ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่ การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่หลายคนเตรียมตัวล่วงหน้าและปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจท่องเที่ยวย่อมมีเรื่อง“ความพร้อมทางการเงิน”เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอนและในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ผลการสำรวจของ SCB EIC พบว่า คนไทยมีวิธีในการปรับตัวเพื่อให้ยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ต่อไป
ชาวไทยยังคงพร้อมเที่ยวต่อในปีหน้าแต่มีแนวโน้มลดการใช้จ่ายลดลง เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะลดลงมากกว่าการท่องเที่ยวในประเทศ
ส่วนการใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ หากเป็นการท่องเที่ยวในประเทศจะอยู่ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อวัน และการใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIA+ และกลุ่มวัยทำงานเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ
ผลสำรวจ SCB EIC ระบุว่า แม้นักท่องเที่ยวไทยจะได้รับแรงกดดันด้านกำลังซื้อเพิ่มขึ้นแต่กลุ่มผู้มีสถานะการเงินที่มั่นคงยังมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่มีภาระหนี้ กลุ่มรายได้ดี และโดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นก็ยิ่งมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกลุ่มที่มีสถานะการเงินเปราะบาง พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งมีแนวโน้มท่องเที่ยวลดลงหรือยกเลิกแผนเที่ยว
ทั้งนี้มี 4 วิธีที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกใช้ในการปรับตัวด้านการท่องเที่ยวคือ
1.ลดความถี่ในการท่องเที่ยว
2.ลดช็อปปิงสินค้า
3.เลือกที่พักที่ราคาประหยัดมากขึ้น
4.ชะลอแผนการท่องเที่ยว
แนวโน้มการลดค่าใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวนี้ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับพฤติกรรมการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวยังคงเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตที่ชาวไทยให้ความสำคัญ จากสัดส่วนผู้ที่จะเลิกใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศมีเพียง 9% ซึ่งต่ำกว่าการเลิกใช้จ่ายในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
โดยกลุ่มผู้ที่เผชิญภาวะรายได้ไม่พอจ่ายจะมีการปรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก โดยผู้มีปัญหาทางการเงินบ่อยครั้งจะเลือกชะลอแผนการท่องเที่ยวมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ส่วนผู้มีปัญหาเป็นบางครั้งจะเลือกลดความถี่ในการท่องเที่ยวแทน
นอกจากนี้ ช่วงอายุที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการปรับตัวที่แตกต่างกันด้วย โดยกลุ่มวัยรุ่น/วัยเริ่มทำงานกับกลุ่มผู้สูงวัย จะพยายามคงแผนท่องเที่ยวเดิมแต่จะเลือกปรับพฤติกรรมการเที่ยวแทน
SCB EIC แนะนำว่า การเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวกำลังซื้อค่อนข้างดี การเพิ่มความคุ้มค่าของสินค้าหรือบริการท่องเที่ยวให้ตรงจุดกับนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มตามช่วงวัย และการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจ เป็น 3 กลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอาจนำมาพิจารณาเพื่อตอบโจทย์การปรับตัวของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางสูง
แม้นักท่องเที่ยวไทยโดยรวมจะมีแนวโน้มลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลง แต่กลุ่มผู้มีรายได้ค่อนข้างดีหรือผู้ที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มที่จะยิ่งใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ จึงทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังคงเติบโตได้ค่อนข้างดีต่อเนื่อง
การนำเสนอบริการที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มจะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวได้อย่างตรงจุด เช่น การดึงดูดนักท่องเที่ยววัยรุ่น/วัยเริ่มทำงานด้วยการนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจและเหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยที่เน้นความสะดวกสบายควรใช้วิธีเพิ่มความคุ้มค่าจากบริการพิเศษที่เหมาะสมแทน
จากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง ทำให้ภาคธุรกิจต้องบริหารจัดการต้นทุนเพื่อนำเสนอแพ็กเกจราคาประหยัดให้กับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งการบริหารจัดการต้นทุนสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้อย่าง AI, Automation ในการบริการลูกค้าและบริหารจัดการโรงแรม รวมถึงการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจในระยะยาว
ที่มา SCB EIC