ข่าวเศรษฐกิจ

ส่งออกไทยมี.ค หด 10.9% ดีมานด์ลดจากดอกเบี้ยสูง ปัญหาหนี้ โลกร้อนทำผลผลิตเกษตรลดลง

29 เม.ย. 67
ส่งออกไทยมี.ค หด 10.9%  ดีมานด์ลดจากดอกเบี้ยสูง ปัญหาหนี้ โลกร้อนทำผลผลิตเกษตรลดลง

ยอดส่งออกไทยลดลง 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากเศรษฐกิจโลกที่เผชิญความไม่แน่นอนและขยายตัวต่ำจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ การดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเข้มงวดยาวนาน ส่งผลต่อกำลังซื้อ และสภาพอากาศแปรปรวนที่ทำให้อุปทานของสินค้าเกษตรออกสู่ตลาดล่าช้า 

จากข้อมูลของ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของกระทรวงพาณิชย์ ในเดือนมีนาคม 2567 การส่งออกของไทยมีมูลค่ารวมทั้งหมด 24,960.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 10.9% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 26,123.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5.6% ทำให้ในเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยขาดดุลการค้ารวม 1,163.3 ล้านเหรียญสหรัฐ 

ในส่วนของภาพรวมไตรมาสแรกของปี 2567 การส่งออกของไทยมีมูลค่าทั้งหมด 70,995.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 0.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 75,470.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.8% ทำให้ประเทศไทยขาดดุลการค้ารวม 4,475.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า โดยหากแบ่งเป็นประเภท พบว่าสินค้าเกษตร ขยายตัว 0.1% และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 9.9% แต่ยังมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ 

  • ข้าว ขยายตัว 30.6% ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ อินโดนีเซีย โมซัมบิก มาเลเซีย และญี่ปุ่น) 
  • ยางพารา ขยายตัว 36.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัว ในตลาดจีน สหรัฐฯ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และสเปน) 
  • อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 1.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อิสราเอล ลิเบีย และแคนาดา) 
  • อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 29.6% ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อิตาลี มาเลเซีย และออสเตรเลีย) 
  • ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว 20.0% ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์) 
  • สิ่งปรุงรสอาหาร ขยายตัว 9.6% ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี) 
  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม ขยายตัว 19.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน (ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และญี่ปุ่น) 

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ 

  • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัว 16.7% (หดตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ แต่ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย สหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ อินเดีย และออสเตรเลีย) 
  • น้ำตาลทราย หดตัว 45.6% (หดตัวในตลาดอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดกัมพูชา ลาว นิวซีแลนด์ เวียดนาม และจีน) 
  • ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัว 38.7% (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ อินโดนีเซีย ฮ่องกง และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ขยายตัวในตลาดเกาหลีใต้ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และญี่ปุ่น) 
  • ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัว 50.2% (หดตัวในตลาดอินเดีย เมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา และจีน แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม เกาหลีใต้ ฮ่องกง ลาว จีน และเบลเยียม) 

ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 0.3%

 

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม พบว่าในเดือนมีนาคม มูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทนี้หดตัว 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ 

  • หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัว 4.0% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน เม็กซิโก และสหราชอาณาจักร) 
  • ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ขยายตัว 3.9% ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน มาเลเซีย สหรัฐฯ เวียดนาม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ 

  • รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัว 12.4% (หดตัวในตลาดฟิลิปปินส์ เม็กซิโก มาเลเซีย แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิวซีแลนด์) 
  • สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัว 10.5% (หดตัวในตลาดจีน มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดอินเดีย ลาว ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และไต้หวัน) 
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ หดตัว 11.8% (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเยอรมนี แต่ขยายตัวในตลาดจีน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) 
  • เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หดตัว 12.7% (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ อิตาลี ฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไต้หวัน แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น สเปน และออสเตรเลีย) 
  • อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หดตัว 16.1% (หดตัวในตลาดอินเดีย เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐเช็ก) 

ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม หดตัว 0.3%

มูลค่าส่งออกหดตัวทั้งตลาดหลักและตลาดรอง

ในเดือนมีนาคม มูลค่าส่งออกในตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่ของไทยหดตัว อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปสหรัฐฯ ทวีปออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศ CLMV ยังขยายตัวต่อเนื่อง ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ 

1. ตลาดหลัก หดตัว 9.1% โดยหดตัวในตลาดจีน 9.7% ญี่ปุ่น 19.3% สหภาพยุโรป (27) 0.1% และอาเซียน (5) 26.1% แต่ยังขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ 2.5% และ CLMV 0.5%

2. ตลาดรอง หดตัว 4.3% โดยหดตัวในตลาดเอเชียใต้ 6.1% ตะวันออกกลาง 7.3% แอฟริกา 11.9% ลาตินอเมริกา 10.2% รัสเซียและกลุ่ม CIS 14.2% และสหราชอาณาจักร 19.3% ขณะที่ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัว 13.5%

3. ตลาดอื่น ๆ หดตัว 82.3% อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ หดตัว 87.3%

ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% (ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ยางยานพาหนะ และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ และเครื่องรับโทรศัพท์และอุปกรณ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 9.9%

ตลาดจีน หดตัว 9.7% (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ยางพารา ไม้แปรรูป และฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 5.1%

ตลาดญี่ปุ่น หดตัว 19.3% (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่แปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 9.0%

ตลาดสหภาพยุโรป (27) หดตัว 0.1% (กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 2.4%

ตลาดอาเซียน (5) หดตัว 26.1% (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และแผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 5.2%

ตลาด CLMV ขยายตัว 0.5% (ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำตาลทราย เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องดื่ม เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 6.5%

ตลาดเอเชียใต้ หดตัว 6.1% (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เม็ดพลาสติก ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 3.2%

ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัว 13.5% (ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 22.0%

ตลาดตะวันออกกลาง หดตัว 7.3% (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และข้าว เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 5.1%

ตลาดแอฟริกา หดตัว 11.9% (หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 17.8%

ตลาดลาตินอเมริกา กลับมาหดตัว 10.2% สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายใน และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 2.9%

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS หดตัว 14.2% (กลับมาหดตัวในรอบ 13 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 ขยายตัว 22.9% 

ตลาดสหราชอาณาจักร หดตัว 19.3% (หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถจักรยานยนต์และและส่วนประกอบ รถปิคอัพ รถบัสและรถบรรทุก และยางยานพาหนะ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ไก่แปรรูป เครื่องประดับแท้ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น ทั้งนี้ ไตรมาสแรกของปี 2567 หดตัว 10.5%

การส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ และแนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป

สำหรับการส่งเสริมการส่งออก ในเดือนมีนาคมกระทรวงพาณิชย์มีการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ 

1. การเจรจาเพื่อเปิดตลาดสินค้าไทยในฮ่องกงและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า โดยผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองประเทศได้ร่วมหารือแนวทางการสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทย แลกเปลี่ยนข้อมูลสินค้าและบริการในการเปิดตลาดฮ่องกง และเชิญชวนผู้ประกอบการฮ่องกงที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน พร้อมขอความร่วมมือฮ่องกงสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ Soft Power ของไทยให้มากขึ้น ทั้งอาหาร ผลไม้ ข้าวหอมมะลิไทย และธุรกิจบริการไทย เช่น โรงพยาบาล โรงแรม และธุรกิจบริการด้านสุขภาพและบริการสำหรับผู้สูงอายุ 

2. การลงนามจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย-สาธารณรัฐเกาหลี โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเจรจา FTA ต่อไป โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ เนื้อไก่แช่แข็งและแปรรูป อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้เมืองร้อน อาทิ มะม่วง ฝรั่ง และมังคุด ผลิตภัณฑ์อาหาร อาทิ แป้ง ซอสและสิ่งปรุงรส ผลิตภัณฑ์ไม้ และเคมีภัณฑ์ ขณะที่ภาคบริการที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ การขนส่ง คลังสินค้า โรงแรม และภัตตาคาร เป็นต้น 

3. การอำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าผลไม้ไปจีน โดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครคุนหมิง ได้เข้าหารือกับผู้บริหารของจีน เพื่อเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผลไม้ไทยที่กำลังจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป ซึ่งฝ่ายจีนยืนยันความพร้อมในการรองรับผลไม้ไทยผ่านช่องทางด่านสำคัญต่าง ๆ และยินดีให้ความช่วยเหลือและประสานงานในกรณีที่เกิดปัญหาหรือข้อขัดข้องด้านการส่งออก 

แนวโน้มการส่งออกในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2567 จะยังขยายตัวได้จากสินค้าเกษตรและอาหารที่ไทยมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอาหารทั่วโลกและภาวะสงครามในบางประเทศ ทำให้ความต้องการสินค้าอาหารยังอยู่ในระดับสูง

สำหรับภาคการผลิตโลกยังคงทยอยฟื้นตัวส่งผลบวกต่อการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้า การทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันการส่งออกสู่ตลาดใหม่ๆ เพื่อชดเชยตลาดหลักที่ฟื้นตัวล่าช้า ขณะที่ยังมีปัจจัยท้าทายจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจจะกระทบต่อต้นทุนค่าขนส่ง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และจะทำงานร่วมกับทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศเพื่อหาแนวทางลดอุปสรรคในการส่งออกต่อไป

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT