การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนแกะกล่องความมหัศจรรย์ของเมืองไทยในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566 วันที่ 2-6 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์สิริกิติ์ พร้อม ชูแนวคิด “นวัฒนธรรม” (Inno-Cultural for Sustainable Tourism) นำเสนอการท่องเที่ยวไทย 5 ภูมิภาค ในรูปแบบวัฒนธรรมสมัยใหม่ผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม
วันที่ 26 ก.ค. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566” ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ
ภายในงานจะมีการนำเสนออัตลักษณ์และซอฟต์พาวเวอร์ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของแต่ละภูมิภาคของไทยผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมไปถึงความหลากหลายของ Landmark จากแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters และกิจกรรมท่องเที่ยวมิติใหม่ที่ส่งเสริมแนวคิด Sustainable Tourism ผ่าน 9 โซนหลักภายในงาน คือ
เริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยว พบกับความเป็น Amazing Thailand รูปแบบใหม่ที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม ไฮไลต์คือจุดเช็กอินสุดอาร์ตจากฝีมือของ Joe Rainforest นักจัดดอกไม้ชื่อดัง ซึ่งได้ยกกองทัพดอกไม้มาออกแบบเป็นกรอบรูปประเทศไทย ถ่ายทอดอัตลักษณ์ 5 ภูมิภาค เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ได้แก่
นอกจากนี้ยังมี LED Box ที่จะพาผู้ชมเข้าไปท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพแหล่งท่องเที่ยวแบบรอบตัว อย่างเต็มอิ่ม และชวนผจญภัยสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมผ่านเกมออนไลน์ ‘Home Sweet Home’
เพิ่มสีสันของท่องเที่ยวไทยสุดเอ็กซ์สตรีมไปกับ "สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก" ชูแนวคิด “Love Ea(s)t All Around” ผ่าน 4 Story ได้แก่ ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องสบาย จิตผ่อนคลายสายมู เรียนรู้เรื่องรักษ์ ชู Soft Power ด้านอาหาร (Food) เป็นจุดเด่น ผนวกกับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ กิจกรรม Eco printing สร้างสรรค์งานศิลปะจากธรรมชาติ โดยชุมชนพนัสนิคม จ. ชลบุรี และกิจกรรมสาธิตการทำมัดย้อมสีจากเปลือกมังคุด จาก วิสาหกิจชุมชนแตนบาติก จ.ระยอง
ภายในโซน ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับไฮไลท์จุดแลนด์มาร์คถ่ายภาพ 360 องศา อาทิ เกาะขายหัวเราะ จ.ตราด สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี หนึ่งใน Unseen New Chapters ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น และโซนอาหารถิ่น ผลไม้ อาหารทะเลดังของภาคตะวันออกมาไว้ในงาน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวคลุกพริกเกลือ โรตีสายไหมทุเรียน ทอดมันกระวาน หมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู น้ำมะปี้ด ไอติมมะยงชิด และจำลองพื้นที่กิจกรรม Soft Adventure เอาใจสายลุย เที่ยวภาคตะวันออก เช่น กิจกรรมปีนผา ทดลองเล่น Surf และพัตกอล์ฟแบบสบ๊ายสบายสไตล์ ภาคตะวันออก
ก้าวสู่ดินแดนที่ราบลุ่มแม่น้ำ ซึมซับประสบการณ์การท่องเที่ยวสไตล์ “Trendy C2 ภาคกลาง” ภายใต้แนวคิด “ความสุขง่ายๆ หาได้ที่ภาคกลาง” โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก "หอมนสิการ" ธรรมะแกลลอรี จ.สระบุรี .ซึ่งชนะอันดับ 1 ของการโหวตในโครงการ Unseen New Chapters ประจำปี 2566 ให้จัดแสดงแบบ Interactive ครั้งแรกในประเทศไทย กับศิลปะร่วมสมัย ทั้งภาพ แสง เสียงบรรยาย และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์
