ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งให้ก่อสร้างศูนย์กักกันผู้อพยพขึ้นในอ่าวกวนตานาโม ซึ่งเขาระบุว่าจะสามารถรองรับผู้อพยพผิดกฎหมายที่กระทำผิดได้มากถึง 30,000 คน โดยทรัมป์กล่าวว่า สถานที่กักกันแห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่ภายในฐานทัพเรือของสหรัฐฯ ในคิวบา แต่แยกออกจากเรือนจำทางทหารที่มีการรักษาความปลอดภัยสูง จะถูกใช้สำหรับคุมขัง “อาชญากรต่างด้าวผิดกฎหมายที่เป็นภัยต่อชาวอเมริกัน”
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า ผู้อพยพสามารถถูกส่งตัวไปที่นั้นได้โดยตรง ถ้าหากยามชายฝั่งสหรัฐฯเข้าไปตรวจพบการเดินทางเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทะเล อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การก่อสร้างศูนย์กักกันเพิ่มจะใช้งบประมาณเท่าใด และจะแล้วเสร็จเมื่อไร แต่รัฐบาลคิวบาได้ออกมาประณามแผนการดังกล่าวแล้ว โดยกล่าวหาสหรัฐฯถึงการตั้งศูนย์กักกันที่ผิดกฎหมายและทรมานผู้คนบนดินแดนของคิวบา
อ่าวกวนตานาโมถูกใช้เป็นที่พักของผู้อพยพมาโดยตลอด แต่ความเคลื่อนไหวนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน
ต่อมา ทอม โฮแมน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ให้ดูแลเรื่องพรมแดน เปิดเผยว่า สถานที่กักกันเดิมในกวนตานาโมจะถูกขยายและเข้าไปกำกับดูแลโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE)
ประกาศของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่เขาลงนามในกฎหมาย “Laken Riley Act” ซึ่งกำหนดให้ผู้อพยพผิดกฎหมายที่ไม่มีเอกสาร ซึ่งถูกจับในข้อหาขโมยหรืออาชญากรรมความรุนแรง ต้องถูกคุมขังขณะรอการพิจารณาคดี โดยชื่อของร่างกฎหมายฉบับนี้ ตั้งชื่อตามนักศึกษาพยาบาลในรัฐจอร์เจียที่ถูกสังหารเมื่อปีที่แล้วโดยผู้อพยพชาวเวเนซุเอลา และเพิ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กวนตานาโมเบย์เป็นที่ตั้งฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในคิวบา และหลายคนอาจจะรู้จักในฐานะเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำความมั่นคงสูง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2002 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เพื่อกักขังผู้ต้องสงสัยในข้อหาก่อการร้าย หลังจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 โดยตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง จนถึงเดือนมกราคม 2025 เรือนจำแห่งนี้ถูกใช้คุมขังนักโทษอย่างน้อย 780 คนจาก 48 ประเทศ
แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังมีศูนย์กักกันในกวนตานาโมอยู่แล้ว ซึ่งเรียกว่า “ศูนย์ปฏิบัติการผู้อพยพกวนตานาโม (GMOC)” สร้างขึ้นมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ผ่านการบริหารทั้งจากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต
ในรายงานปี 2024 โครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศ (IRAP) กล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กักขังผู้อพยพที่นั่นในสภาพที่ "ไร้มนุษยธรรม" โดยกักขังอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่จับกุมพวกเขาจากทะเล
สำหรับ ศูนย์ GMOC ส่วนใหญ่จะรับผู้อพยพที่ถูกจับในทะเล และเมื่อไม่นานมานี้ สหภาพเสรีภาพพลเมืองแห่งอเมริกา (ACLU) ยังขอให้เปิดเผยบันทึกเกี่ยวกับศูนย์ดังกล่าว แต่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนตอบกลับว่า ที่นั่นไม่ใช่ศูนย์กักกัน และไม่มีผู้อพยพถูกกักขัง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ระบุว่า ศูนย์กักกันที่ได้รับการขยายเพิ่มนี้ มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นศูนย์กักกันโดยเฉพาะ
รายงานระบุว่า ทรัมป์จะขอให้สภาคองเกรสจัดสรรงบประมาณในการขยายศูนย์กักกันที่มีอยู่เดิม เป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายการใช้จ่ายที่พรรครีพับลิกันกำลังเตรียมการ