Mega Trends ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก เป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นระดับโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และดูเหมือนมันจะเข้มข้นมากขึ้นจากนี้ไป เพราะภัยธรรมชาติที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อประเทศต่างๆต้องสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลเมื่อครั้งภัยพิบัติที่ควบคุมไม่ได้มาเยือน
การประชุม Conference of the Parties ครั้งที่ 26 หรือที่เรียกกันว่า COP26 เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ เมือง กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ การประชุมครั้งนี้ถือว่า มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติของประเทศสมาชิก ทั้ง200 ประเทศในการดูแลสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะแผนการที่จะช่วยกันทำให้ อุณหภูมิโลก สูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ในปี ค.ศ.2100 หรือ อีก 79 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเลขอุณหภูมิให้ลดลงจาก ข้อตกลงปารีส เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งครั้งนั้น กำหนดว่า ประเทศสมาชิกจะต้องลดอุณหภูมิโลกลง 2 องศา
ผลที่ตามมาคือ ทุกประเทศจะต้องทำแผนปฏิบัติการให้สามารถลดอุณหภูมิโลกให้ได้จริง โดยจะมีการเร่งรัด ติดตามผลการปฏิบัติทุกๆ5 ปี ซึ่งตัวการสำคัญในการลดระดับอุณหภูมิโลกคือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก๊าซเหล่านี้อยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทั้งสิ้น การขนส่ง ไฟฟ้า อาหาร เกษตรกรรม และอื่นๆอีกมากมาย
บรรดาชาติมหาอำนาจ ต่างออกมาประกาศลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็น 0 หรือ Net Zero รวมถึงประเทศไทยด้วย ที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ใช้เวทีประชุม Cop26 ประกาศว่า ไทย จะNet-Zero ในปี 2065 ความสำคัญของการประกาศ Net-Zero ก็คือ ภาคธุรกิจต่างๆ จากต้องปฏิบัติไปตามแนวทางที่ประเทศกำหนดไว้ด้วย
นึกภาพไปอีก 44 ปีข้างหน้า หากประเทศไทยไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเลย รถี่คุณใช้จะต้องไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล เครื่องบินจะใช้พลังงานสะอาดเช่นกัน ไฟฟ้าจะถูกผลิตจากพลังงานทดแทน ภาคการเกษตรจะต้องถูกปรับใหม่ทั้งหมด เพื่อไม่ปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก
มันคือ การเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารของธุรกิจทั่วโลก หากไม่ทำ!!การค้าขายระหว่างประเทศ ก็จะมีต้นทุน ด้านภาษีที่สูงกว่า หรือจะถูกกีดกันทางการค้าในที่สุด ทีมงาน Spotlight รวบรวมการประกาศ Net Zero ของประเทศต่างๆ มาฝากกัน