นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เน้นย้ำการเร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ซึ่งมิจฉาชีพมักใช้เป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรม กระทรวงฯ ได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบ เฝ้าระวัง และดำเนินการปิดกั้น พร้อมยกระดับกระบวนการให้มีความรวดเร็ว รัดกุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากสถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมายของกระทรวงดีอี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2567 พบว่า มีการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URLs ผิดกฎหมายทุกประเภทแล้ว จำนวน 138,660 รายการ เพิ่มขึ้น 11 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (1 ตุลาคม 2565 – 31 สิงหาคม 2566) ที่มีจำนวน 12,611 รายการ
สำหรับโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ที่ถูกปิดกั้นในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2567) พบว่า ปัญหาที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือเนื้อหาที่บิดเบือน หลอกลวง และลามกอนาจาร ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บิดเบือน/หลอกลวง: ตรวจพบจำนวนมากถึง 47,471 รายการ เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงความพยายามของผู้ไม่หวังดีในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จเพื่อหวังผลประโยชน์โดยมิชอบ
ลามกอนาจาร: แม้จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลเกือบ 15 เท่า มีการดำเนินการปิดกั้นไปแล้ว 11,948 รายการ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อเยาวชนและสังคมโดยรวมอย่างยิ่ง
"ตัวเลขการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ/URLs ผิดกฎหมายกว่า 138,000 รายการในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงฯ ในการต่อสู้กับอาชญากรรมออนไลน์อย่างไม่ลดละ การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวและประสิทธิภาพมากขึ้น การดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความร่วมมือจากภาคประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1111 ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถปราบปรามภัยคุกคามในโลกออนไลน์ได้อย่างเข้มข้น" รมว.ดีอีกล่าว
แม้กระทรวงดีอีจะดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของประชาชน จึงขอเน้นย้ำให้ทุกท่านเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ต โปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม ข้อมูลบิดเบือน หรือกลโกงต่างๆ ที่มิจฉาชีพมักใช้ล่อลวงผ่านโซเชียลมีเดีย เพจ หรือ URLs ผิดกฎหมาย การหลงเชื่อและคลิกลิงก์เหล่านี้อาจนำไปสู่การสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล หรือแม้กระทั่งทรัพย์สินของท่านได้
นอกจากนี้ การแชร์ข้อมูลที่ผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจสร้างความเสียหายและผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างได้ หากท่านพบเห็นข่าวปลอม หรือสงสัยว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรรมออนไลน์ โปรดแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1111 ซึ่งพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงความพยายามอย่างไม่ลดละของกระทรวงดีอี ในการสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน และเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังมิจฉาชีพว่า การกระทำที่ผิดกฎหมายจะไม่ถูกปล่อยไว้เป็นแน่