คาราบาว กรุ๊ป บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังชั้นนำของไทย ลุยตลาดเบียร์ในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อท้าชนเจ้าตลาดทั้งช้างและสิงห์ ขณะที่รสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการผ่อนคลายข้อจำกัดการผลิตเบียร์ อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังรายใหญ่ของไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์ภายใต้แบรนด์ "คาราบาวเบียร์" และ "ตะวันแดงเบียร์" ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในประเทศไทย 5% ภายใน 3 ปี
จากข้อมูลที่ เสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาราบาว กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์กับ นิกเคอิ เอเชีย โดยมีรายละเอียดดังนี้
คุณเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาราบาว กรุ๊ป ระบุว่า คาราบาวมีเป้าหมายที่จะครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศ 10% ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 20% ภายใน 3-5 ปี โดยในเวลานี้ คาราบาว มีเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงเป็นผลิตภัณฑ์หลักและเป็นเครื่องดื่มชูกำลังยอดนิยคุณเสถียร มอันดับสองในประเทศไทย ส่วนเป้าหมายยอดขายเบียร์ต่อปีอยู่ที่ 40,000 ล้านบาทภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
หลังจากนี้คาราบาวจะลงทุนสูงถึง 6,000 ล้านบาทในการติดตั้งอุปกรณ์การผลิตเบียร์ที่โรงงานของกลุ่มบริษัทในจังหวัดชัยนาท โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตเบื้องต้น 200 ล้านลิตรต่อปี และจะเพิ่มเป็น 400 ล้านลิตรต่อปี ขึ้นอยู่กับผลตอบรับของตลาด
คุณเสถียร ระบุว่า ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการเข้าสู่ตลาดเบียร์อย่างเต็มรูปแบบมานานกว่า 20 ปี และไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่แต่อย่างใด เพราะบริษัทก็ได้เสิร์ฟเบียร์ ทั้งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และ มีร้านอาหารที่ให้บริการเบียร์คราฟต์ที่ผลิตขึ้นเองในร้าน และกลุ่มบริษัทยังมีธุรกิจแอลกอฮอล์ที่จำหน่ายวิสกี้และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆด้วย
สำหรับเบียร์ทั้ง 2 แบรนด์ "คาราบาวเบียร์" และ "ตะวันแดงเบียร์" ที่จะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้มีความโดดเด่นแตกต่างกัน โดยคาราบาวเบียร์ จะเป็นเบียร์ระดับแมส ตั้งราคาใกล้เคียงกับคู่แข่งรายใหญ่ ส่วน ตะวันแดงเบียร์ จะเป็นเบียร์ระดับกลาง เน้นคุณภาพและรสชาติ
"เบียร์เป็นเซกเมนต์ใหญ่ที่สุดในตลาดเครื่องดื่มของไทย ดังนั้น หากคุณต้องการเติบโต คุณก็หลีกเลี่ยงไม่ได้" คุณ เสถียร กล่าว
ราคา คาราบาว เบียร์
ราคา ตะวันแดง เบียร์
ตลาดเบียร์ไทยมีความสามารถขยายกว่า 23%
ตามประมาณการของ Statista บริษัทให้บริการข้อมูลตลาด ระบุว่า ตลาดเบียร์ไทยคาดว่าจะขยายตัวถึง 10.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027 เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2022 แม้จะมีแนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง เนื่องจากประชากรไทยที่กำลังมีอายุมากขึ้นและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ตลาดเบียร์คาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
เวลานี้ตลาดเบียร์ไทย มีเจ้าใหญ่ที่ครองตลาดอยู่ 2 รายได้แก่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ เข้าสู่ตลาดในปี 2477 ขณะที่ไทยเบฟเวอเรจ ผู้ผลิตเบียร์ช้าง เข้าสู่ตลาดในปี 2538 การแข่งขันด้านราคาจากไทยเบฟเวอเรจกระตุ้นให้บุญรอดบริวเวอรี่ตอบสนองโดยการเปิดตัวเบียร์ราคาถูกกว่าภายใต้แบรนด์ลีโอ
ความท้าทายของ Carabao Group
แม้ว่า Carabao Group จะเป็นบริษัทขนาดกลางที่มีศักยภาพในการแข่งขัน แต่การเข้าสู่ตลาดเบียร์ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่หลายประการ หนึ่งในนั้นคือข้อจำกัดด้านการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย ซึ่งทำให้ Carabao Group มีตัวเลือกในการสร้างการรับรู้แบรนด์อย่างจำกัด
ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือการเข้าไปแข่งขับช้างและสิงห์ ซึ่งเป็นสองยี่ห้อเบียร์ที่ครองตลาดเบียร์ไทยมาอย่างยาวนาน และมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม Carabao Group เชื่อว่าด้วยศักยภาพของบริษัทและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ บริษัทจะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้ และกลายเป็นผู้เล่นที่สำคัญในตลาดเบียร์ไทยในอนาคต
คุณ ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไทยเบฟเวอเรจ ยินดีต้อนรับการแข่งขันใหม่ ๆ ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค โดยการแข่งขันจะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพและราคาที่คุ้มค่า
ล่าสุดในเวลานี้ ไทยเบฟเวอเรจ เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจทั้งกลุ่มต่อเนื่อง ตาม PASSION 2025 เปิด 3 ยุทธศาสตร์หลักขับเคลื่อน พร้อมเร่งขยายฐานผลิต ฐานตลาด ต่างประเทศ ปีนี้ทุ่มงบอีก 7,000 ล้านบาท ลุยหนัก ผุดฐานผลิตใหม่ที่กัมพูชา 4,000 ล้านบาท ซุ่มความพร้อมขยายฐานในจีน เพื่อเป็นการก้าวขึ้นสู่บริษัทระดับท็อปเท็น (TOP 10 ) ของผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ในเอเชีย
ที่มา nikkei asia