โดดทัวร์ แปลงร่างเป็นผีน้อย กรณีล่าสุดของ 2 สามีภรรยาชาวไทย ที่ซื้อทัวร์เที่ยวเกาหลีแบบปกติกับบริษัททัวร์ แต่กลางดึกก่อนกลับ หายไปตัวไปไม่กลับกับทัวร์ งานนี้หัวหน้าทัวร์ งานเข้าเพราะไปเซ็นรับรอง ทำให้หากลูกทัวร์ไม่กลับด้วย หรือไม่ยอมกลับภายใน 90 วัน ตามวีซ่าอนุญาต หัวหน้าทัวร์อาจโดนทางการเกาหลีใต้ แบนห้ามเข้าประเทศเลยทีเดียว
ปัญหาคนไทยลักลอบหลบหนีเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้ ยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะหลังโควิด 19 คลี่คลายลง และเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้ ตม.ของเกาหลีใต้ เข้มงวดกับการเข้าประเทศของคนไทย
ข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมกาหลีใต้ พบว่า ในปี 66 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้จำนวนกว่า 2.14 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นคนไทยจำนวน 195,569 คน แบ่งเป็นชาย 91,081 คน หญิง 104,488
จากข้อมูลในเดือนกันยายนปี 2023 จำนวนคนงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีมีจำนวน157,000 คน เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 8 ปีที่ผ่านมา ปี 2015 มีแรงงานไทยผิดกฏหมาย ประมาณ 52,000 คน ซึ่งตัวเลขนี้มากกว่า 2.5 เท่า ของคนงานจีนที่ผิดกฎหมายในเกาหลีอยู่ที่ 64,000 คน
เท่ากับว่าคนไทยที่พำนักผิดกฎหมายมีสัดส่วนมากกว่า 75% ของคนไทยในเกาหลี ขณะที่ในปีที่แล้ว ประเทศไทยครองแชมป์ แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายสูงสุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 35.9 % จำนวน 147,482 คน
นอกจากสถิติการเแปลงร่างเป็นผีน้อยไม่ได้ลดลงแล้ว สถิติ อัตราการก่ออาชญากรรมของต่างชาติในเกาหลีปี 66 เช่น ยาเสพติด หรือ การทำร้ายร่างกาย พบว่า มีคนไทยติดอันดับ 3 รองจากจีนและเวียดนามอีกด้วย
ความเข้มงวดดังกล่าวของตม. เกาหลีใต้ กระทบไปถึงนักท่องเที่ยวตัวจริงที่จะเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ โดยในโลกโซเชี่ยลก่อนหน้านี้มีการพูดถึงหลายท่านที่เคยไปหลายครั้งก็ยังติด ตม.ได้จนเกิดกระแส เรียกร้องมาตรฐานการตรวจคนเข้าเมืองของ ตม.เกาหลีใต้
สำหรับเกาหลีใต้ เป็นประเทศยอดนิยมของคนไทย ในการออกไปเที่ยวต่างประเทศ ข้อมูลจาก VISA พบว่า คนไทยนิยมไปเกาหลีใต้ เป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น และในแต่ละปีก็มีคนไทยออกไปเที่ยวเกาหลีใต้หลายแสนคนเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามปัญหานี้ดูท่าทางจะไม่จบลงโดยง่าย ตราบใดที่คนไทยยังลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกฏหมาย ความเข้มงวดของทางการเกาหลี น่าจะยังคงอยู่ต่อไป
ที่มา
https://www.visa.co.th/th_TH/about-visa/newsroom/press-releases/nr-th-231031.html