อีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยคือการสนับสนุนให้ผู้ผลิต และ กองถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้โลเคชั่นในประเทศไทยถ่ายทำ เป็นการกระตุ้นทั้งเศรษฐกิจและเผยแพร่ภาพประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก ล่าสุด
จูราสสิค เวิลด์ ภาค 4 เตรียมยกกองถ่ายมาจังหวัดตรังและกระบี่
กองถ่ายถาพยนตร์ จูราสสิค เวิลด์ ภาค 4 โดยผู้กำกับ "แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส์" เตรียมยกกองมาถ่ายทำที่ จ.กระบี่ และ จ.ตรัง ในช่วงวันที่ 13 มิ.ย. – 16 ก.ค.2567 นอกจากนี้ยังสนใจที่จะเลือกถ่ายทำในพื้นที่กรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ เพิ่มเติมอีกด้วย
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน คาดการณ์ว่า จะส่งผลให้เงินสะพัดทั้ง จ.ตรัง และ จ.กระบี่ อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ขณะนี้กองถ่าย จูราสสิค เวิลด์ 4 ได้ยื่นเรื่องเข้ามาแล้วอยู่ระหว่างการพิจารณาขออนุญาตจากคณะกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ของกรมอุทยานฯ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วันนี้
รายละเอียดถ่ายทำ 3 พื้นที่คือ เกาะกระดาน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง น้ำตกห้วยโต้ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จ.กระบี่ และ บริเวณอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ที่เกาะตะปู เกาะสองพี่น้อง และเกาะนาคา ทางกองถ่ายจะบินโดรนถ่ายภาพวิวมุมสูงด้วย เบื้องต้นตามระเบียบจะมีเก็บค่าถ่ายทำวันละ 3,500 บาท รวมถึงได้เก็บเงินประกัน 2 ล้านบาทตามระเบียบ รวมถึงแนบท้ายสัญญา การถ่ายทำจะไม่ให้เกิดซ้ำรอยกรณีกองถ่ายเดอะบีซ อ่าวมาหยา เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีล้ำหน้ามากขึ้น รวมถึงมี CG และยังมีนโยบายของกองถ่ายอยู่แล้วว่า จะต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ และอนาคตเรื่องนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กให้ชาวต่างชาติสามารถจดจำ และมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้
ผลพวงจากการที่กรมการท่องเที่ยวโดยกองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ ออกนิทรรศการในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 77 ประเทศฝรั่งเศสช่วง14 – 25 พฤษภาคม 2567 พบว่า มีผู้ผลิต ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยจากงานนี้จำนวน 30 ราย อาทิ สาธารณรัฐฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร เครือรัฐออสเตรเลีย เป็นต้น คาดจะมีเงินลงทุนในประเทศไทย มากกว่า 3,690 ล้านบาท
นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระุบว่า ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการต่างประเทศมาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จาก 3,200 ล้านบาท ในปี 2017 เป็น 6,600 ล้านบาทในปี 2023 และคาดว่าในปี 2024 นี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพความพร้อมของสถานที่ถ่ายทำ ทีมงานสนับสนุน โครงสร้างพื้นฐาน มาตรการจูงใจจากภาครัฐ เป็นต้น
ปัจจุบันประเทศไทย มีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ผลิต ผู้สร้างภาพยนตร์ จากต่างประเทศเข้ามาใช้โลเคชั่นในประเทศเพื่อหวังเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลไทยมีมาตรการ Incentive ในรูปแบบการคืนเงินสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในประเทศไทยต่อเรื่อง
ทั้งนี้มีภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยจำนวน 70 เรื่อง นำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย มากกว่า 15,000 ล้านบาท และมีภาพยนตร์ต่างประเทศได้รับเงินคืนแล้ว จำนวน 46 เรื่อง โดยใช้งบประมาณคืนเงิน ประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่ผ่านมา กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศได้นำเงินเข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยกว่า 6,700 ล้านบาท เป็นสถิติจำนวนรายได้สูงสุดนับตั้งแต่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ตอกย้ำความสำเร็จของมาตรการ Incentive ของไทย
1.กรุงเทพมหานคร 143 เรื่อง
2.ปทุมธานี 43 เรื่อง
3.ชลบุรี 30 เรื่อง
4.ภูเก็ต 21 เรื่อง
5.นนทบุรี 21 เรื่อง
6.สมุทรปราการ 20 เรื่อง
7.นครปฐม 15 เรื่อง
8.สุราษฎร์ธานี 14 เรื่อง
9.พังงา 14 เรื่อง
10.กระบี่ 13 เรื่อง
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว