สินทรัพย์ดิจิทัล

IMF กดดัน "เอลซัลวาดอร์" เลิกใช้ "บิตคอยน์" เป็นเงิน

26 ม.ค. 65
IMF กดดัน "เอลซัลวาดอร์" เลิกใช้ "บิตคอยน์" เป็นเงิน

 

IMF กดดันประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ยกเลิกการใช้บิตคอยน์เป็นเงินชำระหนี้ตามกฎหมาย ชี้ความเสี่ยงสูง

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานล่าสุดเตือนไปยังประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล่ แห่งประเทศเอลซัลวาดอร์ กดดันให้ยกเลิกการใช้ "บิตคอยน์" เป็นเงินที่ชำระหนี้ตามกฎหมาย โดยบรรดาบอร์ดบริหารของ IMF ต่างย้ำว่าการใช้บิตคอยน์เป็นเงินนั้น มีความเสี่ยงอย่างมากต่อทั้งเสถียรภาพทางการเงิน จริยธรรมทางการเงิน การปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค และภาระผูกพันที่รัฐต้องแบกรับหากเกิดความเสียหายขึ้น

 

นอกจากนี้ บอร์ดบริหารบางรายของ IMF ยังแสดงความกังวลต่อแผนการเตรียมออก "พันธบัตรบิตคอยน์" ที่ประธานาธิบดีบูเคเล เคยประกาศเมื่อไม่นานมานี้ จะระดมทุนด้วยการออกบิตคอยน์บอนด์ วงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างเมืองใหม่ในประเทศ ซึ่งเรื่องนี้เองเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายมาแล้ว เช่น มูดีส์ ซึ่งมองว่า หากต้องนำเงินมาลงทุนในพันธบัตรที่อิงกับบิตคอยน์ โดยได้ผลตอบแทน 6.5% สู้ไปลงทุนตรงในบิตคอยน์เองดีกว่า เพราะสามารถโยกเงินได้เร็ว และไม่ต้องรับความเสี่ยงเพิ่มจากการถือพันธบัตรเอลซัลวาดอร์ด้วย

 

ขณะที่บอร์ดบางคนของ IMF แสดงความกังวลเรื่องผลกระทบต่อประชาชนเอลซัลวาดอร์ทั่วไป จากการใช้กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ Chivo เพราะมีรายงานว่าเกิดการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น เพื่อนำไปเปิดวอลเล็ต Chivo ที่รัฐบาลออกแคมเปญจูงใจให้เปิดวอลเล็ตโดยแจกบิตคอยน์ฟรีมูลค่า 30 ดอลลาร์ (เกือบ 1,000 บาท)

 chivo

ดังนั้น IMF จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเอลซัลวาดอร์จำกัดขอบเขตของกฎหมายเกี่ยวกับบิตคอยน์ โดยยกเลิกการกำหนดให้บิตคอยน์เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

 

ครั้งนี้ นับเป็นการกดดันรอบใหม่ของไอเอ็มเอฟหลังจากที่เคยออกโรงเตือนมาแล้ว ขณะที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์เคยพยายามขอเงินกู้จาก IMF ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 ในวงเงิน 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.3 หมื่นล้านบาท)

 

ทั้งนี้ เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกของโลกที่ยอมรับบิตคอยน์เป็นเงินถูกกฎหมายตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว โดยอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้บิตคอยน์เป็นเงินในการทำธุรกรรมได้ทุกประเภท ควบคู่ไปกับการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ

 websl(2)

แต่สถานการณ์ในเอลซัลวาดอร์กำลัง "เปลี่ยนไปอย่างมาก" จากปีที่แล้ว เนื่องจากราคาบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ได้ร่วงลงหนักในปีนี้

 

ราคาบิตคอยน์ร่วงไปแล้วมากกว่า 50% จากราคาสูงสุดในระดับ 69,000 ดอลลาร์/BTC เมื่อเดือน พ.ย. 2021 บิตคอยน์ร่วงลงไปแตะ 33,000 ดอลลาร์/BTC เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มจะผันผวนอีกยาว เนื่องจากการปรับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะขึ้นดอกเบี้ยและดึงสภาพคล่องออกจากระบบในปีนี้ ขณะที่ IMF คาดการณ์ว่า นโยบายการเงินใหม่ของเอลซัลวาดอร์จะทำให้ "หนี้สาธารณะ" ของประเทศพุ่งไปแตะระดับ 96% ของจีดีพี ภายในปี 2026

 

อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงหนักตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ม.ค. แต่ประธานาธิบดี บูเคเล่ ได้ทวิตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 410 บิตคอยน์ โดยใช้เงินไปเพียง 15 ล้านดอลาร์สหรัฐเท่านั้น (ประมาณเกือบ 500 ล้านบาท) และมีข้อความต่อว่า บางคนขายออกมาในราคาที่ถูกจริงๆ

advertisement

SPOTLIGHT