นิคมอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่สร้างรายได้ให้แก่แรงงานไทย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจากการการลงทุนและสร้างเม็ดเงินมหาศาล ซึ่งหากพูดถึงผู้เล่นในตลาดนี้ หลายคนต้องนึกถึง “บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “WHA Group” อย่างแน่นอน
ยิ่งช่วงปีหลังๆ ที่กระแสรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมา ทำให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าดังหลายเจ้าต่างเข้ามาตีตลาดไทย พร้อมกับสร้างโรงงานสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยในพื้นที่อาณาจักรของ WHA ไม่ว่าจะเป็น BYD, Changan, GWM หรือแม่แต่ค่ายญี่ปุ่นอย่าง ซูซูกิ, มาสด้า และ อีซูซุ ทำให้ปัจจุบันกลุ่มยานยนต์นั้นครองสัดส่วนลูกค้าถึง 31% ของ WHA เลยทีเดียว
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนไปรู้จักบริษัท WHA Group ผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่สามารถสร้างงานได้มากกว่า 200,000 ตำแหน่ง
WHA Group ได้เริ่มก่อตั้งในปี 2546 หรือเมื่อ 21 ปีที่แล้ว นำโดย นพ.สมยศ อนันตประยูร และคุณจรีพร จารุกรสกุลโดยมีธุรกิจแรกคือโลจิสติกส์อย่างคลังสินค้า ก่อนจะขยายมาสู่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีลูกค้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก
จนกระทั่งในปี 2557 “ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเมื่อปี 2560 ได้รวมกิจการกับบริษัทเหมราช พัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) นักพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทยด้านนิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน และทางเลือกด้านที่ดิน ส่งผลให้ WHA Group เข้มแข็งยิ่งขึ้นกว่าเดิม
จากความแข็งแกร่งในการขยายพอร์ตธุรกิจไม่หยุด จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนธุรกิจชั้นนำของไทยที่สร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจประเทศไทยแล้วกว่า 2 ล้านล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 2 แสนตำแหน่ง เกิดการพัฒนาเมืองในจุดที่เข้าไปพัฒนานิคมอุตสาหกรรม พร้อมๆ ไปกับการดูแลชุมชนโดยรอบควบคู่กัน ภายใต้พันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในการสร้างคน สังคม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน
โดยทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ WHA Group บรรลุเป้าหมายที่จะก้าวเป็น “บริษัทเทคโนโลยี” อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2567
WHA มีประสบการณ์ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมายาวนาน ทำให้มีพื้นที่รวมกันกว่า 71,800 ไร่ และมีกลุ่มนักลงทุนกว่า 871 บริษัท
ในปัจจุบันนิคมฯ ในการดูแลของ WHA มีทั้งหมด 13 แห่ง แบ่งเป็น
ชื่อบริษัท : บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
: นับเป็นธุรกิจเริ่มต้นของ WHA ก่อนขยายเข้าสู่กลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยให้บริการในด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และยังเป็นรายแรกที่ทำอาคารโรงงาน และคลังสินค้าในรูปแบบ Built-to-Suit ในปี 2546 โดยในปัจจุบัน มีพื้นที่รวมกว่า 2.9 ล้านตารางเมตร บนทำเลจุดยุทธศาสตร์ 52 แห่ง ทั่วประเทศ
เช่น โครงการ Green Logistics ที่เป็นการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้กับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ได้แก่ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้พลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นศูนย์กลางในการควบคุมการดำเนินงานของยานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศในระยะยาว
ชื่อบริษัท : บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อเดิม บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน))
: โครงสร้างพื้นฐาน และบริการสาธารณูปโภคครบวงจร ได้แก่ การผลิตน้ำประปา การบำบัดน้ำเสีย การทิ้งและฝังกลบขยะ และการผลิตพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 13 แห่ง บนพื้นที่กว่า 71,300 ไร่ ทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม
ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออก เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยมาตรฐานการจัดการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate)
ชื่อบริษัท : ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)
: ผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม ด้วยกำลังการผลิตน้ำรวมถึง 150 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี และกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์รวม 870 เมกะวัตต์
โดยมีโครงการที่น่าสนใจดังนี้ :
ชื่อบริษัท : ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำกัด (มหาชน)
: ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมระดับโลก โดยพัฒนาธุรกิจและทางเลือกด้านข้อมูลที่ครอบคลุมเพื่อสนับสนุนลูกค้านิคมอุตสาหกรรมทั้งจากบริษัทในประเทศและต่างประเทศ
: ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMcC) ระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัย (CCTV) และระบบควบคุมการจราจร (VMS) และศูนย์ควบคุมระบบน้ำและระบบบําบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูล ที่จะแสดงข้อมูลในพื้นที่ปฏิบัติงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ แสดงผลการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นค่าความบริสุทธิ์ของน้ำจากระบบผลิตน้ำ กำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ของดับบลิวเอชเอ การจราจรภายในเขตนิคม ฯลฯ เพื่อให้ได้รู้ข้อมูลตลอดเวลา หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการให้มีการแสดงข้อมูลผลชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส เป็นไปตามข้อกําหนดของหน่วยงานรัฐในการเผยแพร่ผลการตรวจวัดสู่สาธารณะ
: ระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงระดิษฐ์ (Wet Land) ที่ออกแบบระบบเป็นแบบน้ำไหลใต้ผิวชั้นกรองในแนวนอน (Subsurface flow wetland) มีหลักการทำงานคือ สารแขวนลอยขนาดใหญ่ที่ปนเปื้อนมากับน้ำเสียจะถูกกรองโดยชั้นกรองหินของบึงประดิษฐ์ และสารอินทรีย์ที่ปนเปื้อนมากับน้ำเสียจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ที่เกาะติดอยู่รากพืชและชั้นกรอง ซึ่งระบบนี้จะได้รับออกซิเจนจากระบบรากพืช และการแทรกซึมของอากาศผ่านผิวน้ำหรือชั้นกรองลงมา โดยระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์นอกจากจะสามารถกำจัดสารอินทรีย์และสารแขวนลอยในน้ำเสียได้แล้ว ยังสามารถช่วยลดปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัสในน้ำเสียได้อีกด้วย