Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"สภาพัฒน์" เปิด GDP ไตรมาส 3/67 โต 3% ฟื้นตัวจากลงทุนภาครัฐ +26%
โดย : มนันพัทธ์ ธนนันท์พร

"สภาพัฒน์" เปิด GDP ไตรมาส 3/67 โต 3% ฟื้นตัวจากลงทุนภาครัฐ +26%

18 พ.ย. 67
17:04 น.
|
19
แชร์

เมื่อมีรัฐบาลเข้ามาเดินหาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟสแรกที่ให้กลุ่มเปราะบาง และกำลังจะมีเฟส 2 ที่จะให้ผู้สูงอายุด้วยมีข่าวว่าจะแจกเป็นเงินสด 10,000 บาท ที่จะมีการประชุมคณะกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้(19 พ.ย.) ที่มี น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรีเป็นประธาน รวมถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบรายธุรกิจ มาตรการแก้หนี้ภาคประชาชน และมาตรการที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ใหักับประชาชนในช่วงปลายนี้นั้น 

บทความนี้ SPOT จะพาคุณไปเจาะลึกตัวเลขเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 3/2567 ว่าเป็นอย่างไร? ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาจากไหน? และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเป็นอย่างไร? และอะไรที่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต และเราควรต้องปรับตัวกันอย่างไร?

"สภาพัฒน์" เปิด GDP ไตรมาส 3/67 โต 3% ฟื้นตัวจากลงทุนภาครัฐ +26%

ล่าสุด สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ได้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2567 โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เป็นผู้แถลงข่าว เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% โดยรวมเศรษฐกิจไทยใน 9 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวได้ 2.3% ซึ่งคาดว่าทั้งปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ระดับ 2.6%

[จีดีพีไทย ไตรมาส 3/67 ฟื้นจากลงทุนภาครัฐ-ท่องเที่ยว-ส่งออก]

โดยในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา GDP ไทย เติบโตได้ที่ระดับ 3.0% และเร่งเครื่องจากในไตรมาส 2/2567 ที่ขยายตัวได้ 2.2% นั้น ปัจจัยหลัก มาจากแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการลงทุนภาครัฐ +25.9% ถือเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ทำให้การลงทุนโดยรวม +5.2% จากที่ติดลบติดต่อกันมา 2 ไตรมาสติด การฟื้นตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

ขณะที่การอุปโภคภาครัฐบาล + 6.3% ภาคการผลิตนอกภาคเกษตรเร่งตัวขึ้น ตามการขยายตัวของกลุ่มบริการ โดยเฉพาะสาขาก่อสร้างที่เร่งตัวขึ้น และสาขาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ทั้งมูลค่า + 8.9% และปริมาณ + 7.5% 

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่เป็นการขยายตัวที่ลดลง คือ การบริโภคภาคเอกชน + 3.4% ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 โดยในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ +6.9% ไตรมาส 2/67 +4.9% ส่วนการลงทุนภาคเอกชน ติดลบติดกัน 2 ไตรมาส ซึ่งในไตรมาสที่ 3/67 เป็นการติดลบที่ลดลงเหลือ -2.5% จากไตรมาสที่ 2/67 -6.8% ซึ่งสภาพัฒน์ คาดว่า ทั้งปี 2567 การลงทุนภาคเอกชน อยู่ที่ -0.5%   

[เศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัวได้ 2.6% ดีขึ้นจากปีก่อน]

ดังนั้น ในปี 2567 เศรษฐกิจไทย คาดว่าจะเติบโตได้ 2.6% ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ 1.9% เงินดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุลที่ 2.5% ของ GDP และอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 0.5% 

[ศูนย์วิจัยกสิกรคาดไตรมาส 4/67 GDP ไทยเร่งตัวขึ้น]

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น  ทำให้คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 เติบโตได้ 2.6% มาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ ท่ามกลางแรงหนุนสําคัญจากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ประกอบกับการส่งออกไปสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ก่อนการประกาศปรับขึ้นภาษีศุลกากรขาเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ แม้มีแนวโน้มจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ 
  • การลงทุนและการบริโภคภาครัฐในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะขยายตัวได้ดี โดยส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานที่อยู่ในระดับต่ำจากผลของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า ขณะที่งบประมาณปี 2568 เริ่มมีการเบิกจ่ายไปแล้วตั้งแต่เดือนต.ค. 2567 และมีแนวโน้มเป็นไปตามแผน
  • การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ที่คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการบริโภคได้ในระดับหนึ่ง แม้ผลกระตุ้นอาจต่ำกว่าที่ภาครัฐประมาณการไว้ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากอุทกภัย 

[ปี 2568 สภาพัฒน์ คาด GDP โต 2.3-3.3%]

สภาพัฒน์ ได้คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตได้ที่ระดับ  2.3-3.3% จากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น +6.5% การขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว รวมถึง การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวที่ +3.0% และการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว +2.8% การส่งออกของไทย +2.6% และะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.6% ของ GDP

[จับตา 3 ความเสี่ยง]

ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 นั้น ต้องจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง ดังนี้

  1. เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปริมาณการค้าโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ความยืดเยื้อจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจัน
  2. ภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง
  3. ความผันผวนในภาคเกษตร ทั้งผลผลิตและราคาสินค้า

[ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ปีหน้าเผชิญความเสี่ยงสูงขึ้น]

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มเผชิญความเสี่ยงสูงขึ้น โดยยังคงต้องติดตามนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรขาเข้าที่อาจส่งผลให้การส่งออกไทยในระยะข้างหน้าเผชิญความท้าทายมากขึ้น 

นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยคาดว่าจะเผชิญขีดจำกัดในการขยายตัวจากทิศทางเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง 

อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐคาดว่า จะขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นและเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญในปีหน้า ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากทิศทางเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ 

[แนะภาครัฐ 5 ข้อในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาค]

สภาพัฒน์ แนะนำการบริหารนโยบายเศรษฐกจมหภาคในปี 2568 ควรให้ความสำคัญ ดังนี้

  1. การขับเคลื่อนภาคการส่งออกให้มีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับมาตรการกีดกันทางการค้า 
  2. การปกป้องภาคการผลิตจากการทุ่มตลาดและการใช้นโยบายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม
  3. การขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชน
  4. การดูแลเกษตรกรและสนับสนุนการปรับตัวในการผลิตตภาคเกษตร
  5. การให้ความช่วยเหลือ ธุรกิจ SMEs ที่ประสบปัญหาด้านการเข้าถึงสภาพคล่อง เนื่องจากคุณภาพสินเชื่อลดลงอย่างต่อเนื่อง
แชร์

"สภาพัฒน์" เปิด GDP ไตรมาส 3/67 โต 3% ฟื้นตัวจากลงทุนภาครัฐ +26%