จากนั้นเพิ่มความฮิปสเตอร์ สไตล์ Camping นำเสนอรถคาราวาน Airstream และ Camper Van และร้อยเรียงเรื่องราวกับโซนสาธิตของศิลป์แผ่นดิน นำเสนองานหัตถศิลป์ที่หาชมได้ยากโดยช่างฝีมือจากสถาบันสิริกิติ์ และการประกอบเครื่องคาวหวานจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) อาทิ สาธิตการทำขนมชุบ ขนมเกสรลำเจียก ขนมเบื้อง ตามตำหรับชาววัง
เปิดหมู่บ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย "เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ" (North Nostalgia) ผสมผสานความร่วมสมัย Northern Thailand Soft Power รณรงค์แต่งชุดพื้นเมืองภาคเหนือ มีจุดเด่นคือแลนด์มาร์กและจุดถ่ายภาพจำลอง 4 แห่ง ได้แก่ แมงสี่หูห้าตา จ.เชียงราย บ้านอาจารย์โกมล จ.แพร่ ประเพณีสลากย้อม จ.ลำพูน และบ้านเหมืองกุง จ.เชียงใหม่
นอกจากนี้ผู้ชมยังแวะเติมความสดชื่นที่ซุ้มเย็นใจ๋ได้ในร้านชา กาแฟ โกโก้ คราฟท์โซดา หรือเครื่องดื่มผลิตจากภาคเหนือ ตกแต่งสไตล์บรรยากาศ Glamping จำนวน 12 บูธ ก่อนจะเติมเสบียงแบบลำแต้แต้ที่ กาดหมั้ว จัดเต็มอาหารเหนือ อาหารฟิวชั่น มิชลินเชียงใหม่ ให้ได้ลิ้มลองกันอย่างเต็มอิ่ม ได้แก่ ร้าน Ginger Farm Kitchen, ครัวหลองข้าว, ร้านดำรงค์ By หมูทอดกาดหลวงเชียงใหม่, ก๋วยเตี๋ยวอังเล ร้านมิสเตอร์ฮังเล จ.ลำปาง และข้าวเปิ๊บบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย ขนมเทียนเสวย บ้านกนกมณี จ.อุตรดิตถ์
จากนั้นเสิร์ฟความฟินผ่อนคลายแบบชิวๆ ที่กาดนวด ด้วยกิจกรรม Wellness นวด/สปา ภาคเหนือ เช่น สปาจักราศี/สปาฟ้อนเล็บ การนวดภูมิปัญญาชาวบ้าน และเพลิดเพลินที่ ซะป๊ะคราฟท์ ที่จะมาจัดจำหน่ายสินค้า Handicraft ตกแต่งสไตล์ minimal และ กิจกรรม DIY อาทิ การเพ้นท์เครื่องปั้นดินเผาชุมชนบ้านเหมืองกุง - แสตมป์ไม้บนถุงผ้า ฟ้าฮ่าม Indigo Craft & Studio จ.แพร่ – ทำตุ้มหู และพวงกุญแจจากเศษผ้า สุนทรีผ้าไทย Suntree-Thai จ.สุโขทัย - ทำตุงใยแมงมุม บ้านหนองหม้อ Creative Village จ.เชียงราย
และส่งท้ายกันที่ ลานกิจกรรม “เวิ้งแวดเวียง” นำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวในเรื่องความเชื่อและศรัทธา (Faith+Festival) Illumination ฉายภาพจำลองสถานที่และเทศกาลที่มีชื่อเสียง เช่น เทศกาลโคมแสนดวง เทศกาลลอยกระทง จุดชมวิวทะเลหมอก สถานที่ท่องเที่ยว Unseen New Chapters หรือกิจกรรมทางการท่องเที่ยว เช่น ล่องแก่ง พายซับบอร์ด บอลลูน เป็นต้น
ล่องปักษ์ใต้ได้แรงอก หรอยแรงกันอย่างต่อเนื่อง ชูแนวคิด “เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัย ปลอดภัยได้มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน” ผ่านธีม "14 x 24 x 365 หรอยแรง"
ในโซนนี้นักท่องเที่ยวจะได้หรอยแรงไปกับจอ LED ขนาด22 เมตร x 6 เมตร ออกแบบสไตล์ Modern Southern นำเสนอบรรยากาศภาคใต้ทุกจังหวัดทุกช่วงเวลา พร้อมถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยว Popular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาในหลวง, เขาพับผ้า หนึ่งใน Unseen New Chapters พร้อมการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแสดงวัฒนธรรมแบบประยุกต์ ประกอบฉากสุดอลังการบนจอ LED ขนาดยักษ์ อาทิ การแสดงโนรา, มวยไชยา และลิเกฮูลู
นอกจากนี้ในโซนอาหาร ผู้เข้าร่วมยังสามารถลิ้มลอง 36 ร้านอาหารหรอยแรง โรตี จำนวน 3 ร้าน และ ชาชัก จำนวน 2 ร้าน และเข้าร่วมกิจกรรม DIY มากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ลูกปัดโนรา ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมทดลองทำของที่ระลึกกลับบ้านที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก
ชวน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “อีสาน...ไปไสกะแซ่บ” มากกว่าความแซ่บคือ ประสบการณ์ โดยนำเสนอประสบการณ์ความ “แซ่บ” ของอีสานผ่านวัฒนธรรมและนวัตกรรมอาหารอีสานและการแสดง ผ่านไฮไลท์ห้ามพลาด 7 แซ่บ ประกอบด้วย
