แนวโน้มราคาทอง ย่อตัวหลังทดสอบต้าน
ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้น +29.6 ดอลลาร์ คิดเป็น +1.28%
ปิดตลาดที่ระดับ 2,327 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 2,330 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะปิดตลาดที่ 2,327 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 29.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.28% จากวันทำการก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ 40,250 - 40,350 บาท
แม้ราคาทองคำจะเผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงสั้นๆ จนหลุดระดับ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยาที่สำคัญ แต่ก็สามารถฟื้นตัวกลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปีนี้ ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แม้ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนจะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม
นักลงทุนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันนี้ (28 มิ.ย.) ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) พื้นฐานเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิถุนายนของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งสะท้อนมุมมองของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจ
แนวโน้มราคาทองร่วงต่อเนื่อง
ราคาทองปรับตัวลง (-21.2 ดอลลาร์) คิดเป็น (-0.91%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,297 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองคำร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน (-21.2 ดอลลาร์ หรือ -0.91%) ปิดตลาดที่ 2,297 ดอลลาร์ หลุดแนวรับสำคัญที่ 2,300 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและ Bond Yield สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น แม้ยอดขายบ้านใหม่เดือนพฤษภาคมจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทอง
ปัจจัยที่ต้องจับตา
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำหลุดแนวโน้มขาขึ้น (trend line) และเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Symmetrical triangle ซึ่งบ่งชี้ถึงความผันผวนและความไม่แน่นอนของทิศทางราคาในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคหลายตัวบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 2,286-2,290 ดอลลาร์
ราคาทองคำร่วงแรง ทะลุแนวรับ
ราคาทองปรับตัวลง (-38.4) ดอลลาร์ คิดเป็น (-1.62%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,321 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ราคาทองคำปิดตลาดวันศุกร์ที่ 2,321 ดอลลาร์ ปรับตัวลดลง 38.4 ดอลลาร์ หรือ 1.62% จากวันก่อนหน้า โดยมีจุดสูงสุดและต่ำสุดอยู่ที่ 2,368 และ 2,316 ดอลลาร์ตามลำดับ
สาเหตุหลัก
แนวโน้ม
แรงขายที่แข็งแกร่งทำให้ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 2,300-2,305 ดอลลาร์ในระยะสั้น
ปัจจัยที่ต้องจับตา
สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนพฤษภาคม ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ
ราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่ที่ 40,500 บาท
ราคาทองคำทะยานขึ้น ทะลุแนวต้านสำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ +31.12 ดอลลาร์สหรัฐ (+1.33%) ปิดตลาด ณ ระดับ 2,359 ดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาทองคำแท่งในประเทศสูงสุดอยู่ที่ 40,650 บาท และต่ำสุดที่ 40,550 บาท
ปัจจัยสนับสนุน
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง ส่งผลให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
กองทุน SPDR Gold Shares เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 8.34 ตัน
แนวโน้ม
ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (SMA) 20 วัน และ 50 วัน โดยคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways up
ปัจจัยที่ควรติดตาม
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิถุนายน
สหรัฐฯ จะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤษภาคม และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคม โดย Conference Board
ราคาทองคำยืนทรงตัวในกรอบแคบ: เงียบเหงาไร้ปัจจัยชี้นำจากวันหยุดตลาดสหรัฐฯ
ราคาทองคำปิดตลาดวานนี้ (19 มิถุนายน) ที่ 2,328 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย 0.9 ดอลลาร์ หรือ 0.03% โดยราคาทองคำแท่งในประเทศไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ 40,450-40,500 บาท
ตลาดซบเซาไร้ปัจจัยชี้นำ
ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ทำให้ขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆ เข้ามากระทบตลาด อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ขณะที่เงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 2% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และกองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำในระดับเดิม
แนวโน้มราคาทองคำ Sideways
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideways) ต่อไป โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 2,335-2,340 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากไม่สามารถทะลุผ่านได้ ราคาทองคำอาจจะย่อตัวลงเล็กน้อย โดยให้กรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 2,310-2,340 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องจับตา
คืนนี้สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัว ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งตลาดคาดว่าจะลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 235,000 ราย, การอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนพฤษภาคม และดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนมิถุนายน ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้น
สรุป
ราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบแคบ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆ นักลงทุนควรจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้น
ราคาทองคำปิดตลาดเมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย +13.18 ดอลลาร์สหรัฐฯ (+0.56%) มาปิดที่ระดับ 2,329 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบ 40,300 - 40,500 บาท
แม้ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในช่วงกลางวัน แต่ก็ดีดตัวขึ้นในช่วงกลางคืนหลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคม ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ Bond Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง และเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจพิจารณาลดดอกเบี้ย
เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการในวันนี้ (19 มิ.ย.) เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ (Sideways) และไม่ผันผวนมากนัก
ข้อมูลราคาทองคำ:
Gold Spot:
ราคาทองคำแท่ง:
ราคาทองคำปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 2,316 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวลดลง 16.52 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.70% เมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดวานนี้ ในขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 40,400 - 40,450 บาท
แรงกดดันจาก Bond Yield สหรัฐและปัจจัยอื่นๆ
การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในวันนี้ได้รับแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของ Bond Yield สหรัฐฯ หลังจากประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิสและประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียต่างแสดงท่าทีสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศสที่ผ่อนคลายลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ในวันนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ทั้งสองรายการ ตัวเลขเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคำ
คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ในระหว่าง 2,310-2,335 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแนวรับที่ 2,310 ดอลลาร์สหรัฐ และ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านที่ 2,335 ดอลลาร์สหรัฐ และ 2,340 ดอลลาร์สหรัฐ
แนวโน้มราคาทอง 2,310-2,345 ดอลลาร์
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +29.52 ดอลลาร์ คิดเป็น (+1.28%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,332 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
สัปดาห์ก่อนราคาทองคำปรับตัวขึ้น หลังปรับตัวลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน จากแรงหนุนเงินเฟ้อสหรัฐทั้ง CPI และ PPI ต่ำกว่าคาด เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่การประชุมเฟด เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25%-5.50% แต่ Dot Plot สะท้อนเฟดลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ได้กดดันราคาทองคำ ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 10.36 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
เมื่อวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้าน 2,340-2,345 ดอลลาร์ ทั้งนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 2,340-2,345 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ อาจมีแรงเทขายออกมา แต่คาดว่าอาจปรับตัวลงไม่มากนัก ซึ่งยังคงอยู่ในกรอบ 2,310-2,345 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทอง ปรับตัวลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ทองคำเริ่มมีแรงเทขายออกมา หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน ซึ่งเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองคำ ภายหลังเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงเกินคาด ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 1.43 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจทีต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 72.1 จาก 69.1 ในเดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
เส้น SMA20 ตัดเส้น SMA50 ลงมา จึงเกิดสัญญาณขาย (Sell Signal) ขณะที่ MACD < 0 และ MACD < Signal line ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ ทั้งนี้ หากราคาทองคำหลุดบริเวณ 2,300 ดอลลาร์ ให้ follow ขายตาม โดยมีแนวรับ 2,285-2,290 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทอง Sideways
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากแรงหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า ภายหลังที่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ต่ำกว่าตลาดคาด ดันราคาทองคำพุ่งขึ้นแรง ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายออกมา ขณะที่ Dot Plot ของเฟดสะท้อนปีนี้เฟดลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งส่งผลกดดันราคาทองคำปรับตัวลง อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้ปิดตลาดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากที่เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเมื่อเทียบรายปีจะทรงตัวจากครั้งก่อน
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 2,300-2,340 ดอลลาร์ ทั้งนี้ระยะสั้นยังคงระวังแรงเทขาย หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 2,340-2,343 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ ซึ่งสัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำรายวันยังส่งสัญญาณการปรับตัวลงได้
แนวโน้มราคาทอง Sideways
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +5.9 ดอลลาร์ คิดเป็น (+0.25%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,316 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แม้เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนรอติดตามเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐและการประชุมเฟดในคืนนี้ ที่อาจทราบทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 4.9 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% จากเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเมื่อเทียบรายปีจะทรงตัวจากครั้งก่อน
วิเคราะห์ราคาทอง
คาดราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแคบ ซึ่งนักลงทุนจับตาการประชุมเฟดที่จะทราบผลในคืนวันนี้ โดยราคาทองคำมีแนวรับ 2,300 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,325 ดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งจากเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.0 จาก 49.4 ในเดือนเม.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปิดตลาดต่ำกว่าเส้น SMA50 แต่ยังสามารถยืนเหนือ 2,300-2,310 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิครายวัน MACD
แนวต้าน 2,325-2,330
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +16.71 ดอลลาร์ คิดเป็น (+0.72%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,310 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว หลังจากปรับตัวลงแรงเมื่อวันศุกร์ ซึ่งมีแรงซื้อทองคำเข้ามา ถึงแม้ว่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรอติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ และการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ รวมถึงเฟดจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจ และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ราคาทอง
แม้ว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่ถึงครึ่งของแท่งเทียนก่อนหน้า ทั้งนี้หากราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นแต่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่า 2,325-2,330 ดอลลาร์ อาจมีแรงเทขายบริเวณดังกล่าว โดยราคาทองคำมีแนวต้าน 2,325-2,330 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทอง ขาลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำผันผวนในช่วงวันศุกร์ โดยช่วงเช้าราคาทองคำขึ้นแรง ก่อนที่เกิดแรงเทขายแรงออกมาในช่วงบ่าย หลังจากธนาคารประชาชนจีนได้ระงับการซื้อขายทองคำเข้าสู่กองทุนสำรองในเดือนพ.ค. และในช่วงกลางคืนสหรัฐได้เปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ซึ่งออกมาสูงกว่าตลาดคาดมาก และสูงกว่าตัวเลขครั้งก่อน ยิ่งสนับสนุนปัจจัยให้เฟดตรึงดอกเบี้ยนานขึ้น จึงส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่ามาก กดดันราคาทองคำลงแรงหลุดแนวรับจิตวิทยา 2,300 ดอลลาร์ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 3.46 ตันจากสัปดาห์ก่อน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) นอกจากนี้สหรัฐจะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีแดงเต็มแท่งลากยาวลงมาแรง และปิดตลาดต่ำกว่าแนวรับจิตวิทยาที่ 2,300 ดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้มีแรงขายอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวลงมาอยู่บริเวณฐานของรูปแบบ Double Top ทำให้สัญญาณทางเทคนิคกลับทิศทางเป็นขาลงอย่างชัดเจนขึ้น
แนวโน้มราคาทอง ปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำปรับตัวขึ้น +20.8 ดอลลาร์ คิดเป็น +0.88%
ปิดตลาดที่ระดับ 2,375 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐอ่อนแรงลง ขณะที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25% ซึ่งตลาดมีความหวังว่าเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยตาม ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 3.45 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 182,000 ตำแหน่ง จากเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 3.9% และค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนพ.ค.
วิเคราะห์ราคาทอง
เกิดแท่งเทียนสีเขียวเต็มแท่งติดต่อกัน 2 แท่งเทียน ซึ่งบ่งถึงแรงซื้อเข้ามามาก ขณะที่ MACD>0 และตัดเหนือเส้น Signal line ขึ้นมา และมีสัญญาณซื้อจาก Modified Stochastic ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ
แนวโน้มราคาทอง เกิดสัญญาณซื้อ
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในช่วงกลางคืน หลังจากการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ค. ของ ADP เพิ่มขึ้น 152,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หรือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตลาดคาด ถึงแม้ว่าดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. โดย ISM จะดีกว่าตลาดคาดก็ตาม ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 1.44 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1,000 รายสู่ระดับ 220,000 ราย และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป
วิเคราะห์ราคาทอง
เริ่มเกิดสัญญาณซื้อจาก Modified Stochastic ซึ่งเส้น %K ตัดเส้น %D ขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังติดแนวต้านบริเวณ 2,370-2,375 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้น SMA20 จับตาแนวต้านดังกล่าว หากผ่านขึ้นไปได้ให้ follow ซื้อตาม แต่ถ้าไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ให้ขายทำกำไร
แนวโน้มตลาดทองคำ 2,310 – 2,340 ดอลลาร์
ราคาทองคำปรับตัวลง (-24.1 ดอลลาร์) คิดเป็น (-1.02%)
ปิดตลาดที่ระดับ 2,326 ดอลลาร์
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวลง แม้ว่าจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครต่ำกว่าตลาดคาด และเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 แต่ราคาทองคำถูกแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และแรงเทขายทำกำไร ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศเดือนพ.ค. ของ ADP ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่งจากเพิ่มขึ้น 192,000 ตำแหน่ง และดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ค. โดย ISM ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.0 จาก 49.4 ในเดือนเม.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำปิดตลาดต่ำกว่าเส้น SMA50 แต่ยังสามารถยืนเหนือ 2,300-2,310 ดอลลาร์ ได้ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิครายวัน MACD
แนวโน้มราคาทอง ปรับตัวลง
Gold spot
ราคาทองคำแท่ง
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำผันผวนในวันศุกร์ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผย Core PCE สหรัฐต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง หนุนราคาทองคำดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุด 2,359 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมาแรง ทั้งนี้ตลาดปรับเปลี่ยนการคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย โดยคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเดือนก.ย.เช่นเดิม แต่จะปรับลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.โดย ISM ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 49.8 จาก 49.2 ในเดือนเม.ย.
วิเคราะห์ราคาทอง
ราคาทองคำเกิดแรงเทขายออกมาอีกครั้งในช่วงวันศุกร์ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคจาก Modified Stochastic ยังไม่เกิดเส้นตัดกันขึ้นมา และ MACD<0 ซึ่งยังส่งสัญญาณทิศทางการปรับตัวลง โดยมีแนวต้าน 2,340 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,300-2,310 ดอลลาร์