ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ปรับขึ้นเงินสวัสดิการ 10% และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อให้ชาวรัสเซีย แต่ปฏิเสธว่าปัญหาเศรษฐกิจของประเทศนั้นเชื่อมโยงกับสงครามในยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.ปูตินยอมรับว่าปี 2565 จะเป็นปีที่ยากสำหรับเศรษฐกิจรัสเซีย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อรายปีใกล้แตะ 18% เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ปธน.ปูติน บอกว่า “เมื่อผมพูดว่า 'ยาก' มันไม่ได้หมายความว่า อุปสรรคทั้งหมดเหล่านี้เชื่อมโยงกับปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร"
ปธน.ปูตินบอกเพิ่มเติมว่า "เพราะในประเทศที่ไม่ได้มีปฎิบัติการใด ๆ เช่น ในต่างประเทศ ในอเมริกาเหนือ ในยุโรป อัตราเงินเฟ้อก็เทียบได้กับเรา และหากดูโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น อัตราเงินเฟ้อก็ยิ่งมากกว่าของเราด้วยซ้ำ"
ถ้อยแถลงของปธน.ปูติน ไม่ได้สนข้อเท็จจริงที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นของชาติตะวันตกส่วนหนึ่งเป็นผลโดยตรงมาจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งทำให้ราคาพลังงานและอาหารทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น
สำหรับการปรับขึ้นเงินสวัสดิของรัสเซีย จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ช่วยป้องกันให้รายได้ที่แท้จริงลดลง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจรัสเซียได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากที่รัสเซียเริ่มเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งส่งผลให้ราคาผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้น ขณะที่บริษัทต่างชาติพากันถอนตัวออกจากการทำธุรกิจในประเทศ
สถาบันวิจัยของธนาคาร VEB กล่าวว่า แม้การเพิ่มค่าใช่จ่ายทางสังคม แต่ก็ไม่ได้ป้องกันการลดลงของรายได้ ค่าจ้าง และเงินบำนาญที่แท้จริงของชาวรัสเซีย เพราะอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นมากนั่นเอง โดยแม้ว่าค่าแรงขั้นต่ำและเงินบำนาญหลังเกษียณจะเพิ่มขึ้น 10% แต่คาดว่า รายได้ที่แท้จริง(หลังหักรายจ่าย และเงินออม) ของชาวรัสเซียจะลดลง 7.5% และค่าจ้างจริงลดลงเกือบ 6% ในปีนี้ดังนั้นคาดว่าความยากจนจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.6% ในปีนี้จาก 11% ในปี 2564
ค่าแรงขั้นต่ำของรัสเซียปัจจุบันอยู่ที่ 13,890 รูเบิล (250ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือน ขณะที่เงินบำนาญเกษียณเฉลี่ย 18,521 รูเบิลต่อเดือน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและเงินบำนาญ เป็นแรงส่งให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ธนาคารกลางพยายามปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเป็น 20% ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนของรูเบิลอ่อนค่าลง ทำให้มีการลดลดอัตราสองครั้งตั้งแต่นั้นมา ช่วยให้รูเบิลฟื้นตัว
รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Anton Siluanov บอกว่า มาตรการเพิ่มสวัสดิการทำให้งบประมาณของรัฐบาลกลางมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 600 พันล้านรูเบิล (10.5 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้และประมาณ 1 ล้านล้านรูเบิลในปี 2566 ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียมีกำหนดการประชุมฉุกเฉิน และตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 11%