ความร้อนแรงอีกหนึ่งเหตุการณ์ คือ ค่าเงินบาท ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2023 จนหลายฝ่ายเริ่มมีความกังวลใจ โดยเฉพาะผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้า ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากมีรายได้และรายจ่ายเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ออกรายงาน เกี่ยวกับการปรับตัวแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน “ 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทปรับแข็งค่าในช่วงนี้” โดยระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 5% เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ โดยค่าเงินบาท ณ 14 มกราคม 2566 หลุด 33 บาท/ดอลลาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยธปท.ระบุว่า ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ประกอบด้วย 3 ปัจจัยด้วยกัน คือ
ด้านศูนย์วิจัยกสิกร คาดสัปดาห์นี้ ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.70 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ดังนี้
โดยในช่วงสัปดหา์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาททำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 32.95 บาท/ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ ประกอบกับภาพรวมของสกุลเงินเอเชียขยับแข็งค่าขึ้น ตามค่าเงินหยวนและค่าเงินเยน
นอกจากนี้ เงินบาทยังเพิ่มช่วงบวกได้ต่อจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากเงินดอลลาร์เผชิญแรงขาย หลังข้อมูลตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐชะลอลงยิ่งหนุน มุมมองว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย