เมื่อเร็วๆนี้ BYD และ เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมหารือปัญหาการปรับราคา เพื่อหาทางออกให้เหมาะสมแก่กลุ่มลูกค้าเก่าผู้ที่เพิ่งซื้อรถไปก่อนหน้า
รมต.จิราพร สิทธุไพร ได้กล่าวว่า “การลดราคาเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่จะได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง แต่บริษัท BYD ต้องชี้แจงกับลูกค้าที่ซื้อรถก่อนการลดราคาอย่างชัดเจน ผ่านสื่อสารกับผู้บริโภค”
ล่าสุด BYD และ เรเว่ ออโตโมทีฟ พร้อมเดินหน้าสรุปมาตรการเยียวยาลูกที่ได้รับผลกระทบ พร้อมประกาศแผนเยียวยาอย่างเร็วที่สุดสิ้นเดือน ก.ค.67 นี้ และเร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุดแน่นอน
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “BYD ไม่ได้นิ่งนอนใจ และไม่มีวันลืมลูกค้าเก่าของ BYD ทุกคน แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษารูปแบบการเยียวยาให้ออกมาในรูปแบบที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับลูกค้าให้มากที่สุด”
ส่วนแผนในอนาคต เรเว่ยังได้รับปาก รถทุกรุ่นจะมีการตั้งราคาที่เหมาะสมกับตลาดสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย รวมถึงการตัดสินใจทุกครั้งจะคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลักอย่างแน่นอน
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุ ทำไม BYD ถึงลดราคา โดยมีสาระสำคัญดังนี้
นายประธานวงศ์ เปิดเผยว่า การปรับราคาที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากราคาของต้นทุนที่ปรับลดลง สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD ATTO 3 และ DOLPHIN ที่ทำตลาดในประเทศไทยมาเกือบ 2 ปี เมื่อผลิตมาถึงจำนวนหนึ่งก็สามารถลดต้นทุนในการผลิตลงไปได้ และพอทางบริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องตั้งราคาให้สูงเพื่อเอากำไร แต่เลือกจะที่ปรับลดราคาเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับราคานั้นขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจที่ควรจะเป็นและกลไกทางการตลาดในช่วงนั้น
นอกจากนี้ นายประธานวงศ์ ยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า “BYD มีโครงสร้างราคาที่ไม่เหมือนบริษัทอื่นๆ เพราะเราใช้ One Price Policy ราคาเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งก็มีข้อดีข้อเสีย โดยข้อดี คือ เป็นการให้เกียรติลูกค้า เพราะตอนที่ซื้อไปไม่มีใครได้ราคาถูก-แพงกว่ากัน แต่ในขณะเดียวกันด้วยนโยบายนี้ ต้องอาศัยการโปรโมทผ่านแคมเปญ และต้องมีการรับรู้ทั่วกัน อย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง official แต่ในความเป็นจริงแล้วค่ายอื่นๆ ก็มีการการปรับราคา หรือโปรโมชั้นเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่ประกาศกลางแจ้ง แต่จะซัพดาวน์ไปยังดีลเลอร์ ”
ส่วนในอนาคตจะยังลดราคาอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่อยากให้ผู้บริโภคมั่นใจ ว่า BYD มุ่งเน้นการทำราคาให้เหมาะสมกับต้นทุนมากที่สุดในขณะนั้น และอยากให้แบรนด์ BYD เป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 67 BYD และ เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้มีการเซ็นสัญญาความร่วมมือร่วมกัน (MOU) เสริมแกร่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ผ่านการร่วมลงทุนในธุรกิจโดย BYD จะเข้าถือหุ้นเรเว่ ออโตโมทีฟอีก 20%
โดยจะนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัทมาเพิ่มศักยภาพด้านการขาย บริการหลังการขาย และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเติมเต็มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับบีวายดีและเรเว่ ออโตโมทีฟ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืน และ ยกระดับประสบการณ์และความมั่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย บีวายดี ออโต้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีที่ BYD เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่าน เรเว่ ออโตโมทีฟ ภายใต้กลุ่มธุรกิจเรเว่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันแข็งแกร่งรวมถึงความสำเร็จของการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างรวดเร็ว เราจึงรู้สึกยินดีที่ได้สานความสัมพันธ์ระหว่างบีวายดีกับเรเว่ ออโตโมทีฟ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยตอนนี้เราพร้อมขับเคลื่อนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนและผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีวายดีที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น”
คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด "การที่ BYD เข้ามาถือหุ้น เรเว่ 20% ในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เเก่ผู้บริโภค เป็นสัญญาณให้เห็นว่า เราไม่ได้ไปๆมา เรามาเพื่ออยู่ เเละอยู่ยาวเเน่นอน เราจะไม่หยุดพัฒนา จะเป็นแบรนด์ที่คนไทย trust ได้ และอยู่คู่กับคนไทยไปอีกนาน”