ธุรกิจการตลาด

ซัมซุงประกาศลดพนักงานทั่วโลกสูงสุด 30% รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

12 ก.ย. 67
   ซัมซุงประกาศลดพนักงานทั่วโลกสูงสุด 30% รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว บริษัทได้ประกาศแผนการปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลกสูงสุดถึง 30% ในบางหน่วยงาน เพื่อรับมือกับความต้องการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ลดลงและรักษาผลกำไร แผนการนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานหลายพันคนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก 

ซัมซุงประกาศลดพนักงานทั่วโลกสูงสุด 30% รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ผู้นำระดับโลกด้านการผลิตสมาร์ทโฟน ทีวี และชิปหน่วยความจำ กำลังดำเนินการปรับลดจำนวนพนักงานในต่างประเทศสูงสุดถึง 30% ในบางหน่วยงาน จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวสามรายที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงต่อสำนักข่าวรอยเตอร์

โดย บริษัท ซัมซุง มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเกาหลีใต้ ได้มีคำสั่งให้บริษัทสาขาทั่วโลกดำเนินการลดจำนวนพนักงานฝ่ายขายและการตลาดลงประมาณ 15% และพนักงานฝ่ายบริหารสูงสุดถึง 30% ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวสองราย

แผนการปรับลดพนักงานนี้คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานในภูมิภาคอเมริกา ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวรายหนึ่ง นอกจากนี้ บุคคลอื่นอีกหกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ยังได้ยืนยันแผนการปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลกของซัมซุง แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานจำนวนเท่าใด และประเทศและหน่วยธุรกิจใดจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

จากข้อมูลของแหล่งข่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อ เนื่องจากขอบเขตและรายละเอียดของการปรับลดตำแหน่งงานยังคงเป็นความลับ ในแถลงการณ์ ซัมซุงระบุว่า การปรับกำลังคนในบางส่วนของการดำเนินงานในต่างประเทศเป็นเรื่องปกติ และมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ บริษัทยืนยันว่าไม่มีเป้าหมายเฉพาะสำหรับแผนการดังกล่าว และเสริมว่าแผนการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพนักงานฝ่ายผลิต

ซัมซุงเริ่มลดพนักงานทั่วโลก อินเดียและจีนได้รับผลกระทบแล้ว

ณ สิ้นปี 2566 ซัมซุงมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 267,800 คน โดยมากกว่าครึ่ง หรือประมาณ 147,000 คน ปฏิบัติงานในต่างประเทศ ตามรายงานความยั่งยืนฉบับล่าสุดของบริษัท ตำแหน่งงานส่วนใหญ่อยู่ในฝ่ายผลิตและพัฒนา ในขณะที่ฝ่ายขายและการตลาดมีพนักงานประมาณ 25,100 คน และอีก 27,800 คน ปฏิบัติงานในส่วนงานอื่น ๆ

"คำสั่งปรับลดพนักงานทั่วโลก" ได้ถูกส่งไปเมื่อประมาณสามสัปดาห์ก่อน และสำนักงานซัมซุงในอินเดียได้เริ่มเสนอแพ็กเกจชดเชยให้กับพนักงานระดับกลางบางส่วนที่ลาออกไปในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากหนึ่งในแหล่งข่าวโดยตรง แหล่งข่าวคนเดิมเสริมว่า จำนวนพนักงานทั้งหมดที่อาจต้องออกจากหน่วยงานในอินเดียอาจสูงถึง 1,000 คน ทั้งนี้ ซัมซุงมีพนักงานในอินเดียประมาณ 25,000 คน สำหรับในประเทศจีน ซัมซุงได้แจ้งให้พนักงานทราบถึงการปรับลดตำแหน่งงาน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานฝ่ายขายประมาณ 30% ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ในเดือนนี้

ความท้าทายที่ซัมซุงต้องเผชิญ

การประกาศลดจำนวนพนักงานทั่วโลกของซัมซุงสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลที่บริษัทกำลังเผชิญในหลายหน่วยธุรกิจสำคัญ ธุรกิจชิปซึ่งเป็นเสาหลักของซัมซุงกำลังฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรม แต่การฟื้นตัวนี้กลับล่าช้ากว่าคู่แข่ง ทำให้กำไรของบริษัทลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปีเมื่อปีที่แล้ว

ในเดือนพฤษภาคม ซัมซุงได้เปลี่ยนตัวหัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์เพื่อพยายามแก้ไข "วิกฤตชิป" และเร่งเครื่องไล่ตาม SK Hynix ในการจัดหาชิปหน่วยความจำระดับไฮเอนด์ที่ใช้ในชิปเซ็ตปัญญาประดิษฐ์ และในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ซัมซุงต้องเผชิญการแข่งขันอย่างดุเดือดจาก Apple และ Huawei ขณะที่บริษัทยังคงตามหลัง TSMC ในธุรกิจรับจ้างผลิตชิป นอกจากนี้ ในอินเดียซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่สร้างรายได้ให้ซัมซุงปีละประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์ การประท้วงเรื่องค่าแรงกำลังส่งผลกระทบต่อการผลิต

แหล่งข่าววงใน เผยอีกว่า การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้เป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีทั่วโลกลดลง ขณะที่อีกแหล่งข่าวระบุว่า ซัมซุงกำลังพยายามรักษาผลกำไรด้วยการลดต้นทุน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าซัมซุงจะลดจำนวนพนักงานในสำนักงานใหญ่ที่เกาหลีใต้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากเป็นประเด็นละเอียดอ่อนทางการเมือง ซัมซุง กรุ๊ป ซึ่งมีบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่นี้เป็นแกนนำ เป็นนายจ้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศและมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจ

นอกจากนี้การลดจำนวนพนักงานอาจก่อให้เกิดความไม่สงบในแรงงานภายในประเทศ สหภาพแรงงานเกาหลีใต้ที่ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์เพิ่งนัดหยุดงานไปหลายวัน เพื่อเรียกร้องค่าแรงและสวัสดิการที่สูงขึ้น ด้านหุ้นของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดของเกาหลีใต้ กำลังซื้อขายกันในระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากนักวิเคราะห์บางรายได้ปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทลง โดยอ้างถึงการฟื้นตัวของอุปสงค์สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่อ่อนแอ

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ซัมซุงต้องเผชิญในช่วงเวลาที่ตลาดเทคโนโลยีโลกกำลังผันผวนอย่างหนัก บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวและหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT