กรมบัญชีกลาง เคาะแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ-บุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด กรณีต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation) รับค่ารักษาแบบเหมาจ่ายได้สูงสุด 1,000 บาท
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับแนวทางการให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กลุ่มอาการเล็กน้อย (สีเขียว) และไม่มีภาวะเสี่ยง โดยให้บริการในลักษณะผู้ป่วยนอกและให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation)
ดังนั้น เพื่อให้หลักเกณฑ์และแนวทางการเบิกค่ารักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว สอดคล้องตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด กรมบัญชีกลางจึงกำหนดให้สถานพยาบาลของทางราชการนำหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจ่าย กรณีการรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและการแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation) ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำหนด
ทั้งนี้ เพื่อมาใช้กับการเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว ให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยมีอัตราการจ่ายค่าใช้จ่ายในลักษณะเหมาจ่าย ดังนี้
1.ค่าบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีภาวะเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแบบบริการผู้ป่วยนอก จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 1,000 บาทต่อราย โดยครอบคลุมรายการ ได้แก่
ค่าบริการให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวในการแยกกักตัวที่บ้าน
การให้ยาที่เป็นการรักษาโรคโควิด-19 ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร หรือ Favipiravir (เบิกจากกระทรวงสาธารณสุข) ตามแนวทางกรมการแพทย์ และหรือยารักษาตามอาการรวมค่าจัดส่ง
การประสานติดตามอาการเมื่อให้การดูแลครบ 48 ชั่วโมง
และการจัดระบบส่งต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องส่งต่อ
2.ค่าบริการสำหรับการให้คำปรึกษาหรือการดูแลรักษาเบื้องต้นเมื่อได้รับคำปรึกษาจากผู้ป่วยโควิด-19 หลังให้การดูแลครบ 48 ชั่วโมงไปแล้ว เมื่อผู้ป่วยมีอาการเปลี่ยนแปลง หรือให้ปรึกษาอื่น ๆ จ่ายแบบเหมาจ่ายในอัตรา 300 บาทต่อราย
“การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยให้บริการในลักษณะผู้ป่วยนอกและให้ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Self Isolation) ให้สถานพยาบาลของทางราชการเบิกค่ารักษาพยาบาลในระบบเบิกจ่ายตรงเท่านั้น ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง” นางสาวกุลยา กล่าว