สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐฯ มอบงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 37.9 หมื่นล้านบาท) สำหรับแผนการฟื้นฟู (Recover Initiative) โดยเลือก Paxlovid ยาต้านไวรัสจากไฟเซอร์ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการลองโควิด ซึ่งประกอบด้วยอาการซับซ้อนทางการแพทย์ที่มีมากกว่า 200 อาการ ตั้งแต่อ่อนล้า เกิดความบกพร่องทางร่างกาย มีอาการปวด มีไข้และใจสั่น ที่อาจคงอยู่นานหลักหลายเดือนหรือหลายปี นับจากหายจากอาการโควิด
จากรายละเอียดการศึกษาที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ Clinicaltrials.gov เผยว่า การศึกษาจะกระทำในอาสาสมัครอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,700 คน โดยเป็นการเปรียบเทียบแบบสุ่ม ระหว่างยา Paxolovid และยาหลอก ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันวิจัยทางคลินิก Duke รัฐนอร์ธ แคโรไลนา มีกำหนดเริ่มต้นการศึกษา 1 มกราคมที่จะถึงนี้ โดยการศึกษาครั้งสำคัญนี้จะทดสอบสมมติฐานที่ว่า สาเหตุหลักของอาการลองโควิด เกิดมาจากชิ้นส่วนของไวรัสที่ตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อของผู้ป่วย หลังอาการโควิดหายไปแล้ว ทำให้เกิดอาการป่วยต่างๆ ตามมาหลังหายจากโรค
ข้อมูลจากโรงพยาบาลรามคำแหงเผยว่า อาการที่พบบ่อยหลังการติดเชื้อโควิด-19 มีดังนี้
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ผู้ป่วยหลายรายอาการดีขึ้นหลังได้รับยา Paxlovid จากไฟเซอร์ แต่ก็มีแพทย์หลายรายที่เรียกร้องให้มีการศึกษาผลของยาในการรักษาอาการลองโควิดอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน ยา Paxlovid ได้รับการรับรองจากอย. สหรัฐ สำหรับการกินเพื่อป้องกันอาการป่วยรุนแรงสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ตัวยา Paxlovid ในแต่ละโดส ประกอบด้วย Ritonavir 100 mg 1 เม็ด และยา Nirmatrelvir 150 mg 2 เม็ด รวม 3 เม็ด
รอยเตอร์รายงานว่า โอกาสพบอาการลองโควิดนั้นมีตั้งแต่ 5 - 50% ในผู้ป่วยที่เคยเป็นโควิด-19 รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นเด็ก โดยในผู้ป่วยบางราย อาการอาจรุนแรงจนทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานตามปกติได้
ที่มา : รอยเตอร์
Long Covid