รถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วงได้เปิดให้บริการแบบเต็มวันเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ผู้ใช้รถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทาง จะเสียค่าบริการ 20 บาทตลอดสายนั้น พบว่า ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม ตัวเลขผู้ใช้บริการกว่า 1 แสนคน เพิ่มขึ้นทะลุเป้าหมายที่กรมการขนส่งทางรางไว้เกือบ 10% และคาดว่าภายในเดือนพ.ย.นี้ จะสามารถดำเนินการเชื่อมต่อระบบการเก็บเงินเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายได้สำเร็จ
โดยปัจจุบันจะสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้เพียง 2 สายเท่านั้น คือ
- รถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
- รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
โดยวันแรกของการให้บริการรถไฟฟ้า สายสีแดงและสายสีม่วง ใช้มาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสายตามนโยบายรัฐบาลแบบทั้งวันเป็นวันแรก นวันที่ 17 ตุลาคม 2566 มีประชาชนมาใช้บริการรถไฟฟ้า
- สายสีแดง จำนวน 27,411 คน-เที่ยว ซึ่งรวมรถไฟทางไกลต่อสายสีแดง 254 คน-เที่ยว ล
- สายสีม่วงรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน 73,878 คน-เที่ยว
เมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ใช้วันที่ 2-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่า
- สายสีแดงเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 2,135 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 8.45% (ค่าเฉลี่ยสายสีแดง 25,276 คน-เที่ยว)
- สายสีม่วงเพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 3,138 คน-เที่ยวหรือเพิ่มขึ้น 4.44% (ค่าเฉลี่ยสายสีม่วง 70,740 คน-เที่ยว)
ขณะที่มีผู้ใช้บริการระบบรางรวมทั้งสิ้น 1,566,998 คน-เที่ยว ได้แก่
- รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 213 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 71,222 คน-เที่ยว แบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 25,050 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 46,172 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,495,776 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 223 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 8 เที่ยววิ่ง) จำนวน 69,285 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 27,411 คน-เที่ยว (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลใช้บริการสายสีแดงฟรี 254 คน-เที่ยว)
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 319 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 73,878 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 487 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 24 เที่ยววิ่ง) จำนวน 497,319 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,264 เที่ยววิ่ง จำนวน 785,605 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง จำนวน 5,240 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 37,038 คน-เที่ยว
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 497,319 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 26,973 คน-เที่ยวหรือเพิ่มขึ้น 5.73% (ค่าเฉลี่ยสายสีน้ำเงิน 470,346 คน-เที่ยว) เนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อกับสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) ที่สถานีเตาปูน
ดร.พิเชฐ คุณธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยว่า “มาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน ลดภาวะมลพิษ และลดการใช้พลังงานภายในประเทศ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคจากการเพิ่มการเดินทางของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เท่าเทียมในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ”
สำหรับมาตรการปรับอัตราค่าโดยสารตามระยะทางในอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาทดังกล่าว คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าผลตอบแทนด้านเศรษฐศาสตร์ ทำให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ โดยเมื่อมีผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น จะช่วยลดค่าเดินทางด้วยรถยนต์ ประหยัดเวลาในการเดินทาง ลดความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุทางถนน
รวมทั้ง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเมื่อรวม 5 ปัจจัยข้างต้น จะทำให้มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสิ้น 79.35 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 952.23 ล้านบาทต่อปี ถือเป็นผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมที่คุ้มค่า
โดยขณะนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานธนาคารกรุงไทยและผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า เร่งรัดดำเนินการปรับปรุงระบบการจัดเก็บค่าโดยสาร ในส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ทั้งนี้ จะต้องเปลี่ยนถ่ายระบบ ณ สถานีบางซ่อน ภายในระยะเวลา 30 นาที และในเบื้องต้นจะต้องใช้บัตรโดยสารใบเดียวกัน หรือบัตร EMV Contactless เท่านั้น โดยในระยะแรกหากข้ามระบบยังคงต้องชำระอัตราค่าโดยสารของแต่ละสายก่อน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบหรือซอฟต์แวร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในอัตราสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสายภายในเดือน พ.ย. 2566 นี้ต่อไป