ่า กับ YG Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดการที่ดูแล BLACKPINK มาตั้งแต่เดบิวต์ในปี 2016
สถานการณ์พลิกผันอย่างรุนแรงเมื่อมีรายงานว่า ลิซ่า อาจไม่ต่อสัญญากับ YG Entertainment และได้ปฏิเสธข้อเสนอต่างๆ รวมถึงข้อเสนอที่มูลค่า 50,000 ล้าน KRW (37.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบเหล่าสาวก K-pop เป็นอย่างมากและทำให้ราคาหุ้นของ YG Entertainment ร่วงลงมากกว่า 13% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
บทสรุปของลิซ่าที่ยังไม่ชัดเจนนี้เอง ทำให้ YG Entertainment อยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย เพราะ ลิซ่า สาวไทยคนเดียวของวงอยู่ในฐานะแร็ปเปอร์หลักของ BLACKPINK และถือว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกไปแล้ว และต้องยอมรับว่า "ลิซ่า" มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของBLACKPINK ที่ดังไปทั่วโลก ดังนั้น YG ในยุคที่ไม่มีลิซ่า รวมถึง Blackpink อาจกำลังอยู่ในยุคมืดของบริษัท
อย่างไรก็ตามทาง YG Entertainment ได้ระบุว่า การเจรจาต่อรองกับ ลิซ่า และสมาชิกคนอื่นๆ ยังคงดำเนินต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นความไม่แน่นอนของBLACKPINKยังคงอยู่ ทำให้แฟนๆ รอคอยผลลัพธ์ด้วยความกังวล
ในวันพุธที่ผ่านมาสื่อต่างชาติ 'Star.setn' ยังรายงานว่า มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ลิซ่า อาจพิจารณาเซ็นสัญญากับค่ายเพลงจากสหรัฐแทนการต่อสัญญากับ YG โดยค่ายเพลงค่ายนี้ พร้อมทุ่มค่าเซ็นสัญญา '5 หมื่นล้านวอน' ให้กับลิซ่า พร้อมทั้งยังเตรียมเปิดทางให้กับการทำเพลง, วิดีโอ, แฟชั่น, คอนเสิร์ต และเปิดทางให้ออกอัลบัมของตัวเองอีก 6 อัลบั้มอีกด้วย
นอกเหนือจากผลกระทบโดยตรงต่อ BLACKPINK อนาคตของ YG Entertainment ก็แขวนอยู่บนเส้นด้ายเช่นกัน แม้บริษัทมีผลประกอบการในปีก่อนที่แข็งแกร่ง และราคาหุ้นพุ่งขึ้น 57.8% ในปีนี้ แต่ความคลุมเคลือล่าสุดนี้ส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุน ขณะที่บริษัทกำลังผ่านช่วงเวลาสำคัญนี้ อุตสาหกรรม K-pop ก็กำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ความสำเร็จของ BLACKPINK ได้สร้างสถิติและได้เปิดทางให้ K-pop ได้ก้าวสู่วงการดนตรีระดับโลก ทำให้เรื่องราวสัญญาของ ลิซ่า ไม่เพียงกระทบบริษัท YG อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหัวข้อที่น่าสนใจทั่วโลกและอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมทั้งหมด