ข่าวเศรษฐกิจ

คน ‘เวียดนาม’ จะรวยขึ้นมากที่สุดในโลก อีก 10 ปีความมั่งคั่งเพิ่ม 125% จากการเป็นฮับการผลิต

22 ก.พ. 67
คน ‘เวียดนาม’ จะรวยขึ้นมากที่สุดในโลก อีก 10 ปีความมั่งคั่งเพิ่ม 125% จากการเป็นฮับการผลิต

การศึกษาชี้ คน ‘เวียดนาม’ จะมีทรัพย์สินและความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้นที่สุดในระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า จากการที่ในปัจจุบันมีหลายบริษัทใหญ่ในโลกเข้าไปลงทุนในเวียดนามเพื่อตั้งฐานการผลิต ทำให้เวียดนามมีศักยภาพสูงในการเป็นฮับการผลิต และส่งออกสินค้าของโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจและรายได้ให้กับคนในประเทศ

การศึกษานี้จัดทำขึ้นโดย New World Wealth และ Henley & Partners บริษัทวิจัยข้อมูลและสถิติด้านความมั่งคั่ง และที่ปรึกษาด้านการย้ายถิ่นฐานเพื่อการลงทุน ซึ่งได้รวบรวมสถิติ วิเคราะห์ข้อมูล และคาดการณ์แนวโน้มความมั่งคั่งของประชากรในแต่ละประเทศทั่วโลก

ผลจากการศึกษา พบว่า ‘เวียดนาม’ เป็นประเทศที่ประชากรจะมีความมั่งคั่ง ทั้งในด้านการเติบโตของ GDP และจำนวนของมหาเศรษฐีในประเทศ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 125% ขณะที่ ‘อินเดีย’ ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยการเติบโต 110% 

แหล่งรับเงินลงทุนต่างชาติ โตจากการเป็นฮับผลิตและส่งออก

ปัจจุบัน เวียดนามกลายเป็นฐานการผลิตที่หลายๆ บริษัทใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, ยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้าและสิ่งทอนิยมมาตั้งฐานผลิต ด้วยข้อได้เปรียบด้านแรงงาน ที่ทั้งมีความสามารถ การศึกษาสูง และมีปริมาณมาก ทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบทั้งภายในประเทศ และส่งออกไปนอกประเทศ

นอกจากนี้ เวียดนามยังตั้งอยู่ในจุดที่เหมาะสมทางภูมิศาสตร์ เพราะมีชายแดนติดจีน และมีทางออกสู่เส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเล ทำให้บริษัทๆ ต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทจีนที่อยากหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ เลือกย้ายฐานกาารผลิตไปที่เวียดนาม และกลายเป็นจุดหมายสำคัญของการลงทุนของบริษัทต่างชาติ

ในปี 2023 การลงทุนโดยตรงต่างชาติ (FDI) ของเวียดนามมีมูลค่าทั้งหมด 3.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 32% จากปีก่อนหน้า โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดคือ ภาคการผลิตที่ได้รับเงินลงทุนไปทั้งหมด 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 64.2% ของปริมาณเงินลงทุนทั้งหมด ส่วนประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามมากที่สุดคือ ‘สิงคโปร์’ ที่ลงทุนไป 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 18.6% ของ FDI ทั้งหมด

การลงทุนจากต่างประเทศ และภาคการผลิตและส่งออกที่กำลังเติบโต ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากปี 2012 ถึง 2022 GDP ต่อหัวของเวียดนามเติบโตขึ้นถึง 90% จาก 2,190.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว เป็น 4,163.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว 

นอกจากนี้ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจยังทำให้จำนวนเศรษฐี และประชากรที่มีความมั่งคั่งสูงในเวียดนามยังเพิ่มขึ้นอีกรวดเร็ว โดยในปัจจุบัน เวียดนามมีเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งเกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 19,400 คน และมีเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 58 คน

 

เสี่ยงเป็นแหล่งแรงงานราคาถูก เร่งเพิ่มคุณภาพแรงงาน สร้างสินค้ามูลค่าสูง

ทั้งนี้ แม้จะมียังมีศักยภาพในการเติบโตสูง เวียดนามเสี่ยงที่กลายเป็นแหล่งแรงงานราคาถูก และได้รับผลกระทบจากแนวโน้มดีมานด์สินค้าที่ลดลงในอนาคตในช่วงเศรษฐกิจซบเซา

ดังนั้น เวียดนามจึงต้องเร่งสร้างความหลากหลายของธุรกิจในระบบเศรษฐกิจ เร่งสร้างอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เช่น เทคโนโลยี รวมไปถึงพัฒนากำลังแรงงานให้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งจากรายงานก่อนหน้านี้ เวียดนามมีข้อได้เปรียบในข้อนี้เหนือประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพราะมีประชากรจบการศึกษาด้านเทคโนโลยีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้

นอกจากนี้ เวียดนามยังต้องเร่งดึงดูดการลงทุนอื่นๆ นอกเหนือจากการลงทุนในภาคการผลิต เพื่อให้มีการวิจัยหรือพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงในประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กันระหว่างแรงงานระดับสูงจากต่างประเทศและเวียดนามได้





ที่มา: CNBC, Xinhua, World Bank

advertisement

SPOTLIGHT