‘Kimchi Premium’ ถูกพูดถึงอีกครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มูลค่าของ Bitcoin ทำสถิติ all-time high แตะที่ระดับ 73,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา และอยู่ในระดับช่วง 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหลังจากที่มูลค่าของ Bitcoin ทำสถิติ new high ทำให้มูลค่าของ Kimchi Premium เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
คำว่า ‘Kimchi Premium’ หมายถึง ช่องว่างหรือความแตกต่างของราคาสกุลเงินดิจิทัล (หลักๆ Bitcoin) ในตลาดเทรดคริปโตของเกาหลีใต้ และตลาดในสกุลเงินต่างประเทศอื่นๆ ซึ่ง Kimchi Premium มักทำให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากความต่างของราคาที่สูงขึ้นได้
ข้อมูลจาก Cryptoquant ผู้ให้บริการข้อมูลสกุลเงินดิจิทัลระบุว่า Korea Premium Index ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา โดยแตะระดับ 10.88% ซึ่งก็หมายความว่าราคาเทรดของ Bitcoin ในเกาหลีใต้สูงกว่าตลาดโลกราว 10%
ส่วนผลวิจัยของมหาวิทยาลัย Calgary พบว่า Bitcoin มักถูกซื้อขายในราคาที่สูงกว่าในเกาหลีใต้เมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยในช่วงเดือนมกราคม 2016 ถึง กุมภาพันธ์ 2018 ราคา Bitcoin บนกระดานเทรดของเกาหลีใต้มีราคาเฉลี่ยสูงกว่าตลาดในสหรัฐฯ ที่ 4.73% และในช่วงเดือนมกราคม 2018 กลับพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 54.48% เลยทีเดียว
แล้วทำไมถึงมีช่องว่างราคาที่แตกต่างกันขนาดนี้?
คริปโทเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายอำนาจ (decentralized digital assets) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ไม่ได้ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลาง ทำให้สามารถซื้อขายได้ในราคาที่แตกต่างกันทั่วโลก
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยของช่องว่างราคานี้คือ ความต้องการสกุลเงินดิจิทัลที่สูงในเกาหลีใต้ หรือในบางครั้งเรียกว่า ‘สภาพแวดล้อมของตลาดปิด (a closed market environment)’
เพื่อป้องกันการฟอกเงินในการซื้อขายคริปโต คณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีใต้มีนโยบายกำหนดให้ชื่อของบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศของนักลงทุน ตรงกับชื่อในบัญชีเงินฝากกับธนาคาร ซึ่งชาวเกาหลีใต้หรือชาวต่างชาติที่มีบัตรลงทะเบียนถิ่นที่อยู่เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบัญชีธนาคารเต็มรูปแบบได้ เพื่อปิดกั้นและป้องกันการลงทุนคริปโตข้ามประเทศ
ข้อมูลจาก Chainalysis รายงานว่า มูลค่าการซื้อขายคริปโตในเกาหลีใต้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2022 ถึง มิถุนายน 2023 มีมูลค่ารวมกว่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นปริมาณที่ใหญ่ที่สุดในโซนเอเชียตะวันออก แซงหน้าญี่ปุ่นและจีน
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ดูเหมือนจะเป็นตลาดที่ขับเคลื่อนโดยสถาบันน้อยที่สุดในเอเชียตะวันออกเมื่อพิจารณาจากขนาดธุรกรรมด้วย เนื่องจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติไม่สามารถมีส่วนร่วมได้อย่างอิสระ
การเก็งกำไร .... ที่ไม่ได้ง่ายเสมอ
Kimchi Premium อาจดูเหมือนเป็นโอกาสในการเก็งกำไร แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะตามทฤษฎีแล้ว นักลงทุนสามารถซื้อ Bitcoin จากการตลาดในต่างประเทศที่ราคาต่ำกว่า โอนสกุลเงินดิจิทัลไปยังตลาด Bitcoin ของเกาหลีใต้ที่มีราคาสูงกว่า และขายสินทรัพย์ทิ้งในตลาดเกาหลีใต้ เพื่อได้กำไรปราศจากความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม Baik Seunghoon ผู้จัดการบริษัทขุดคริปโต GoMining ประจำประเทศเกาหลีใต้อธิบายว่า สกุลเงินวอนของเกาหลีใต้มีการควบคุมอยู่ ทำให้กลยุทธ์การเก็งกำไรนี้ยากสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และการโอนเงินวอนนอกประเทศได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด
โดยหน่วยงานโอนเงินระหว่างประเทศขนาดเล็ก สามารถโอนเงินได้สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อธุรกรรมต่อบุคคล และสูงสุดไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับธุรกรรมทั้งหมดของบุคลลนั้นต่อปี ซึ่งหมายความว่ามีการจำกัดจำนวนสกุลเงินที่สามารถโอนถอนออกได้ เป็นการจำกัดอัตรากำไรที่เทรดเดอร์สามารถถอนออกมาได้นั่นเอง
นอกจากนี้ ตามวิจัยของมหาวิทยาลัย Calgary การเก็งกำไรยังมีความเสี่ยงอื่น เช่น การโอน Bitcoin จากตลาดสกุลเงินต่างประเทศไปยังเกาหลีใต้ต้องใช้เวลา และในช่วงเวลานั้นเอง ราคาของ Bitcoin อาจเปลี่ยนแปลงได้ สำนักข่าว CNBC เปิดเผยผลตรวจสอบว่า การโอนเงินอาจใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งวันในการโอนสกุลเงินดิจิทัลไปยังบัญชีเงินฝาก
Paul Brody ผู้นำด้านบล็อกเชนระดับโลกของ EY บอกกับ สำนักข่าว CNBC ว่า ในขณะที่ Kimchi Premium มีมาระยะหนึ่งแล้ว สิ่งที่แตกต่างในตอนนี้คือในส่วนอื่นๆ ของโลก การส่งเงินผ่านบล็อคเชนนั้นยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยกระบวนการตรวจสอบ ‘KYC’ ซึ่งจะต้องตรวจสอบตัวตนของลูกค้าโดยสถาบันการเงินเพื่อบรรเทาอาชญากรรมทางการเงิน
กล่าวโดยสรุป เวลา ค่าธรรมเนียม และการควบคุมเงินทุนอาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ทำให้การใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์นี้น่าดึงดูดน้อยลงหรือเป็นไปไม่ได้เลย
ที่มา CNBC