คนไทยอาจเที่ยวญี่ปุ่นยากขึ้น เมื่อญี่ปุ่น เล็งใช้ระบบคัดกรองตรวจเข้าเมืองแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า JESTA หวังลดจำนวนผีน้อย หนีเข้ามาทำงานในญี่ปุ่น หลังวีซ่าหมด
สำนักข่าว Japan Today รายงานว่า นักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า อาจเดินทางมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นยากขึ้น หลังพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจากกลุ่มประเทศเหล่านี้อยู่ในญี่ปุ่นจนเกินอายุวีซ่า เพื่อทำงานอย่างผิดกฎหมาย
ปัจจุบันมีพลเมืองถึง 71 ประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเดินทางมายังญี่ปุ่น เช่น ไทย, มาเลเซีย, ฮ่องกง,สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา ฯลฯ
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงถึงความกังวลถึงจำนวนอพยพผิดกฎหมายมีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ในเดือนมกราคม 2567 มีชาวต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่นเกินวันหมดอายุของวีซ่า 49,801 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 28,000 คนมาจากประเทศที่ได้สิทธิฟรีวีซ่า
ระบบคัดกรองตรวจคนเข้าเมืองแบบใหม่ อาจมีชื่อว่า JESTA ที่เป็นระบบคล้ายคลึงกับ EDTA (Electronic System for Travel Authorisation) ที่สหรัฐอเมริกาใช้สำหรับป้องกันการก่อการร้ายมาใช้งาน
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ใช้ระบบ JESTA จำเป็นที่จะต้องแจ้งข้อมูลเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง เช่น วัตถุประสงค์ในการเดินทาง สถานที่พัก จำนวนวันเดินทาง เพื่อให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นตรวจสอบก่อน
รายละเอียดเหล่านี้จะถูกตรวจสอบกับ "บัญชีดำ" ของนักเดินทางผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม หากระบบตรวจจับขั้นต้นว่าผู้เดินทางเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะลักลอบเข้าประเทศ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นจะประสานกับประเทศต้นทาง เพื่อให้ปฏิเสธการเดินทางออกนอกประเทศของบุคคลนั้น พร้อมกับแนะนำให้ดำเนินการขอวีซ่ากับสถานทูตก่อนออกเดินทาง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการใช้งานจริงในปี 2573 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้จะแตกต่างจากระบบปัจจุบัน ที่สายการบินจะเป็นผู้รวบรวมและส่งข้อมูลของผู้เดินทางให้หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นหลังเครื่องบินเทกออฟ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการลับลอบเข้าเมือง เนื่องจากผู้เดินทางทุกรายรวมถึงผู้ที่ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศต่างเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้ว