จับมือพันธมิตรท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ ภายใต้แนวคิด TAT and the Gangs ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง การกีฬาแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตำรวจท่องเที่ยว สมาคมสายการบินประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (FETTA)
จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ส่งมอบความสุขแบบ Non-stop ตลอด 5 วัน สะท้อนอัตลักษณ์ของท้องถิ่นทั้ง 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และ คีตะมวยไทย การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ รำวงเพชรบุรี ทิฟฟานี่ คาบาเร่ต์โชว์ โขนและโนรา ฟีโน่ เดอะ ระนาด พร้อมการแสดงจากศิลปินที่นำไปสู่การเดินทางท่องเที่ยว เช่น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เป๊ก ผลิตโชค Paper Planes เจ เจตริน PARADOX PALMY 4MIX New Country Sarah Salola ลิเกฮีโร่ คณะสองเทพบุตรสุดที่รัก การแสดงหมอลำใจเกินร้อย (แอน อรดี บอย ศิริชัย) เอกชัย ศรีวิชัย เพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ ฯลฯ
โซนที่ 9 : TAT Net Zero
ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) นำเสนอความพร้อมของสินค้า บริการ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวในรูปแบบ Tourist Journey ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสถึงประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ตามแนวคิด TAT Net Zero ภายใต้ยุทธศาสตร์ Sustainable Tourism Goals: STGs
ผู้เข้าชมจะได้ร่วมทำกิจกรรม Sustainable Tourism Goals Games & Activities บันไดแห่งความยั่งยืน และชม Mapping Exhibition นำเสนอเรื่องราว The Nature Tourism, Amazing Thailand, เที่ยวได้ให้ด้วย, The Journey of Low Carbon Experience นำเสนอเรื่องราวโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (CF-Hotels) และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA)
นอกจากนี้ ททท. ยังตอกย้ำ DNA ขององค์กรในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มุ่งสู่คำว่า “Net Zero Tourism” โดยตั้งใจออกแบบการจัดงานให้มีการสร้างขยะน้อยที่สุด จึงได้ยกแนวคิด “Zero Landfills” ลดการสร้างขยะนำสู่บ่อฝังกลบ นำสู่การปฏิบัติ และมีการกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้การเดินทางท่องเที่ยวทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการตกแต่งภายในงาน โดยนำเทคโนโลยีมานำเสนอความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว
รวมทั้งภายในงานยังมีการตั้งจุดคัดแยกขยะ ทั้งหมด 14 จุด ประกอบด้วย 9 จุด ทั่วพื้นที่จัดงาน และ 5 จุด ตามโซนอาหารต่าง ๆ โดยแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกต้องในกิจกรรม “ลดโลกเลอะ Zero Landfills”
ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยสามารถเดินทางเข้ามายังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้หลายวิธี ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, เดินทางโดยรถแท็กซี่ ณ จุดบริการรับ-ส่ง ชั้น G บริเวณฝั่งทะเลสาบ, รถประจำทาง สาย 136 หรือ หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถมาจอดได้ที่ ชั้น B1 B2 LM จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ถัดไปชั่วโมงละ 30 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566” วันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าร่วมงานฟรี ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy