แม้ คริปโทเคอร์เรนซี จะได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2021 ที่ผ่านมา แต่ข้อครหาของการเป็น “เครื่องมือในการฟอกเงิน” ก็ไม่เคยหายไป ล่าสุด Chainanalysis รายงานว่า ยอดการฟอกเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มขึ้นถึง 30% หรือเกือบ 3 แสนล้านบาท ในปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainanalysis ว่า ในปี 2021 ที่ผ่านมา อาชญากรไซเบอร์ใช้คริปโทเคอร์เรนซีในการฟอกเงินแล้วกว่า 8.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.86 แสนล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2020 ถึง 30%
.
แต่ หากประเมินรวม 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2017 ที่ผ่านมา คริปโทเคอร์เรนซีอาจถูกอาชญากรไซเบอร์ใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินรวมแล้วกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) โดยการฟอกเงินส่วนใหญ่ เกิดขึ้นผ่าน “Centralized exchange” (CEX) คือ แพลตฟอร์มซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลที่มีหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล คล้ายธนาคาร
สำหรับการฟอกเงินที่เกิดขึ้นผ่าน “Decentralized exchange” (DEX) หรือ แพลตฟอร์มการซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลที่ให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนกันเองได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นไปตามความหมายของ “โลกแห่งการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง หรือ DeFi อย่างแท้จริง” คิดเป็นเพียง 17% ของมูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ซึ่ง เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 2% ที่เกิดขึ้นในปี 2020
รายงานระบุด้วยว่า ในบรรดา wallet ที่ถูกขโมยไปนั้น อาชญากรรมไซเบอร์จะ โอนเงินในกระเป๋าที่ถูกขโมยเหล่านี้ประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 750 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2.5 หมื่นล้านบาท) ไปเก็บใน DEX เพื่อปกปิดเส้นทางของเงิน
นอกจากการฟอกเงินผ่านคริปโทเคอร์เรนซีผ่านสองช่องทางดังกล่าวแล้ว การฟอกเงินผ่านโดยอาศัยช่องทางต่อไปนี้ ก็มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่
“Mining Pool” - กลุ่มของนักขุดเหรียญคริปโทที่รวมตัวกันเพื่อเพิ่มกำลังในการขุด
“High-risk Exchange” - แพลตฟอร์มซื้อขายที่มีความเสี่ยงในการสูงที่อาจจะปิดตัวลง และหอบเงินผู้ใช้งานหนีไป
“Mixers” - บริการที่ช่วยปกปิดร่องรอยการทำธุรกรรม โดยการผสมคริปโทของเจ้าของเข้ากับของผู้อื่น เพื่อให้ตรวจสอบและติดตามยากขึ้น
บริษัทยังเสริมอีกว่า ปริมาณการฟอกเงินที่พุ่งสูงขึ้นในปี 2021 ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะในปีที่ผ่านมานี้ เป็นปีที่มีความเคลื่อนไหวในโลกคริปโทเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย ทั้งที่ถูกกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมาย
ยอดปริมาณการฟอกเงิน 8.6 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้วนี้ นับเฉพาะอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโทโดยตรง อย่างเช่น การซื้อขายเถื่อนของบนเว็บมืด หรือ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (โปรแกรมประสงค์ร้ายที่จะล็อคไฟล์สำคัญของผู้ใช้ โดยจะต้องจ่าย “ค่าไถ่” ให้กับแฮกเกอร์เพื่อขอรหัสผ่าน) ที่อาชญากรไซเบอร์จะรับเงินเป็นสกุลคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นี่ยังไม่นับรวมถึง กระบวนการการฟอกเงินจากอาชญกรรมในโลกออฟไลน์ เช่น การค้ายา ซึ่งอาชญากรอาจนำเงินที่ได้มาโดยวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมาย แลกเปลี่ยนเป็นเงินในสกุลคริปโท ซึ่งติดตามได้ยากกว่า และบริษัทตระหนักดีว่ากำลังเกิดขึ้นอยู่ในโลกแห่งความจริง